วันที่ 12 พ.ย. 2567 เวลา 10.00 น. ศาลแขวงพระนครใต้ นัดฟังคำพิพากษาในคดีค่าปรับพินัย ของ 2 นักกิจกรรม “ใบปอ” และ “เก็ท” โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง ในข้อหาตาม พ.ร.บ.การชุมนุมฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีร่วมกิจกรรม “WHAT HAPPENED IN THAILAND” เดินขบวนจากแยกอโศกไปยังศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ซึ่งขณะนั้นมีการประชุม APEC2022 เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565 ซึ่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้องทั้งสองคน เนื่องจากเห็นว่าไม่ใช่ผู้จัดชุมนุม
ในคดีนี้ พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้เข้าแจ้งข้อกล่าวหากับเก็ทที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2566 โดยแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 3 ข้อหา ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามมาตรา 112, ร่วมกันจัดชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนใบปอเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ลุมพินี เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2566 ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะแยกสำนวนการสอบสวนเป็น 2 สำนวน และอัยการยื่นฟ้องทั้งสองคนต่อศาลแขวงพระนครใต้เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2566 ในสองข้อหาหลัง ซึ่งมีเฉพาะโทษปรับ เป็นคดีค่าปรับพินัย ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 2566
ศาลแขวงพระนครใต้รับฟ้องในความผิดพินัยเป็นคดีแรกของศาลนี้ ในฐานร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่แจ้งการชุมนุมสาธารณะ และร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และออกหมายเรียกจำเลยทั้งสองคน โดยเก็ทและใบปอได้ยืนยันต่อสู้คดีนี้ในชั้นศาล
ต่อมา ศาลแขวงพระนครใต้นัดสืบพยานโจทก์และจำเลยในวันที่ 10-11 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา แต่ในส่วนคดี ม.112 ได้ถูกแยกไปที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ และมีนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 2 ธ.ค. 2567
.
ยกฟ้องจำเลยทั้งสองคน ไม่มีหลักฐานปรากฎว่าเป็นผู้จัด
เวลา 09.40 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 7 เก็ทถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมีครอบครัวและนักกิจกรรมหลายคนเดินทางมาให้กำลังใจด้วย ทั้งยังมี ธิษะณา ชุณหะวัณ และ ปิยรัฐ จงเทพ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน เข้าร่วมฟังการพิจารณาคดีในวันนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ห้องพิจารณาดังกล่าวมีขนาดเล็ก ไม่เพียงพอต่อจำนวนประชาชนที่เข้าร่วมสังเกตการณ์คดี โดยศาลยังคงอนุญาตให้ประชาชนได้ยืนฟังคำพิพากษาร่วมกันได้ แม้ไม่มีเก้าอี้นั่งเพียงพอ
เวลา 10.15 น. หลังใบปอเดินทางมาถึงศาล ทั้งสองคนถูกเรียกให้รายงานตัว ก่อนศาลเริ่มอ่านคำพิพากษา โดยมีใจความสำคัญระบุว่า คดีนี้มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยทั้งสองคนเป็นผู้จัดการชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ หรือไม่
พิเคราะห์จากพยานหลักฐานของโจทก์ เหตุการณ์ชุมนุมในวันที่ 17 พ.ย. 2565 โจทก์ฟ้องจำเลยมีความผิดทางพินัยตามข้อหา พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ และร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งในประเด็นที่จำเลยทั้งสองคนถูกกล่าวหา ร่วมกันจัดชุมนุมและเชิญชวนบุคคลอื่นเข้าร่วมการชุมนุมนั้น มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยทั้งสองคนเป็นผู้จัดการชุมนุมหรือไม่
