เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย. 2568) ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทนายความเข้าเยี่ยม “วิจิตร” (นามสมมติ) อดีตผู้รับเหมาก่อสร้างวัย 59 ปี ผู้ต้องขังทางการเมืองที่เผชิญข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการโพสต์ข้อความทางการเมืองในช่วงหลังรัฐประหาร ปี 2557-58 รวม 10 โพสต์ ซึ่งถูกคุมขังหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 10 ปี และไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์
ก่อนหน้านี้ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์กำลังทำเรื่องเตรียมส่งตัววิจิตรไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น แต่เท่าที่ทราบขณะนี้มีการติดต่อโรงพยาบาลไปแล้ว 14 แห่ง แต่ยังไม่มีการตอบรับ และในขณะเดียวกันศาลอุทธรณ์ยังยกคำร้องขอประกันตัว แม้อาการโดยรวมยังไม่ดีขึ้นนัก ยังคงขึ้น ๆ ลง ๆ และน้ำหนักตัวยังคงลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว และวันนี้วิจิตรเริ่มทานยารักษาวัณโรคตามที่แพทย์แนะนำเป็นวันแรกแล้ว
.
สำหรับกรณีของวิจิตร แพทย์ตรวจพบว่าวิจิตรมีภาวะ “ปอดติดเชื้อ” และมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดร่วมด้วย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา จึงทำให้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ตั้งแต่นั้นเรื่อยมา
16 มิ.ย. 2568 ทนายความได้เข้าเยี่ยมวิจิตร และสังเกตเห็นว่าเขาสวมใส่หน้ากากอนามัยและมีร่างกายที่ผอมแห้งลงกว่าเดิม เสื้อผ้าชุดสีขาวดูหลวมกว่าตัวเขามาก บริเวณหลังข้อมือข้างขวาไม่มีอุปกรณ์สำหรับใส่สายน้ำเกลือแล้ว แต่เปลี่ยนไปเจาะบริเวณช่วงแขนล่างข้างซ้ายแทน โดยรวมค่อนข้างอ่อนเพลีย แต่ยังพูดคุยได้ตามปกติ เพียงแค่จะตอบช้าลงกว่าเดิม เพราะผลจากการทานยา
วิจิตรบอกว่าตนเองในวันนี้มีน้ำหนักอยู่ที่ 51.9 กิโลกรัม อาการในตอนนี้เป็นการไอแรง ๆ สลับกับการมีไข้สูง ไม่มีน้ำมูก ไม่มีเสมหะ และเมื่อไอนาน ๆ จะมีฟองน้ำลายสีใสเกิดขึ้น จำเป็นต้องบ้วนทิ้ง และยังมีการให้ยาฆ่าเชื้อที่มีฤทธิ์แรงกว่ายาฆ่าเชื้อในครั้งแรก ส่งผลให้ขณะที่ปัสสาวะจะรู้สึกแสบประมาณหนึ่ง แต่เขายังพอทนไหว
สำหรับการรักษาตัว วิจิตรบอกว่าโรงพยาบาล แพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การดูแลรักษาเป็นอย่างดี วันนี้มีการส่งเลือด และเสมหะไปตรวจที่แล็ป อีกทั้งเขาได้พบแพทย์ ซึ่งแพทย์แจ้งว่าให้ยาฆ่าเชื้อที่ครอบคลุมอาการเจ็บป่วยไปแล้ว แพทย์ได้แนะนำให้ลองรักษาวัณโรคด้วย วิจิตรเห็นด้วย วันนี้เขาจึงเริ่มทานยารักษาวัณโรคเมื่อช่วงหลังอาหารเที่ยงที่ผ่านมา
แพทย์บอกถึงอาการป่วยของวิจิตรว่าเป็นลักษณะกราฟขึ้นลง (เดี๋ยวดีขึ้น เดี๋ยวทรุดตัว) ต้องติดตามอาการตลอด อย่างในช่วงที่เขาไข้ขึ้นสูง ก็เป็นช่วงที่วิจิตรกำลังนั่งคุยกับผู้ต้องขังคนอื่น อยู่ ๆ เขาก็มีอาการไข้ขึ้นสูงฉับพลันและทรุดทันที วัดไข้ได้ประมาณ 38-39 องศา ทำให้ต้องนอนพักทันที และมีผู้ช่วยนำผ้ามาเช็ดตัวให้เขาตลอด
วิจิตรเล่าต่อว่าสำหรับการทานยาพาราฯ เพื่อบรรเทาอาการนั้นไม่ได้ช่วยให้อาการเขาดีขึ้นแล้ว อีกทั้งวิธีการขับเหงื่อออกจากร่างกาย ต้องใช้วิธีตรงกันข้ามกับเวลาที่ป่วยปกติ กล่าวคือปกติหากไม่สบาย คนทั่วไปจะใช้วิธีการห่มผ้าหนา ๆ เพื่อให้เหงื่อออก แต่สำหรับเขาใช้วิธีนั้นไม่ได้ผล กลับกลายเป็นจะทำให้ไข้หนักกว่าเดิม เขาจึงต้องใช้วิธีการถอดเสื้อผ้าออกบางส่วน เพื่อให้ลมพัดและร่างกายขับเหงื่อออกมา
วิจิตรเล่าว่า ก่อนหน้านี้ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ กำลังทำเรื่องเตรียมส่งตัววิจิตรไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น แต่เท่าที่เขาทราบขณะนี้มีการติดต่อโรงพยาบาลไปแล้ว 14 แห่ง แต่ยังไม่มีการตอบรับ เขามองว่าถ้าได้รักษาตัวที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานีก็เป็นการดี เนื่องจากประวัติการรักษาเดิมของเขาอยู่ที่นั่น แต่ถ้าไม่ได้มีการย้าย หรือส่งต่อไปรักษาตัวที่ใดก็ไม่เป็นไร วิจิตรก็คิดว่าที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็คงให้การรักษาที่ดีพอ
ทนายสังเกตเห็นว่าระหว่างที่พูดคุยกัน วิจิตรไอแห้งเป็นพัก ๆ ต่อกันนาน และได้สอบถามอาการ วิจิตรตอบว่าเขารู้สึกอ่อนเพลีย มีอาการบ้านหมุน ซึ่งเขาได้แจ้งแพทย์แล้ว ส่วนตอนนี้ก็คิดได้ช้าลง และมีอาการเบลอร่วมด้วย
ก่อนจากกัน วิจิตรได้ฝากข้อความถึงลูกสาว และลูกชายของเขาว่า “บุญคุณต้องตอบแทน แค้นไม่ต้องชำระ อย่าไปโกรธคนที่ทำร้ายพ่อ ถือว่าพ่อมีบุญมาแค่นี้ จงอโหสิในเรื่องทุกอย่าง ตั้งใจเรียนให้มาก และหากในอนาคตเราสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ จงช่วยเขาเท่าที่ไหว”
เมื่อจบบทสนทนา วิจิตรค่อย ๆ เดินไปที่ประตูและเรียกเจ้าหน้าที่ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง เขาจึงถูกนำตัวนั่งรถเข็นกลับขึ้นไปข้างบน
.
อย่างไรก็ตาม แม้ทนายความยื่นขอประกันตัววิจิตรไปเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2568 และศาลอาญาส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องการประกันตัว ระบุเหตุผลว่า “พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา พฤติการณ์แห่งคดี และโทษที่ศาลชั้นต้นลงแก่จำเลย ประกอบกับศาลอุทธรณ์เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์มาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งศาลฎีกาก็เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์อันเนื่องจากเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี
“ส่วนที่จำเลยอ้างว่าเจ็บป่วยนั้น กรมราชทัณฑ์สามารถดูแลจัดการให้ได้ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 55 และตามพฤติการณ์ยังไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง”
กรณีนี้ยังทำให้วิจิตรยังคงถูกคุมขังและรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งจนถึงวันนี้เขาถูกขังมาแล้ว 92 วัน
อ่านเรื่องราวของวิจิตร
“วิจิตร”: เมื่อเด็กชายในสงครามคอมมิวนิสต์ ผู้สร้างโบสถ์วิหาร ต้องเผชิญคดีการเมือง