ส่งท้ายเดือนมิถุนายน เดือน Pride Month ชวนอ่าน 4 บทความ-บทสัมภาษณ์-บันทึกเยี่ยมในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งนำเสนอเรื่องราวการเคลื่อนไหวของสิทธิและเสรีภาพในเรือนจำของเหล่าผู้ต้องขังทางการเมือง และการให้คุณค่าความเป็นมนุษย์ในกลุ่มผู้ต้องขัง LGBTQ+
จากสถานการณ์วิกฤตทางการเมือง และปัญหาด้านสิทธิประกันตัว ยังมีกลุ่มคนที่ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา และสร้างความหวังผ่านแสงสีรุ้ง ซึ่งทอประกายลอดผ่านกำแพงคอนกรีตหนาในเรือนจำไทย เพื่อส่งเสียงเรียกร้องให้สังคมข้างนอกตระหนักถึงคุณค่าของความหลากหลายทางเพศซึ่งมีอยู่จริงแม้ในพื้นที่ที่มืดมิดที่สุด.
เมื่อสุริยน ย่ำ (แดน) สนธยา: คุณค่าความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องขัง LGBTQ+ ใต้กะลาเรือนจำ สองเพศ โดย ณัฐวรรธน์ แก้วจู
บทความวิชาการนำเสนอปัญหามาตรฐานทางสิทธิมนุษยชน และการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องขัง โดยนำเสนอผ่านมุมมองการตระหนักถึงเรื่อง “ความหลากหลายทางเพศ” เพราะภายในเรือนจำไม่ได้มีเพียงผู้ต้องขังตรงเพศ (Cisgender) เท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มผู้ต้องขังที่มีความหลากหลายทางเพศ เช่น กะเทย เกย์ คนข้ามเพศ ซึ่งมักเผชิญกับการเลือกปฏิบัติ การถูกคุกคาม และขาดการเข้าถึงบริการพื้นฐานด้านสุขภาพบางประการที่มีความจำเพาะเมื่อต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำที่ถูกจัดระบบไว้ภายใต้กรอบคิดแบบสองเพศด้วย
อ่านบทความ https://tlhr2014.com/archives/75378
Pride Month ปีนี้ “แม็กกี้” ผู้ต้องขังคดี ม.112 ขอร่วมผลักดันให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศในเรือนจำมีสิทธิเทคยาฮอร์โมน
บันทึกเยี่ยมของ “แม็กกี้” ผู้ต้องขังผู้มีความหลากหลายทางเพศ วัย 28 ปี ผู้ถูกขังในคดีมาตรา 112 ที่เรือนจำกลางคลองเปรม ลงวันที่ 6 มิ.ย. 2568 เธอเปิดเผยว่าตัวเองต้องรับยาฮอร์โมนเป็นประจำ ซึ่งที่ผ่านมาการส่งยาฮอร์โมน – การรับยาภายในเรือนจำเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก โดย Pride Month วนกลับมาเป็นปีที่ 2 แล้วสำหรับแม็กกี้ที่ต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
แม็กกี้มองว่าถ้าเป็นเรื่องที่เธออยากส่งเสียงเพื่อผู้ต้องขังที่มีความหลากหลายทางเพศ ก็คงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรได้รับยาฮอร์โมนในปริมาณที่เหมาะสม “หนูมองว่าแม้จะอยู่ในเรือนจำ แต่ผู้ต้องขังที่มีความหลากหลายทางเพศควรได้รับยาฮอร์โมนค่ะไม่ว่าจะอยู่ที่เรือนจำใด อย่างตอนที่หนูอยู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ หนูยังไม่ได้รับยาเลยค่ะ หนูมาได้รับยาอีกทีก็ตอนที่ถูกย้ายมาที่เรือนจำกลางคลองเปรม ดังนั้นเรื่องนี้หนูว่าควรผลักดัน”
อ่านบันทึกเยี่ยมแม็กกี้ https://tlhr2014.com/archives/75867
รักเราข้ามกำแพงได้: เรื่องเล่าฉบับ Love Letter ของ “แอมป์” และ “โอ๋” ในห้วงแห่ง Pride Month
