1
นี่เป็นการเดินทางโดยรถไฟลงใต้เพื่อไปเยี่ยมใกล้ชิดเป็นครั้งที่ 2 หลังสามีของเธอถูกจองจำ มาเกือบครบ 1 ปีครึ่งแล้ว
26 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา เป็นการเดินทางไกลอีกครั้งของ “ของขวัญ” จากปราจีนบุรี เธอต้องนั่งรถไฟเข้ากรุงเทพฯ ก่อนต่อรถไฟลงไปถึงนราธิวาส เพื่อเข้าเยี่ยมใกล้ชิด “อุดม” สามีของเธอ ผู้ถูกคุมขังระหว่างฎีกาในคดีมาตรา 112 อยู่ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส
“หวัดดีครับสุดที่รักของน้อง น้องตื่นเต้นมากนอนไม่หลับเลย ตื่นแต่เช้าออกจากบ้าน 4.30 เพื่อไปรอขึ้นรถไฟ 06.30 อากาศเย็นมาก อยากกอดอ้ายที่สุด ถึงหัวลำโพง 10.30 ก็รีบไปซื้อตั๋วรถไฟสายสั้น เพื่อไปลงกรุงเทพอภิวัฒน์ นั่งรอประมาณ 4 ชั่วโมงกว่ารถจะออก ถึงตันหยงมัส 10.30 ของวันที่ 27 ฝนตกปรอย ๆ นั่งสองแถวเข้าที่พัก และได้แวะที่เรือนจำเพื่อรับใบจอง” ของขวัญเริ่มต้นบันทึกถึงการเดินทางไปเยี่ยมครั้งนี้ ที่ยาวไกลกว่า 30 ชั่วโมง
อุดม เป็นอดีตคนงานโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์วัย 36 ปี เขาถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. 2566 หลังถูกศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืน เห็นว่าข้อความที่เขาโพสต์ในเฟซบุ๊กมีความผิดใน 2 ข้อความ ลงโทษจำคุก 4 ปี และศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวเขามานับแต่นั้น โดยเขายังรอวันนัดฟังคำพิพากษาในศาลสุดท้ายอยู่
ขณะที่ “ของขวัญ” อายุอ่อนกว่าอุดม 4 ปี เธอทำงานเป็นคนงานผลิตชิ้นส่วนชิพในปราจีนบุรี ชีวิตของเธอหนักหน่วงขึ้นหลังสามีถูกจองจำ เมื่อต้องรับผิดชอบทั้งครอบครัวเพียงคนเดียว
ก่อนหน้านี้เธอเคยเดินทางมาเยี่ยมใกล้ชิดอุดมเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 ครั้งหนึ่งแล้ว แต่นอกจากการเยี่ยมใกล้ชิด ในรอบปีกว่าที่ผ่านมา อุดมและของขวัญได้คุยกันสั้น ๆ ผ่านการเยี่ยมผ่านไลน์เดือนละประมาณ 2 ครั้ง ครั้งหนึ่งมีเวลาราว 10-15 นาที ในการทักทายไต่ถามกัน ไม่สามารถพบเจอกันได้มากกว่านั้น เนื่องจากระยะทางที่แสนไกล และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทำให้ของขวัญจะเดินทางไปเมื่อมีโอกาสสำคัญอย่างการเยี่ยมใกล้ชิด ที่ทำให้ทั้งคู่คุยกันได้นานขึ้น
.
2
“พอตกดึก ฝนตกลงมาอย่างหนัก คืนนั้นพยายามข่มตานอน แต่นอนไม่หลับ หลับ ๆ ตื่น ๆ ตื่นเต้นที่จะได้กอดอ้าย บรรยากาศเดิม ๆ ใกล้ถึงเวลาเจอกัน ตื่นเต้นที่สุด”
อุปสรรคครั้งนี้ ของขวัญบอกว่าสภาพอากาศที่ต่างกันมากในสองภูมิภาค โดยการต้องเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่จากปราจีนบุรี เจอกับสภาพอากาศที่ยังหนาวเย็นอยู่ แต่พอมาถึงพื้นที่ภาคใต้ กลับพบกับฝนที่ตกหนัก ทำให้ร่างกายเธอที่ไม่ค่อยสบายอยู่แล้ว ก็ประสบปัญหาอาการป่วยหลังเดินทางกลับ
ของขวัญมีโรคประจำตัวเป็นโรคหอบหืดและออกซิเจนในเลือดต่ำ หากอาการกำเริบจะมีอาการไออย่างหนักและหายใจไม่ออก ทำให้เธอต้องขับมอเตอร์ไซต์ไปโรงพยาบาลเอง เพื่อเฝ้าระวังอาการที่เกิดขึ้น ซึ่งโดยปกติจังหวะเวลาเช่นนี้ จะมีอุดมอยู่เคียงข้าง และเป็นคนขับรถพาเธอไป
ของขวัญเล่าว่า ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2567 เธอแทบจะต้องไปแอดมิทที่โรงพยาบาลทุกเดือน บางครั้งก็เลือดกำเดาไหล โดยเฉพาะช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 พุ่งสูง มีเดือนหนึ่งที่เธอต้องนอนอยู่ ICU 1-2 วัน กว่าจะอาการดีขึ้น ช่วงที่ผ่านมา เธอต้องบอกเพื่อนบ้านไว้ว่าถ้าเธอหายไป ให้ไปตามหาที่โรงพยาบาล
.
