ศาลอ้างหลักความเสมอภาค เลื่อนไต่สวนประกัน ‘ชูเกียรติ’ ครั้งที่ 3 ไป 1 มิ.ย. เหตุราชทัณฑ์งดเบิกตัว พี่สาวตั้งคำถาม “ความเสมอภาคคืออะไร”

19 พ.ค. 2564 เวลา 9.30 น. ที่ศาลอาญา รัชดา ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอประกันตัว ‘จัสติน’ หรือ ชูเกียรติ แสงวงค์ นักกิจกรรมจากจังหวัดสมุทรปราการ ในคดีแปะกระดาษบนรูปกษัตริย์รัชกาลที่ 10 หน้าศาลฎีกา ระหว่างการชุมนุม #ม็อบ20มีนา ของกลุ่ม “REDEM” โดยมีนายประกันและพี่สาวของชูเกียรติเดินทางมาศาล

การไต่สวนคำร้องครั้งนี้สืบเนื่องจากทนายความเข้ายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวชูเกียรติเป็นครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 64 โดยใช้หลักทรัพย์ประกันเป็นเงินสด 200,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ แต่ในวันที่ 14 พ.ค. ศาลได้มีคำสั่งให้เลื่อนการไต่สวนไปเป็นวันที่ 1 มิ.ย. 64 ระบุว่า เนื่องจากทางเรือนจำแจ้งว่า ไม่สามารถควบคุมการระบาดของโรคในเรือนจําได้ อีกทั้งมีปัญหาข้อขัดข้องในการเบิกตัวผู้ต้องขังมาสื่อสาร ทำให้ไม่สามารถเบิกตัวผู้ต้องหามาไต่สวนทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้

ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ หลังพี่สาวของชูเกียรติได้ทำหนังสือสอบถามถึงผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทางเรือนจำจึงได้ออกหนังสือแจ้งต่อศาลว่า กรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนหรือกระทบสิทธิผู้ต้องขัง หากศาลจะกำหนดให้มีการไต่สวน ก็สามารถเบิกตัวผู้ต้องขังได้ ศาลจึงมีคำสั่งกำหนดวันนัดไต่สวนใหม่เป็นวันที่ 19 พ.ค. 64

>> เลื่อนไต่สวนประกัน “จัสติน-ชูเกียรติ” 19 พ.ค. หลังเรือนจำยืนยันกรณีกระทบสิทธิผู้ต้องขัง ดำเนินการผ่านวีดิโอได้

เรือนจำแจ้งไม่สามารถเบิกตัวชูเกียรติมาศาลได้อีก ก่อนศาลให้ไต่สวนพยาน 3 ปาก

ในวันนี้ ศาลได้แจ้งกับพยานและทนายความที่มาร่วมไต่สวนว่า ศาลได้ส่งหนังสือสอบถามเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ที่ ศย.300.002/สค.2792 ลงวันที่ 17 พ.ค. 64 ว่า ทางเรือนจำสามารถนำตัวชูเกียรติมาไต่สวนในวันที่ 19 พ.ค. 64 ได้หรือไม่ วันเดียวกันเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีหนังสือตอบกลับว่า สามารถนำตัวมาไต่สวนได้

อย่างไรก็ตามในวันที่ 18 พ.ค. 64 ราชทัณฑ์ได้มีหนังสือมายังศาลอาญา ที่ ยธ.0768/4834 โดยกล่าวถึงหนังสือที่ได้แจ้งไปก่อนหน้านี้ว่าสามารถนำตัวชูเกียรติมาได้ว่า บัดนี้มีการยกระดับมาตรการ Bubble and seal ของทางเรือนจำ ทำให้ไม่สามารถเบิกตัวชูเกียรติมาไต่สวนที่ศาล หรือไต่สวนทางจอภาพได้ โดยมาตรการนี้เริ่มตั้งแต่ 16-30 พ.ค. 64

ด้วยเหตุนี้ศาลจึงไม่สามารถเบิกตัวชูเกียรติมาไต่สวนในวันนี้ได้ ทนายความได้แถลงขอให้ศาลพิจารณาบันทึกถ้อยคำของชูเกียรติซึ่งได้ลงลายมือชื่อว่า ยินยอมปฎิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลจะกำหนด และรับปากว่าจะไม่กระทำการใดให้เสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์ เพื่อประกอบกับการไต่สวนพยาน 3 ปาก ทนายผู้ต้องหายังแถลงอีกว่า หากศาลต้องการให้ผู้ต้องหามาให้ถ้อยคำด้วยตนเอง อาจอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในวันนี้ แล้วกำหนดวันนัดให้ผู้ต้องหามาให้ถ้อยคำด้วยตนเองในภายหลังได้

ศาลกล่าวว่า ขอปรึกษาหารือก่อน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาผู้ต้องหาหรือจำเลยทุกคนที่ได้รับการประกันตัว ต้องได้ให้ถ้อยคำด้วยตนเอง ศาลจึงควรดำเนินการในมาตรฐานเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์

10.05 น. เริ่มการไต่สวนพยานปากแรก นูรเดียนา พี่สาวของชูเกียรติ อายุ 59 ปี เข้าเบิกความ โดยกล่าวว่าตนเป็นผู้ดูแลอุปการะชูเกียรติและเป็นนายจ้าง ตลอดเวลา 7-8 ปี ตั้งแต่เรียนจบ ซึ่งชูเกียรตินับถือตนเป็นพี่สาว

นูรเดียนาเบิกความว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 64 ตนได้รับแจ้งจากทางเรือนจำว่าชูเกียรติติดโควิด-19 หลังจากตนมายื่นประกันตัวในวันดังกล่าว ทำให้ศาลไม่สามารถเบิกตัวชูเกียรติมาไต่สวนได้ ที่ผ่านมาพยานได้ติดตามอาการป่วยของชูเกียรติมาโดยตลอดและได้รับใบรับรองแพทย์มาในวันที่ 10 พ.ค. 64 ว่าชูเกียรติหายจากอาการป่วยแล้ว ตนจึงยื่นคำร้องขอไต่สวนประกันตัวอีกครั้งในวันที่ 12 พ.ค. 64 และศาลได้นัดไต่สวนอีกครั้งในวันที่ 14 พ.ค. 64 ก่อนจะได้รับแจ้งเป็นครั้งที่ 2 จากศาลว่า เรือนจำไม่สามารถนำตัวชูเกียรติมาไต่สวนได้ เนื่องจากมาตรการควบคุมโควิดในเรือนจำ

เมื่อทราบดังนั้น ตนได้ทำหนังสือสอบถามทางเรือนจำถึงเหตุที่ไม่สามารถนำตัวชูเกียรติมาไต่สวนได้ โดยเรือนจำได้ทำหนังสือตอบกลับว่า หากศาลมีการกำหนดวันนัดไต่สวน เรือนจำสามารถดำเนินการไต่สวนผ่านทางจอภาพได้ ตนจึงยื่นขอให้ไต่สวนการประกันตัวในวันที่ 14 พ.ค. 64 โดยศาลได้มีคำสั่งนัดไต่สวนในวันนี้

พี่สาวชูเกียรติรับรองว่า หากชูเกียรติได้รับการปล่อยตัว จะดูแลควบคุมชูเกียรติอย่างใกล้ชิด โดยจะให้มาช่วยตนทำงาน หากศาลกำหนดวันนัดสืบพยาน ตนจะให้ชูเกียรติมาตามวันนัด โดยผู้ต้องหาไม่เคยไปต่างประเทศ และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง

จากนั้น ชลิตา บัณฑุวงศ์ เข้าเบิกความว่า ตนรู้จักชูเกียรติผ่านทางลูกศิษย์ โดยได้สนทนากับเขาหลายครั้ง จากการที่ชูเกียรติมาพูดคุยขอคำปรึกษาเกี่ยวกับสังคมการเมือง เนื่องจากตนสอนอยู่ที่ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และชูเกียรตินับถือตนเป็นอาจารย์

หากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว และให้พยานเป็นผู้กำกับดูแลตามกฎหมาย พยานก็ยินดีรับผิดชอบจะกำกับดูแลชูเกียรติให้ปฎิบัติตนตามเงื่อนไขที่ศาลได้กำหนด พร้อมทั้งมาตามนัดหมายของศาล

ถ้อยคำ “ชูเกียรติ” จากเรือนจำ ยินยอมรับเงื่อนไขศาล

ภายหลังเสร็จสิ้นการไต่สวนพยาน 2 ปาก ศาลได้พักการพิจารณา และเริ่มไต่สวนพยานปากที่ 3 ในเวลา 14.00 น. โดย มนทนา ดวงประภา ทนายความ เข้าเบิกความยืนยันว่าเป็นผู้นำบันทึกถ้อยคำไปให้ชูเกียรติลงลายมือชื่อรับรองเอกสารที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

รายละเอียดในบันทึกถ้อยคำระบุว่า

ผู้ต้องหาขอให้ถ้อยคำต่อศาลว่า หากได้รับการปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาจะไม่หลบหนี เนื่องจากผู้ต้องหาไม่เคยมีพฤติการณ์จะหลบหนีแต่อย่างใด

ผู้ต้องหามีฐานะปานกลาง ไม่ได้ร่ำรวย ไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพลหรืออันธพาล อีกทั้งพยานหลักฐานในคดีนี้พนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมได้โดยง่าย โดยที่ผู้ต้องหาไม่สามารถไปยุ่งเหยิงได้ ทั้งผู้ต้องหามีภูมิลำเนาและมีสถานที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาจะไม่หลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือจะไปก่อเหตุภยันตรายประการอื่น หรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการสอบสวนหรือการพิจารณาคดีของศาล

รวมทั้งจะไม่เข้าร่วมการชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และยินดีปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือคำสั่งศาลโดยเคร่งครัดทุกประการ กล่าวคือจะไม่กระทำการใดในลักษณะเช่นเดียวกับที่ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาในคดีนี้ อันเป็นที่เสื่อมเสียแก่สถาบันพระมหากษัตริย์ หรือเข้าร่วมในกิจกรรมใดที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง

ผู้ต้องหาจะไม่ออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และจะมาศาลตามกำหนดนัด โดยยินยอมอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ผศ.ดร.ชลิตา บัณฑุวงศ์ อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเกี่ยวข้องเป็นอาจารย์นักวิชาการที่ผู้ต้องหาเคารพนับถือและพบปะพูดคุยและ ติดต่อกันสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหายป่วยจากโรคติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ตามใบรับรองแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ฉบับลงวันที่ 11 พ.ค. 2564

ศาลสั่งเลื่อนการพิจารณาคดี อ้างเพื่อรักษาความเสมอภาค

ภายหลังการไต่สวนเสร็จสิ้น เวลา 15.00 น. มุขเมธิน กลั่นนุรักษ์ มีคำสั่งให้เลื่อนการไต่สวนชูเกียรติออกไป ระบุในคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว คณะผู้บริหารศาลเห็นว่าเพื่อรักษาความเสมอภาคในการสั่งคดีของศาล จึงเห็นสมควรจะต้องให้ผู้ต้องหามาเบิกความต่อศาล จึงให้เลื่อนการไต่สวนผู้ต้องหาออกไปเป็นวันที่ 1 มิ.ย. 64 เวลา 10.00 น. เบิกตัวผู้ต้องหามาในวันนัด หรือโดยระบบสื่อสารทางไกลผ่านจอภาพ”

หลังจากศาลกำหนดนัดใหม่ พี่สาวของชูเกียรติยืนขึ้นแถลงว่า ความเสมอภาคที่ศาลกล่าวถึงนั้นคืออะไร ชูเกียรตินั้นหายจากโควิดแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะไม่สามารถไปติดโควิดอีก

เมื่อศาลบอกว่าเบิกตัวชูเกียรติมาศาลไม่ได้ ทางครอบครัวก็พยายามขอให้ไต่สวนการปล่อยตัวชั่วคราวของชูเกียรติผ่านวิดีโอ ดำเนินการประสานงานให้ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และศาลอาญาได้เข้าใจถึงความพร้อมของการไต่สวนชูเกียรติจากในเรือนจำ แต่ศาลก็มีคำสั่งให้เลื่อนการพิจารณาออกไป ทางครอบครัวจึงขอถามว่า ความเสมอภาคที่ว่าคืออะไร ตรงไหนคือความเสมอภาค

ศาลตอบคำถามของพี่สาวชูเกียรติเพียงสั้นๆ ว่าความเสมอภาคก็คือความเหมือนกัน ในคดีอื่นๆ ได้สั่งคดีอย่างไรในคดีนี้ก็ต้องทำเหมือนกัน ก่อนสิ้นสุดการพิจารณา

ปัจจุบัน ‘จัสติน’ หรือ ชูเกียรติ แสงวงค์ ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นวันที่ 58 โดยถูกฝากขังระหว่างสอบสวนและไม่ได้รับการอนุญาตให้ประกันตัวมาตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. 64

ทั้งนี้น่าสังเกตว่า วานนี้ (18 พ.ค. 64) ในการไต่สวนคำร้องขอประกันตัวของณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร และธวัช สุขประเสริฐ 2 จำเลยคดีล้อมรถควบคุมตัว “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก และ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ ไม่ได้มีการเบิกตัวจำเลยทั้งสองมาไต่สวนผ่านวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ เนื่องจากสถานการณ์โควิด แต่ทนายจำเลยได้ยื่นบันทึกถ้อยคำแถลงของจำเลยทั้งสอง ประกอบการไต่สวน และศาลอาญาก็ดำเนินการไต่สวนพยาน ก่อนมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวได้ แม้จำเลยคดีเดียวกันอีก 3 ราย ศาลไต่สวนผ่านคอนเฟอเรนซ์ก่อนให้ประกันตัว

>> ให้ประกัน “ณัฐนนท์-ธวัช” คดีล้อมรถ พร้อมเงื่อนไข “ห้ามร่วมกิจกรรมที่ก่อความวุ่นวาย”
>> ให้ประกัน “สมคิด-ฉลวย-ศักดิ์ชัย” หลังถูกจองจำเกือบ 3 เดือนและติดโควิดในเรือนจำ ด้าน ศักดิ์ชัย ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

อ่านข้อมูลคดีและการยื่นประกันตัว
>> ชูเกียรติ คดี 112 ติดกระดาษบนรูป ร.10 ชุมนุม 20 มีนา

X