พฤติการณ์ในคดีนี้ปรากฏว่ามีผู้จัดชุมนุม ซึ่งถูกฟ้องในสำนวนคดีอื่น เป็นผู้ทำหนังสือยื่นต่อผู้นำโลกที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุม APEC และมีหนึ่งในจำเลยคดีดังกล่าว เป็นผู้แจ้งจัดการชุมนุมต่อเจ้าพนักงานตำรวจ
จากคำเบิกความของพยานโจทก์ ได้แก่ พนักงานสอบสวนในคดีนี้ ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองคนมีความเกี่ยวข้องกับผู้จัดการชุมนุมอย่างไร แม้จำเลยทั้งสองจะร่วมอ่านแถลงการณ์ แต่เนื้อความก็ไม่ได้มีการชักชวน หรือปลุกระดมคนให้เข้าร่วมการชุมนุมแต่อย่างใด
ในประเด็นที่โจทก์เบิกความว่าจำเลยที่ 2 (ใบปอ) มีความเชื่อมโยงกับเพจ “ทะลุวัง” ที่มีการแชร์โพสต์เชิญชวนให้มาร่วมชุมนุม แต่โจทก์ก็ไม่มีพยานหลักฐานมาแสดงให้ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 เกี่ยวข้องกับเพจดังกล่าวอย่างไร
ในประเด็นของพฤติการณ์ที่จำเลยทั้งสองใช้เครื่องขยายเสียงอ่านแถลงการณ์นั้น ปรากฏว่าเครื่องขยายเสียงดังกล่าวได้มีการใช้ปราศรัยจากผู้ร่วมชุมนุมคนอื่น ๆ ตลอดการชุมนุม แม้ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าเครื่องขยายเสียงจะใช้ได้ต่อเมื่อได้รับการอนุญาตจากเจ้าพนักงานแล้วเท่านั้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้จัดการชุมนุม ในการแจ้งขออนุญาตต่อเจ้าพนักงาน แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้จัดการชุมนุมแล้ว พยานโจทก์เบิกความเพียงความเชื่อของตัวเองเท่านั้น พยานหลักฐานของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายกฟ้อง
.
อวยพรวันเกิด “เก็ท – ใบปอ” หลังฟังคำพิพากษา
นอกจากเป็นวันฟังคำพิพากษาแล้ว ในวันนี้ ยังเป็นวันครบรอบวันเกิดของทั้งสองคนอีกด้วย หลังการอ่านคำพิพากษา ครอบครัวของเก็ทได้เดินเข้ามาสวมกอดลูกชาย และกล่าวอวยพรให้กับใบปอ
ประชาชนจำนวนหนึ่งที่ยืนรออยู่หน้าห้องพิจารณาคดี พร้อมครอบครัวของเก็ท ได้ขอกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ให้เก็ทกับใบปอได้รับประทานเค้กที่ประชาชนและครอบครัวเตรียมมาให้ ก่อนที่จะส่งตัวเก็ทกลับเรือนจำ พร้อมกล่าวคำอวยพร Happy Birthday โดยทั้งสองคนได้รับประทานเค้กอยู่เพียงครู่หนึ่ง ก่อนที่เก็ทจะถูกนำตัวแยกกลับไปที่รถของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ซึ่งมีประชาชนและครอบครัวเดินตามไปส่งจนลับสายตา
.
สำหรับคดีค่าปรับเป็นพินัยนั้น เป็นคดีตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ซึ่งออกโดยมีความประสงค์เปลี่ยนคดีที่มีโทษปรับทางอาญาแต่เพียงอย่างเดียว และคดีความผิดที่มีโทษปรับทางปกครอง ให้เป็นความผิดทางพินัย โดยเริ่มมีผลบังคับในการเปลี่ยนแปลงการเรียกชื่อและผลทางกฎหมาย ตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติฯ ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 2566
ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมและการแสดงความเห็น มีข้อหาที่จัดอยู่ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติฯ นี้ เช่น ข้อหาชุมนุมสาธารณะโดยไม่แจ้งการชุมนุม (พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ประกอบ มาตรา 28) ข้อหาโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต (พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 มาตรา 4 ประกอบ มาตรา 9) ข้อหากีดขวางทางจราจร หรือข้อหาอื่น ๆ ตาม พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ศ. 2522
อ่านเพิ่มเติมกรณีคดีปรับพินัยของเก็ท – ใบปอ: นัดใหม่วันตรวจพยานคดีค่าปรับพินัยฯ ใบปอและเก็ท ฐานไม่แจ้งชุมนุม-ใช้เครื่องขยายเสียง เหตุชุมนุม APEC2022 ให้เบิกตัวเก็ทมาศาล 29 ม.ค. | ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน