แพทย์วินิจฉัย ‘วิจิตร’ ป่วยปอดอักเสบเรื้อรัง ต้องรักษาต่อเนื่อง 6 เดือน เตือนสภาพเรือนจำไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วย ล่าสุดถูกส่งตัวกลับ รพ.ราชทัณฑ์ แล้ว

ระหว่างวันที่ 24-26 มิ.ย. 2568 ที่สถาบันโรคทรวงอก ทนายความเข้าเยี่ยม “วิจิตร” (นามสมมติ) ผู้ต้องขังทางการเมืองและอดีตผู้รับเหมาก่อสร้างวัย 59 ปี ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการโพสต์ข้อความทางการเมืองในช่วงหลังรัฐประหาร ปี 2557-58 รวม 10 โพสต์ ซึ่งถูกคุมขังหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 10 ปี และศาลยังคงไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี ระยะแรกวิจิตรถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก่อนภายหลังถูกย้ายไปคุมขังที่เรือนจำกลางคลองเปรม 

ก่อนหน้านี้ราว 3 สัปดาห์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ตรวจพบว่าวิจิตรมีภาวะปอดติดเชื้อและมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ต่อมาหลังอาการเขาเริ่มทรุดลงและมีติดตามอาการของเขาจากสังคม วิจิตรถูกส่งตัวมาตรวจร่างกายและแอดมิทที่สถาบันโรคทรวงอก โดยช่วงวันที่ 19 มิ.ย. 2568 มีการผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อต่อมน้ำเหลืองเพื่อส่งตรวจ ขณะที่การตรวจฟิล์มเอกซ์เรย์ปอดและเสมหะอย่างละเอียดแล้วไม่พบเชื้อวัณโรค แม้ปอดมีลักษณะเป็นฝ้าสีขาว แต่แพทย์เห็นว่าไม่ใช่ลักษณะของวัณโรค

จากการเข้าเยี่ยม วิจิตรพูดได้แต่เสียงเบามาก มีอาการเพลีย ไอหนักเป็นระยะพร้อมขากเสมหะและน้ำลาย แพทย์วินิจฉัยว่าจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อที่แฝงภายในปอด รวมถึงวางแผนส่องกล้องปอดและตัดชิ้นเนื้อเพื่อหาเชื้อแฝง จากการติดตาม 3 วันหลังสุด วิจิตรมีการปรับตัวที่ดีขึ้น หลังจากการส่องกล้องปอดและตัดชิ้นเนื้อเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. และต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์ในการทราบผล

อย่างไรก็ตาม แพทย์ได้แจ้งผลส่องกล้องอย่างไม่เป็นทางการว่าไม่ใช่โรคมะเร็ง แต่เป็นการอักเสบจากการติดเชื้อซ้ำซาก ทั้งระบุว่าไม่ใช่วัณโรค จึงเปลี่ยนแนวทางการรักษาจากยาวัณโรคมาเป็นยาสเตียรอยด์แทน ส่งผลให้อาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว สามารถหลับลึก ไม่มีไข้ รู้สึกสดชื่น และไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอีก แม้จะมีผลข้างเคียงจากการหยุดยาวัณโรคทำให้วิจิตรรู้สึกร้อนไปทั้งตัวจนถึงคอ แต่หลังจากแพทย์ฉีดยาและเอายาฆ่าเชื้อมาใส่ให้ อาการก็ทุเลาลง และสามารถนอนหลับได้

ขณะนี้แผนการรักษาคือการฉีดยาสเตียรอยด์อย่างต่อเนื่อง 5-7 วัน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกินยาสเตียรอยด์ไปอีก 2 เดือน โดยมีนัดพบแพทย์ที่สถาบันโรคทรวงอก ทุก ๆ 15 วัน แพทย์ระบุว่ากระบวนการรักษาต้องเป็นไปอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน โดยมีข้อกังวลกับการใช้ยาสเตียรอยด์ เนื่องจากยาชนิดนี้จะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงอย่างมาก หากต้องกลับไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาดของเรือนจำ อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อใหม่ที่รุนแรงกว่าเดิมจนถึงแก่ชีวิต

