ในปี 2568 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้ปรับปรุงการนับสถิติผู้ต้องขังในคดีทางการเมือง โดยมีการนับจำนวนเพิ่มเติม ในคดีที่ทราบว่ามีผู้ถูกคุมขังจากเหตุเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงก่อนการชุมนุมปี 2563 ซึ่งพบว่ายังมีตกค้างอยู่อีกจำนวนหนึ่ง ได้แก่ เหตุเกี่ยวกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงปี 2553 และเหตุเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงก่อนและหลังการรัฐประหาร 2557 รวมแล้วพบว่ามีจำนวนเพิ่มเติมอีก 4 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้ถูกคุมขังจากเหตุการณ์นับตั้งแต่ปี 2563 ที่ยังไม่ได้ถูกนับรวมในยอดผู้ต้องขังปี 2567 อีก 2 คน
ขณะเดียวกันยังเป็นการนับสถิติให้สอดคล้องกับโครงการ Freedom Bridge ซึ่งทำงานให้ความช่วยเหลือผู้ต้องขังทางการเมืองและครอบครัวในมิติต่าง ๆ และนับรวมผู้ต้องขังในสถานการณ์ทางการเมืองช่วงต่าง ๆ ทั้งหมดด้วย
จากการปรับปรุงดังกล่าว ทำให้ยอดรวมผู้ต้องขังทางการเมืองต้นปี 2568 (นับถึง 14 ม.ค. 2568) มีจำนวนอย่างน้อย 39 คน ในจำนวนนี้เป็นคดีมาตรา 112 จำนวน 26 คน จากจำนวนดังกล่าวแยกได้เป็น
- ผู้ต้องขังที่ไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดี อย่างน้อย 23 คน (เป็นคดีตามมาตรา 112 จำนวน 16 คน)
- เยาวชน 1 คน ถูกคุมขังในสถานพินิจฯ ตามคำพิพากษาของศาลเยาวชนฯ
- ผู้ต้องขังที่คดีถึงที่สุดแล้ว อย่างน้อย 15 คน (เป็นคดีตามมาตรา 112 จำนวน 10 คน)
.
สำหรับผู้ต้องขังที่นับข้อมูลเพิ่มเติม ได้แก่ ยุทธนา และมหาหิน ผู้ต้องขังในคดีที่ถูกกล่าวหาปาระเบิดศาลอาญา เมื่อช่วงปี 2558 และศาลพิพากษาจำคุก 34 ปี 4 เดือน โดยจำเลยในคดีนี้หลายคนถูกควบคุมตัวภายในช่วง คสช. และมีการร้องเรียนว่าถูกเจ้าหน้าที่ซ้อมทรมานระหว่างถูกควบคุมตัว รวมทั้งยังถูกพิจารณาคดีโดยศาลทหาร ทำให้เกิดคำถามต่อกระบวนการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม ทั้งคู่ถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2558 ปัจจุบันอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม
กรณีของกฤษดา ถูกกล่าวหากรณีปาระเบิดใส่เวทีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ขณะปักหลักบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2557 เขาถูกศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต และถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. 2561 ที่เรือนจำกลางคลองเปรม
กรณีของเมธี อมรวุฒิกุล ถูกกล่าวหาในคดีครอบครองอาวุธปืนในช่วงสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง 10 เม.ย. 2553 เขาถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 2 ปี และถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. 2567 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
นอกจากนั้น ยังมีกรณีของวรเวช ซึ่งเป็นหนึ่งในจำเลยคดีมาตรา 112 กรณีทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกคุมขังในคดีส่วนตัวที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง แต่ได้ยื่นขอถอนประกันตัวเองในคดีมาตรา 112 นี้มาตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. 2566 ทำให้นับเป็นผู้ถูกคุมขังในคดีข้อหานี้เพิ่มเติมด้วย
รวมทั้ง กรณีของอนุชา ผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 จากกรณีชูแผ่นป้ายไวนิลขนาดใหญ่มีข้อความเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ใน #ม็อบตำรวจล้มช้าง หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2564 เขาถูกศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน ต่อมาเขาไม่ได้อุทธรณ์คดีอีก ทำให้ถูกนำตัวไปรับโทษจำคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 2567 โดยเขาเคยถูกคุมขังระหว่างสอบสวนมาแล้ว 24 วัน
ในช่วงต้นปี 2568 ยังมีกรณีของหนึ่งในจำเลยคดีทีมการ์ด Wevo ถูกจับกุมที่เมเจอร์รัชโยธิน เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564 ซึ่งในช่วงปลายปี 2567 ศาลอาญาได้นัดฟังคำพิพากษา และจำเลยรายนี้ไม่ได้เดินทางมาศาล เนื่องจากติดภารกิจเกี่ยวกับการงาน โดยได้ให้ทนายขอเลื่อนคดี แต่ศาลไม่อนุญาตและออกหมายจับ
จนในวันที่ 6 ม.ค. 2568 จำเลยได้เดินทางไปรายงานตัวต่อศาล แต่ศาลได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว ทำให้เขาถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จนศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว แต่ให้ติดกำไล EM และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 14 ม.ค. 2568
ในปีนี้ ยังมีนัดหมายฟังคำพิพากษาในคดีจากการชุมนุมและแสดงออกทางการเมืองอีกหลายคดี ซึ่งจะส่งผลถึงสถานการณ์ผู้ถูกคุมขังต่อไป
.
ดูตารางสถิติผู้ต้องขังทางการเมืองปี 2568
อ่านบทความ “นิยามที่หลากหลายและข้อถกเถียงต่อความหมายของ ‘นักโทษการเมือง’”
และดูเว็บไซต์ Freedom Bridge
.