3
“พอเขาประกาศเรียกชื่อ เห็นอ้ายวิ่งมาแต่ไกล ได้กอดกันเดินจับมือกัน ไม่ได้กอดกันมา 8 เดือนแล้วหลังจากเยี่ยมครั้งก่อน…กินอะไรไม่ลงเลย ดีใจใช้เวลาทุกนาทีให้มีค่า ไม่ร้องนะคนดี น้องอยู่ตรงนี้จะไม่ทิ้งอ้ายไปไหน”
การเข้าเยี่ยมใกล้ชิดอุดมครั้งนี้ สำหรับของขวัญที่การเดินทางไปกลับต้องใช้เวลา 3-4 วัน ทั้งต้องลางานทั้งหมด เธอบอกว่าเวลาเยี่ยมค่อนข้างน้อย คือประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เธอซื้อข้าวปลาที่ทางเรือนจำจัดให้สั่งไว้ มานั่งกินด้วยกัน แต่เธอกินข้าวไม่ลง กับข้าวที่เหลือจึงให้อุดมเก็บข้าวที่เหลือกลับเข้าไป
ของขวัญบอกว่าจากการไต่ถาม สุขภาพของสามียังแข็งแรง เพียงแต่สภาพอากาศที่ชายแดนใต้ฝนตกบ่อย ประกอบกับสภาพเรือนจำที่แออัด ห้องขังหนึ่งเบียดกันนอน 40-50 คน ทำให้มีโอกาสป่วยเป็นหวัดได้ค่อนข้างง่าย โดยตอนนี้อุดมก็ยังถูกคุมขังอยู่ที่แดนแรกรับเช่นเดิม เพราะคดีของเขายังไม่สิ้นสุดลงเสียที ยังนับเป็น “ผู้ต้องขังระหว่าง” อยู่
อุดมเล่าถึงชีวิตซ้ำ ๆ ในระหว่างถูกจองจำ ว่าเขาได้ทำงานช่วยผู้คุม ในส่วนช่วยอ่านจดหมายที่ส่งออกของผู้ต้องขัง และยังได้ลงเรียนต่อในระดับ ม.6 จากในเรือนจำ เพื่อพยายามให้จบการศึกษามัธยมปลาย
ด้วยความเป็นคนจิตใจดีและเป็นคนขี้สงสาร ของขวัญยังบ่นว่าสามีเข้าไปช่วยเหลือผู้ต้องขังที่ภรรยาทิ้ง ไปช่วยซื้อข้าวของให้ และยังให้เธอช่วยติดต่อญาติให้เพื่อนผู้ต้องขังด้วย
.
4
“แค่ได้เห็นหน้า เห็นรอยยิ้ม ได้กอดได้หอม ก็ทำให้มีกำลังใจ ได้ป้อนส้มให้อ้ายกิน ได้นั่งมองหน้ากัน ถึงจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็มีความสุข อยากจะพากลับบ้านด้วย”
ของขวัญบอกว่าเมื่อการเยี่ยมใกล้ชิดเที่ยวแรก ทั้งคู่กอดคอกันร้องไห้ แต่เที่ยวนี้เธอไม่ร้อง เป็นอุดมเองที่ร้องไห้ ดีใจที่ได้เจอเธอ เขาบอกเธอว่า เขาอยากลับบ้าน คิดถึงเธอ และคิดถึงลูก
เธอเล่าให้สามีฟังว่า ลูกสาวของทั้งคู่ ตอนนี้กำลังจะจบชั้นป.4 แล้ว ถือว่าเรียนเก่ง สอบได้ที่ 1 ทุกเทอม ลูกสาวเป็นเด็กขยันมาก ทำการบ้านด้วยตนเองเสร็จก่อนตลอด เพราะอยู่กับยายที่สระแก้ว ยายก็ไม่ได้ช่วยสอนหนังสือให้ได้ แต่ลูกสาวก็ตั้งใจเรียนด้วยตนเอง จนได้รับรางวัลจากการตอบคำถามในโรงเรียนอีกด้วย
แต่ของขวัญก็ไม่ได้เดินทางไปหาลูกบ่อยนัก ต้องฝากให้ยายที่สระแก้วเลี้ยงเป็นหลัก นอกจากช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาวจริง ๆ
.