แพทย์จึงแนะนำให้พักรักษาตัวในสภาพแวดล้อมที่สะอาดต่อไป เช่นที่โรงพยาบาล เบื้องต้นหลังออกจากสถาบันโรคทรวงอก คาดว่าวิจิตรจะอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์จนกว่าจะให้ยาสเตียรอยด์เรียบร้อย เนื่องจากสภาพแวดล้อมในเรือนจำไม่เอื้อต่อการรักษาตัว โดยล่าสุดในช่วงเย็นวันที่ 27 มิ.ย. 2568 เขาถูกนำตัวกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว

ขณะเดียวกัน วิจิตรและภรรยายังคงมีความหวังต่อการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่อาจมีการพิจารณาวาระแรกในวันที่ 9 ก.ค. 2568 ซึ่งหากผ่าน จะช่วยแก้ไขปัญหาทั้งด้านสุขภาพและครอบครัวที่กำลังประสบความลำบากทางการเงินจากการที่เขาถูกขังในเรือนจำ

.

________________________________

.

วันที่ 24 มิ.ย. 2568

ขณะที่มาถึงวิจิตรกำลังนอนหลับ และห่มผ้าจนถึงคอ ยังคงใส่สายให้ออกซิเจนทางจมูก ที่แขนข้างซ้ายกำลังให้น้ำเกลือ ที่เตียงมีป้ายสีแดง ๆ ปรากฏข้อความ “งดอาหารและน้ำดื่มทุกชนิด” ทราบต่อมาว่าเริ่มงดตั้งแต่เที่ยงคืนของวันนี้ และมีกระดาษติดระบุข้อความ  “จิบน้ำ 13.40 น. ไอเลือดออก และตะแคงขวา”

เวลา 13.13 น. พยาบาลนำสายน้ำเกลือออกไป และแจ้งว่าช่วง 13.30 น. วิจิตรจะสามารถจิบน้ำได้ และค่อยปรับทานอาหาร แพทย์เดินมาแจ้งว่าวันนี้ช่วงเช้า ได้ส่องกล้องเพื่อดูสภาพปอดโดยส่องปอดข้างขวาเพียงข้างเดียว และตัดชิ้นเนื้อแล้ว ผลชิ้นเนื้อดังกล่าวใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 2 สัปดาห์จึงจะทราบผล

“โดยรวมสำหรับผมการรักษาตัวที่นี่ถือว่าดีขึ้นมากครับ เพราะได้เจอแพทย์เฉพาะทางจึงดำเนินการได้ค่อนข้างรวดเร็ว อีกทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ของโรงพยาบาลนี้ถือว่าทันสมัยเป็นอย่างมาก ผมเห็นว่าช่วงเวลาที่รอผลนั้นผมกลับไปรอทราบผลที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็ได้” วิจิตรระบุ

เวลา 14.00 น. พยาบาลแจ้งว่าสามารถทานอาหารได้แล้ว เป็นอาหารที่ทางโรงพยาบาลจัดเตรียมให้ได้แก่ บะหมี่หมูแดง ไข่ต้ม และขนมชั้น ก่อนจะรับประทานยาตามหลัง วิจิตรยังดูอ่อนเพลีย เดินไม่ค่อยไหว เนื่องจากไม่ได้เดินไปมา และนั่งอยู่บนเตียงตลอด และร่างกายซูบผอมลง และยังมีอาการไอค่อนข้างหนัก

“ผมมีอาการหนาว เมื่อหนาวผมจึงห่มผ้า พอผมห่มผ้าไข้ก็ขึ้น ผมก็ต้องเลิกห่มผ้า เช็ดตัวให้เย็น และประคบเย็นครับ ไข้จึงจะลดลง”

ก่อนบทสนทนาเปลี่ยนไปคุยเรื่องวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง สำหรับวันที่ 24 มิถุนายน “ทุกครั้งที่คิดถึงวันนี้มันรู้สึกพะอืดพะอม อาจจะดีใจที่ในช่วงเวลานั้นได้รู้จักการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แต่มีบางสิ่งแอบแฝงอยู่ในการปกครองดังกล่าว”  วิจิตรแสดงทัศนะ 

“ประชาธิปไตยของไทยจึงไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการลวงโลก แม้จะมีการเลือกตั้งเพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นประชาธิปไตยแล้ว แต่คนภายนอกมองมาก็รับรู้ได้ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อำนาจนั้นไม่ได้อยู่ที่ราษฎร แต่อยู่ที่ชนชั้นศักดินาต่างหาก”

เขาเห็นว่า 10 ปีที่ผ่านมานั้น อำนาจอยู่ในมือคนที่ยึดอำนาจ ออกคำสั่งส่วนตัวก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นกฎหมายได้ คนที่ฉีกกฎหมาย รัฐธรรมนูญทิ้งไป และหนำซ้ำยังนิรโทษกรรมความผิดของตน

“ผมที่เป็นคนแก่แล้ว ภายหลังจากคดีของผมสิ้นไป ผมว่าจะหยุดในเรื่องของการเมือง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็จะคอยตามสนับสนุน และดูความเคลื่อนไหวต่าง ๆ”

วิจิตรกล่าวทิ้งท้ายให้กำลังใจคนที่ยังต่อสู้เพื่อการเมืองที่ดีกว่าว่า  “ขอให้นักประชาธิปไตยมีขวัญกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไป เพราะระบอบประชาธิปไตย เป็นระบอบเดียวเพียงเท่านั้นที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาต่อไปได้”

.

วันที่ 25 มิ.ย. 2568

ขณะที่มาถึงวิจิตรไม่ได้ใส่สายให้ออกซิเจนแล้ว เนื่องจากวันนี้ไม่ได้อ่อนเพลีย หายใจได้คล่องขึ้น วิจิตรบอกว่าวันนี้รู้สึกร่างกายสดชื่นขึ้น เมื่อคืนหลับตั้งแต่ 21.00 น. และเป็นการหลับลึก  

“ผมจำได้เพียงว่าไอ 1 ครั้งถ้วน และก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วครับ เมื่อคืนผมเป็นไข้ไหมก็ไม่ทราบ ร่างกายตอนนี้ดีขึ้น และไม่รู้สึกอ่อนเพลียเท่าไหร่ ถึงจะรู้สึกเหนื่อย ๆ บ้าง ส่วนเสียงที่แหบอยู่นั้น เกิดจากเมื่อวานที่ได้ใส่เครื่องช่วยหายใจขณะที่ทำการส่องกล้อง”  โดยรวมของวันนี้เขาพูดได้ค่อนข้างเยอะ อารมณ์ค่อนข้างดี และหัวเราะเป็นพัก ๆ ทานอาหาร ผลไม้ได้มากขึ้น

สังเกตที่กุญแจข้อเท้า วันนี้ไม่ได้ใส่แล้ว ภรรยาของวิจิตรแจ้งว่าขอให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ช่วยไขกุญแจเพื่อให้เขาได้เดินบ้าง หากนั่งอยู่แต่บนเตียงเกรงว่าอาจจะกล้ามเนื้ออ่อนแรงก็ได้ อย่างน้อยก็ให้ได้เดินไปมารอบเตียงบ้าง 

วิจิตรแจ้งว่าขณะนี้รอผลตรวจชิ้นเนื้อปอด เพื่อดูว่าป่วย TB (วัณโรค) จริง ๆ หรือไม่ หากไม่ได้เป็น แต่เป็นเชื้ออื่นแฝง และเชื้อดังกล่าวที่มีอาการใกล้เคียงกับ TB ก็จะพิจารณาแนวทางการรักษาต่อไป ส่วนที่แพทย์ให้ทำการรักษา TB ไปก่อนนั้น เพราะแพทย์ไม่อยากให้เสียเวลาในการรักษา รักษาไปก่อน แม้ภายหลังได้ผลตรวจแล้วไม่ได้เป็น TB จริง ก็แค่หยุดการรักษา และเปลี่ยนไปรักษาในรูปแบบอื่นแทน ทั้งนี้แพทย์อยากให้พักรักษาตัวที่สถาบันทรวงอกไปก่อน รอจนกว่าผลตรวจชิ้นเนื้อ จะออก

