เข้าปีที่สองในเรือนจำ “บัสบาส” กับความหวังที่ยังไม่ดับ

“ยังรับจดหมายอยู่นะ” บัสบาสกล่าว ก่อนบทสนทนาจะสิ้นสุดลง

ช่วงเช้าวันที่ 3 ก.พ. 2568 ท่ามกลางอากาศที่ยังหนาวเย็นของจังหวัดเชียงราย ทนายความเดินทางไปยังเรือนจำเพื่อนำร่างฎีกาในคดีที่ 3 ของ “บัสบาส” หรือ มงคล ถิระโคตร ให้เขาตรวจสอบและลงลายมือชื่อ ระหว่างที่รอ ทนายถูกเชิญเข้าไปในห้องเยี่ยม ที่มีคอมพิวเตอร์ตั้งเรียงราย หนึ่งในหน้าจอปรากฏภาพของบัสบาส เขาชูป้ายชื่อตัวเอง เพื่อระบุตัวตนให้เข้ามาพูดคุย

บนหน้าจอ บัสบาสสวมเสื้อกันหนาวสีน้ำเงิน ใบหน้าของเขาดูสดใสขึ้นกว่าครั้งก่อน เมื่อสอบถามถึงเสื้อกันหนาว บัสบาสตอบเรียบ ๆ ว่า “เปล่า อันนี้ซื้อเอง” เพราะเรือนจำไม่มีเสื้อกันหนาวให้ผู้ต้องขัง ต้องซื้อเอาเอง และเขาตั้งข้อสังเกตว่าเสื้อกันหนาวอาจไม่เพียงพอสำหรับผู้ต้องขังทุกคน

.

เมื่อพูดถึง คดีที่ 4 ที่บัสบาสเพิ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหาเมื่อต้นเดือนมกราคม คำถามของเขาคือ “ผมจะถูกส่งไปขังที่กรุงเทพไหม?”

เมื่อได้รับคำตอบว่า ไม่น่าจะถูกส่งไป แต่ต้องเดินทางไปขึ้นศาลที่กรุงเทพฯ หากมีการสั่งฟ้องคดี สีหน้าของบัสบาสดูผิดหวัง เมื่อถามว่าอยากไปกรุงเทพฯ หรือ เพราะหากไป พ่อแม่ที่อยู่เชียงรายอาจมาเยี่ยมไม่ได้ บัสบาสตอบเบา ๆ ว่า “อยู่ที่นี่ก็ลำบากพ่อแม่ มาเยี่ยมก็ลำบาก ไกล แต่ก็ยังอยากจะเจอ ถ้าถูกส่งไปที่กรุงเทพฯ  พ่อแม่คงไม่ลำบาก”

เขาทำใจไว้แล้วว่า “คดีของผมคงไม่จบแค่นี้” อีกฝ่ายคงจะพยายามหาอะไรมาเพิ่มให้เขาเรื่อย ๆ แต่เขา “ก็พร้อมจะสู้ต่อไป”

“ถ้าเป็นลูกหลานคุณโดนแบบนี้บ้างล่ะ?” บัสบาสกล่าว

เขาตั้งคำถามถึงการใช้มาตรา 112 ในคดีของเขา “มันคือการกลั่นแกล้ง” เขาเชื่อว่าข้อกล่าวหาใหม่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้เขาต้องอยู่ในเรือนจำนานขึ้นจากเดิมที่นานมากอยู่แล้ว คือ 54 ปี ตามโทษจากชั้นอุทธรณ์ในสามคดี แม้คดียังไม่สิ้นสุดลงก็ตาม

.

“ในเรือนจำ มันเงียบเหงา…” บัสบาสกล่าวถึงบรรยากาศที่เขาเผชิญ

เขาบอกว่าการถูกคุมขัง ทำให้เขาไม่สามารถติดตามข่าวสารจากโลกภายนอกได้ ไม่มีโทรทัศน์เปิดข่าวให้ดู ไม่มีหนังสือพิมพ์ ได้แต่รอคอย โปสการ์ด และ จดหมาย จากคนข้างนอก วันก่อนเขาเพิ่งได้รับโปสการ์ดรูปแวนโก๊ะจากคนรู้จัก แค่เพียงหนึ่งใบก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น

ถึงแม้จะไม่มีข่าวสารทางการเมือง บัสบาสก็บอกว่า เขาอยากรู้ข่าวอะไรก็ได้ ขอแค่มีเรื่องใหม่ ๆ มาเล่าสู่กันฟัง จะได้มีอะไรพูดคุยกับเพื่อนในเรือนจำ

“Squid Game กับ Pyramid Game สนุกมากนะ” บัสบาสหันมาเล่าถึงซีรีส์ที่เขาได้ดูในเรือนจำ

เขาบอกว่า ช่วงนี้เรือนจำนำซีรีส์เกาหลีมาเปิดให้ผู้ต้องขังดูในห้องขัง บัสบาสเล่าว่าแรก ๆ ก็ไม่ได้สนใจ แต่พอดูไปเรื่อย ๆ “หยุดดูไม่ได้เลย”

เขาชอบ Squid Game และ Pyramid Game เพราะทั้งสองเรื่องสะท้อนปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม Squid Game นำเสนอถึงคนเป็นหนี้ที่ต้องเล่นเกมเพื่อปลดหนี้ ส่วน Pyramid Game เป็นเกมที่ให้เด็กนักเรียนโหวตกัน ใครคะแนนสูงได้รับสิทธิพิเศษ ใครได้โหวตต่ำจะถูกกดขี่ ซึ่งสอดแทรกระบบการโหวตในระบอบประชาธิปไตยไว้

“อิจฉา… อยากให้ประชาธิปไตยของไทยเข้มแข็งเหมือนเกาหลีใต้บ้าง” บัสบาสสรุป

.

บัสบาสยังเล่าถึงปัญหาในเรือนจำที่เขาพูดหลายครั้ง คือเรื่องอาหาร โดยเมื่อไม่นานมานี้ ผบ.เรือนจำ ได้มาเยี่ยมแดน 1 บัสบาสถือโอกาสลุกขึ้นถามถึงปัญหาเรื่องอาหารในเรือนจำ ว่าทำไมไม่มีหมูหรือไก่เป็นชิ้นให้กินเลย 

คำตอบที่ได้รับบัสบาสจำได้ว่า เพราะอาหารเป็นแบบ Standard ไม่มีรสชาติ ต้องทำให้คนป่วยกินได้ ถ้าผู้ต้องขังอยากให้รสชาติเข้มข้นก็ต้องซื้อน้ำปลา เพิ่มเองจากร้านค้าของเรือนจำ

“แล้วเนื้อสัตว์เป็นชิ้น ๆ ล่ะ หายไปไหน?” เขายังตั้งคำถามเดิมอยู่ และยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน

อีกเรื่องหนึ่งคือกฎการเยี่ยมญาติของเรือนจำ นอกจากปัญหาการให้เยี่ยมได้เพียงเดือนละครั้ง แตกต่างจากเรือนจำอื่น ๆ ที่อย่างน้อยก็อาทิตย์ละครั้ง เขายังระบุว่าผู้มีสิทธิเยี่ยมต้องเป็น “ญาติสายตรงที่มีนามสกุลเดียวกัน” เท่านั้น ทำให้เพื่อนหรือคนรู้จักไม่สามารถมาเข้าเยี่ยมเขาได้เลย

“พ่อแม่ผมยังพอมาเยี่ยมได้ แต่ถ้าวันหนึ่งพวกเขามาไม่ไหวล่ะ” เขาถาม

ที่ผ่านมาเขาพยายามเพิ่มชื่อคุณลุงที่รู้จักกันเข้ามาในรายชื่อเยี่ยม 10 คน แต่ก็ถูกปฏิเสธ เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่เขาเคยขอเพิ่มชื่อคนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ญาติก็ถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลเดียวกัน

“ผมแจ้งชื่อเพื่อนทุกคน แจ้งชื่อจริงนามสกุลจริงหมด แต่ในระบบเรือนจำ มันขึ้นเป็น ‘ถิระโคตร’ หมดเลย” 

.

“รอวันออกมา… เดี๋ยวก็ได้ออกกันแล้ว” 

กว่าหนึ่งปีแล้วที่บัสบาสอยู่ในเรือนจำ เขาฝากบอกว่าผู้ต้องขังทางการเมืองควร “รักษาสุขภาพให้มาก ๆ” เพราะไม่ว่าอย่างไร “เดี๋ยวก็ได้ออกกันแล้ว”

เมื่อถามว่าอยากฝากกำลังใจให้ใครเป็นพิเศษไหม บัสบาสยิ้มเล็ก ๆ แล้วตอบว่า “ไม่มีกำลังใจจะให้ เพราะตัวเองยังเอาไม่รอดเลย”  

บัสบาสฝากว่าช่องเก็บของในแดน 1 ของเขาเริ่มแน่นแล้ว เพราะมีจดหมายและโปสการ์ดส่งมาเยอะ แต่เขายัง “อยากให้ส่งมาเรื่อย ๆ”

ก่อนจบบทสนทนา เขาทิ้งท้ายสั้น ๆ ว่า “ยังรับจดหมายอยู่นะ”

.

📩 สามารถเขียนจดหมายถึงบัสบาส

📍 จ่าหน้าซอง: “ฝากถึง มงคล ถิระโคตร แดน 1 เรือนจำกลางเชียงราย เลขที่ 222 หมู่ 3 ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57000”

หรือเขียนจดหมายออนไลน์ผ่านโครงการ Free Ratsadon โดยแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่ลแนล

.

ย้อนอ่านบันทึกเยี่ยมบ้านบัสบาส “ก็แค่ยักไหล่แล้วไปต่อ ผมยังหายใจอยู่นี่หน่า”: พาเยี่ยมบ้าน ‘บัสบาส’ ผู้ต้องโทษประวัติศาสตร์คดี ม.112

ย้อนอ่านบทสัมภาษณ์บัสบาส เสียงเพลงพังก์ ในโลกขบถของ “บัสบาส” ผู้ต่อสู้คดี 112

X