5
“สู้ ๆ นะคะคนดีของน้อง อีกไม่นานเราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ยิ่งได้ยินเสียงนกหวีดเป่าหมดเวลา ถึงเวลาเราต้องบอกลากันแล้วเหรอ อ้ายโอบกอดน้อง อยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้ ผลัดกันหอมแก้มแล้ว อ้ายก็เดินจากไป น้องพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้เพื่อไม่ให้อ้ายเห็น ก่อนออก น้องมองไปหาอ้ายเพื่อจะโบกมือลาให้ ก็ไม่หันมา ก้มหน้าเดินอย่างเดียว คิดถึงที่สุด รอกอดครั้งต่อไปนะในปีนี้ไม่รู้เดือนไหน”
ช่วงที่ผ่านมา ชีวิตทั้งคู่ลำบากขึ้นในทุกทาง ฝ่ายหนึ่งถูกจองจำไร้อิสรภาพ แม้คดียังไม่สิ้นสุด อีกฝ่ายหนึ่งต้องทำงานหนักขึ้น โดยเธอต้องทำงานในกะกลางคืน เพื่อให้ได้ OT บ่อยขึ้น เวลาพักผ่อนมีไม่เพียงพอ ขณะที่ร่างกายก็อ่อนแอ ส่วนภาระต้องผ่อนบ้านและรถยังคงอยู่
ซ้ำร้าย ยังมีช่วงที่เธอประสบอุบัติเหตุ ถูกรถเฉี่ยวชน แม้ร่างกายไม่เป็นอะไรมาก แต่โทรศัพท์มือถือพังเสียหาย จนต้องซื้อใหม่ ยังไม่นับที่ทั้งสองฝ่ายต้องห่างกันไกล ยังดีว่าพอได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากกองทุนราษฎรประสงค์และกองทุน Freedom Bridge
“พี่เขากลัวหนูทิ้ง” เธอบอกความรู้สึก “มันก็ลำบาก ร่างกายหนูไม่รู้จะไหวไปถึงไหน ตอนนี้กว่าจะผ่านแต่วัน แต่ละเดือน ก็เหนื่อยมาก อยากข้ามไป 2-3 ปี ให้พี่เขาได้ออกมาแล้วเลย คนอยู่ข้างนอกก็หนักมาก แต่ก็สงสารเขา เขาไม่มีใครแล้ว”
.
6
“หนูสัญญาว่าจะไม่ทิ้งผู้ชายหัวเกรียน ใส่ชุดยูนิฟอร์มสีฟ้า ชื่อ น.ช.อุดม ไปไหน จะคอยอยู่ข้าง ๆ จะเยี่ยมไลน์ตลอด จนกว่าจะสิ้นสุดการรอคอย ห่างกันแค่นี้ไม่ได้ทำให้หนูรักพี่น้อยลงไปเลย ยิ่งห่างยิ่งรู้สึกรักมากกว่าเดิม
“หนูรอพี่มา 1 ปี 5 เดือนแล้วนะ จะรอจนกว่าประตูบานใหญ่เปิด พี่จะเห็นหนูเป็นคนแรก ให้เวลาทำหน้าที่ของมัน เมื่อถึงเวลาเขาจะคืนอ้ายกลับมาให้หนู
“คิดถึงก็ต้องรอ อยากกอดก็ต้องรอ อยากเจอก็ต้องรอ แต่ถึงยังไงก็จะรอ เพราะรักพี่ ไม่ว่านานแค่ไหนก็จะรอ เต็มใจรอ เพราะเลือกที่จะรอคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต
“เราจะสู้ไปด้วยกัน”
.
ย้อนอ่านเรื่องราวการเดินทางของอุดม และของขวัญ
จากปราจีนบุรีถึงนราธิวาส: การเดินทางที่อาจไม่ได้หวนกลับของ “อุดม” ผู้ถูกฟ้องคดี ม.112
จากนราธิวาสถึงปราจีนบุรี: การเดินทางหวนกลับเพียงลำพัง เมื่อ ‘อุดม’ ถูกคุมขังคดี ม.112
.