วันนี้เขาไอเพียงเล็กน้อย และเสมหะมีลักษณะเป็นน้ำเสียมากกว่า มีลักษณะเป็นฟองเพียงเล็กน้อย และปริมาณเสมหะไม่ได้เยอะเท่าวันก่อน ๆ และมีการเจาะเลือดไปตรวจทุกวัน บางวันเจาะ 2 รอบ บางวันเจาะรอบเดียว ก่อนวิจิตรเล่าซ้ำไปถึงวันแรกที่แพทย์ของสถาบันทรวงอกสั่งให้แอดมิท  “ผมยังจำความรู้สึกนั้นได้เหมือนผมรอดตายเลยครับ”

หลังจากนั้นแพทย์เดินมาที่เตียง และแจ้งว่าแม้ผลการส่องกล้องจะยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่อยากมาเพื่อพูดคุยก่อน อย่างแรกที่ต้องแจ้งให้ทราบ “คุณลุงไม่ได้เป็นมะเร็งครับ แต่ปอดมีลักษณะของการอักเสบจากการติดเชื้อซ้ำ ๆ  ฉะนั้นจึงต้องทำการรักษาโดยการใช้ยาสเตียรอยด์ การใช้ยาสเตียรอยด์นั้นในช่วงแรกจะเป็นแบบฉีด ต่อจากนั้นจะมีการปรับเป็นยาทาน และยาจะส่งผลให้ช่วงแรกของการรักษานั้นภูมิคุ้มกันของคุณลุงจะต่ำลงไปด้วย ส่วนการรักษาต้องรักษาต่อเนื่องเป็นเวลานานเลยครับ ประมาณ 6 เดือน แพทย์ก็จะมีนัดในแต่ละเดือนครับ” 

แพทย์กล่าวด้วยว่าช่วงเดือนแรกอาจจะมาถี่หน่อย แต่สิ่งที่กังวลมากกว่าคือในเรื่องของสถานที่ที่วิจิตรต้องกลับไปหลังจากนี้ เนื่องจากต้องเป็นสถานที่ที่มีความสะอาด และต้องทานเฉพาะอาหารปรุงสุกเท่านั้น เพราะหากสภาพแวดล้อมไม่สะอาด อาจจะส่งผลให้ตัวเขานั้นมีโอกาสได้รับเชื้ออีก อาการอาจจะหนักกว่าเดิม และการรักษาจะซับซ้อนยากกว่าเดิม 

หมออธิบายอีกว่า “ตามจริงผมก็อยากให้พักรักษาตัวอยู่ที่สถาบันทรวงอกต่อไป แต่คงเป็นไปได้ยากหากได้รับยาทานแล้วอาจจะถูกส่งกลับทางเรือนจำ ฉะนั้นผมอยากให้หาแนวทางก่อนว่า เราจะให้คุณลุงอยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ไปก่อนได้หรือไม่ ให้ทำการรักษาจนหายขาด และค่อยให้กลับไปภายในเรือนจำอีกที”

.

วันที่ 26 มิ.ย. 2568

วิจิตรนอนขดตัวอยู่บนเตียงตอนที่ไปถึง เพราะถูกย้ายมาเตียงฝั่งของผู้ป่วยวัณโรคแล้ว เมื่อลืมตาตื่นเห็นว่ามีคนยืนรออยู่  เขาก็ยิ้มพร้อมลุกขึ้นนั่งทักทาย และอัปเดตอาการของตนเองให้ฟังเป็นอย่างแรก จากที่ตัดเนื้อเยื่อตรงปอดไปตรวจ ผลออกมาว่ามีการติดเชื้อซ้ำกันหลายช่วงเวลา แต่ที่ไม่ออกอาการเพราะตอนอยู่ข้างนอก ภูมิต้านทานดีก็เลยกดเชื้อไว้ได้ แต่พอเจอสภาพแวดล้อมในเรือนจำก็เลยป่วย 