จดหมายถึงคนรักในเดือนมิถุนายน เดือนแห่งการย้ำเตือนถึงการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมและการเฉลิมฉลอง Pride Month “โอ๋” หุ้นส่วนธุรกิจร้านอาหารวัย 34 ปี นั่งเล่าเรื่องราวความรักผ่านจดหมายข้ามกำแพง – โดมิเมล์ (DomiMail) – 5 ฉบับ ที่ส่งออกมาจากเรือนจำ จาก “แอมป์” ณวรรษ เลี้ยงวัฒนา คนรักที่อยู่ในช่วงเวลาไร้เสรีภาพจากโทษทัณฑ์คดีมาตรา 112 ด้วยน้ำเสียงอบอวลไปด้วยความคิดถึง
หลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 1 ปี 7 เดือน แอมป์ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างฎีกาตั้งแต่ วันที่ 9 ธ.ค. 2567 ถึงตอนนี้นับเป็นระยะเวลากว่า 6 เดือนแล้ว การแยกจากกันครั้งนี้ไม่เพียงสร้างความว่างเปล่าในใจ แต่ยังเป็นช่วงเวลาแห่งการพิสูจน์ความมั่นคงของความรู้สึกที่ทั้งคู่มีต่อกัน
ในวันที่สังคมไทยเฉลิมฉลองการผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการยอมรับความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เรื่องราวของโอ๋และแอมป์จึงมีความหมายมากขึ้น เพราะท่ามกลางบรรยากาศแห่งความก้าวหน้าในบางด้าน พวกเขากลับยังต้องเผชิญกับอุปสรรคที่เกิดจากความแตกต่างทางความคิดและการเมือง
จดหมายแต่ละฉบับตั้งแต่ปลายปี 2567 ที่พวกเขาเริ่มต้องห่างไกล จึงไม่เพียงเป็นการสื่อสารระหว่างคนรัก แต่ยังเป็นเสียงสะท้อนของความโหยหา ความเจ็บปวด และความฝันที่ถูกเลื่อนออกไป เป็นบันทึกของคนสองคนที่ต้องเรียนรู้ว่าความรักสามารถอยู่รอดได้ แม้จะถูกแยกจากกันด้วยกำแพงคดีทางการเมือง
อ่านบทสัมภาษณ์ https://tlhr2014.com/archives/76001
Pride Month ที่ไม่มีในเรือนจำ “แอมป์” เผยช่องว่างสิทธิผู้ต้องขังเพศหลากหลาย หวั่นปัญหาหลังปิด Domimail
บันทึกเยี่ยมของ “แอมป์” ณวรรษ เลี้ยงวัฒนา อดีตนักศึกษานิเทศศาสตร์ผู้ถูกคุมขังในคดีมาตรา 112 หลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 1 ปี 7 เดือน จากคดีปราศรัยในการชุมนุม #นับ1ถึงล้านคืนอำนาจให้ประชาชน บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2564
การพบกันในเดือน Pride Month แอมป์เผยมุมมอง เริ่มจากการวิจารณ์ Rainbow Washing ปรากฏการณ์ที่บริษัทต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์เป็นสีรุ้งเพื่อการตลาด โดยไม่เคยสนใจเรื่องความหลากหลายทางเพศมาก่อน แอมป์เตือนว่าแม้กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะผ่านไปแล้ว การต่อสู้ยังไม่จบ ยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องติดตามต่อ
เขายังเล่าถึงความแตกต่างของสิทธิผู้ต้องขัง LGBTQ+ ระหว่างเรือนจำต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องการเข้าถึงเครื่องสำอางและยาฮอร์โมน กับความกังวลสำคัญตอนนี้คือการยุติบริการระบบส่งจดหมาย Domimail ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. 2568 ซึ่งแอมป์มองว่าเป็นมากกว่าแอปพลิเคชัน แต่เป็นเครื่องมือเยียวยาจิตใจและบรรเทาความเครียดของผู้ต้องขัง สำหรับแอมป์การสูญเสียบริการนี้อาจนำไปสู่ปัญหาใหม่ในเรือนจำ
อ่านบันทึกเยี่ยมแอมป์ https://tlhr2014.com/archives/76089