“ตอนนี้กินยาฆ่าเชื้อกับใช้สเตียรอยด์ ตั้งแต่ใช้สเตียรอยด์ก็รู้สึกว่ามันสดชื่น เมื่อคืนก็นอนหลับได้ ไม่มีไข้ แต่สเตียรอยด์มันเป็นยาที่มีผลต่อร่างกายนะ หนึ่งในข้อเสียของมันคือมันกดภูมิต้านทานของเรา การรักษาแทบจะเปลี่ยนไปวันต่อวันเลยครับ” 

แล้วเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป กลายเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล “ปัญหาคือ ถ้าต้องกลับเรือนจำตอนที่ใช้สเตียรอยด์ จะติดเชื้อง่ายมาก หมอบอกว่าถ้าติดเชื้อใหม่อีก อาการจะรุนแรงขึ้นมาก อาจถึงแก่ชีวิต เพราะภูมิคุ้มกันต่ำ ต้องระวังขนาดที่เท้าห้ามแตะโคลน แต่ในคุกน่ะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก ฝนตกทีก็เฉอะแฉะไปหมด มันไม่ใช่บ้านหรือโรงพยาบาลที่เราสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้” 

“น้ำหนักผมลดลงไป 12 กิโลแล้วครับ มันเป็นการติดเชื้อที่พิสดารมาก” วิจิตรพูดพลางหัวเราะออกมา 

เขาสอบถามต่อเรื่องสถานการณ์การเมืองและความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ก่อนอัปเดตความคืบหน้าเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่าอาจจะมีการพิจารณาวันที่ 9 ก.ค. 2568  หลังจากที่เลื่อนร่างกฎหมายเรื่องคาสิโนออกไป เรื่องนี้ทำให้วิจิตรและภรรยามีความหวังขึ้นมาก

ขณะที่ภรรยาของเขา เล่าความลำบากหลังสามีที่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างกลายเป็นผู้ต้องขังทางการเมือง  

“ไม่ใช่ทุกคนที่ทำแทนเขาได้ พี่ช่วยงานเขาอยู่ พิมพ์สัญญา ทำใบเสนอราคา แต่เราไม่มีความรู้เฉพาะทาง ทำบ้านกับทำวัดไม่เหมือนกัน ถ้าทำบ้านใช้ช่างเดิมก็ยังพอทำได้ แต่ทำวัดต้องใช้ไอเดียออกแบบ ต้องเข้าใจศิลปะ เข้าใจความต้องการของพระจริง ๆ เขาเป็นคนที่ทำได้ตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบเลย”

เธอสะท้อนสถานการณ์ว่า “ตอนนี้เคลียร์งานเก่าก็ยาก พอมีงานใหม่เข้ามาก็ทำแทนไม่ได้ ทั้งเหนื่อย ทั้งเครียด ลูกเรียนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ ปี 3 แล้ว ถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้น อาจต้องกู้ กยศ. แต่คงยาก เพราะเราไม่ได้กู้มาตั้งแต่แรก”  ก่อนมองไปที่สามีด้วยความหวัง  “ถ้า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผ่าน สถานการณ์บ้านเราน่าจะดีขึ้น” 

.

ล่าสุดในช่วงเย็นวันที่ 27 มิ.ย. 2568 มีรายงานวิจิตร ถูกนำตัวจากโรงพยาบาลทรวงอก ย้ายกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว

ร่วมเขียนจดหมายออนไลน์ถึงวิจิตร และผู้ต้องขังทางการเมือง ผ่านโครงการ Free Ratsadon โดยแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่ลแนล

.

อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

‘วิจิตร’ เผยนาทีผ่านวิกฤติชีวิต ยังคงไอ-ไข้ขึ้นสูง แพทย์สถาบันโรคทรวงอกเร่งหาสาเหตุปอดเป็นฝ้า 

ยกคำร้องประกัน ‘วิจิตร’ ระบุราชทัณฑ์สามารถดูแลได้ ขณะเดียวกันแม้ติดต่อ รพ.กว่า 14 แห่ง ยังไม่มีที่ไหนตอบรับ ด้าน รพ.ราชทัณฑ์ เริ่มให้ยาวัณโรคเพิ่ม

“วิจิตร”: เมื่อเด็กชายในสงครามคอมมิวนิสต์ ผู้สร้างโบสถ์วิหาร ต้องเผชิญคดีการเมือง

X