บันทึกเยี่ยม “สุดใจ-มาร์ค”: เข้าข่ายได้รับอภัยโทษ แต่ยังรอการปล่อยตัวในเร็ววัน

กลางเดือนก.ย. 2567 ทนายเข้าเยี่ยม ‘สุดใจ’ และ ‘มาร์ค’ 2 ผู้ต้องขังคดีครอบครองวัตถุระเบิดฯ ในช่วงชุมนุมทางการเมืองช่วงปี 2564 สุดใจที่ยังคงได้อยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไปหลังถูกเบิกตัวมาสืบพยานที่ศาลในคดีหมู่บ้านทะลุฟ้า ครั้งนี้พูดถึงเรื่องการออกกำลังกายในเรือนจำ เพราะกังวลสุขภาพ และหากเป็นไปได้เขาอยากอยู่ที่นั่นต่อโดยไม่ต้องกลับไปเรือนจำพิเศษมีนบุรี จนพ้นโทษ 

ขณะที่มาร์ค แม้จะมีสัญญาณเรื่องที่เขาจะได้พ้นโทษในไม่นานนี้ แต่ก็อยากรอคำสั่งวันเวลาที่จะได้ปล่อยตัวจริง ๆ อย่างเป็นทางการ  ทั้งสองคนเหลือระยะเวลาในการรับโทษไม่มากนัก ทั้งจากการเลื่อนชั้นนักโทษและการลดหย่อนโทษต่าง ๆ คาดว่าทั้งสุดใจและมาร์คจะได้รับการปล่อยตัวภายในเดือนตุลาคม 2567 นี้

.

สุดใจ: ยังได้อยู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อ หวังจะได้รับการปล่อยตัวไม่นานนี้

วันที่ 12 ก.ย. 2567 สุดใจแจ้งว่าหลังจากถูกนำตัวมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อสืบพยานนัดสุดท้ายในคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกิจกรรมหมู่บ้านทะลุฟ้าแล้ว เขาก็ยังถูกคุมขังที่นี่ต่อไป อย่างน้อยก็จนกว่าจะเดือนตุลาคม เพราะศาลแขวงดุสิตต้องเบิกตัวสุดใจไปฟังคำพิพากษาในวันที่ 31 ต.ค. นี้ โดยส่วนตัวสุดใจอยากจะอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มากกว่าเรือนจำพิเศษมีนบุรี เนื่องจากมีเพื่อนผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองคนอื่น ๆ อยู่ด้วย

“อยู่ที่นี่กับอารีฟ ของใช้กับอาหารก็แบ่ง ๆ กันใช้ แบ่งกันกิน ไม่ลำบาก น้ำท่าที่นี่ดี น้ำดื่ม น้ำใช้เพียงพอ” สุดใจบอก

เมื่อพูดถึงสุขภาพ สุดใจอธิบายเรื่องครอบครัวที่มีญาติมีกรรมพันธุ์โรคเบาหวานอยู่มาก ช่วงอยู่ในเรือนจำ จึงพยายามควบคุมน้ำตาล ตอนเช้ากินแต่กาแฟ และพยายามเดินออกกำลังกายรอบ ๆ แดน เพื่อให้ตัวเขาเองยังแข็งแรง 

ในเรื่องการได้รับอภัยโทษตาม พ.ร.ฎ. ที่ออกมาเมื่อเดือนสิงหาคม ขณะนี้รายชื่อรวมยังไม่ออกมา แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทัณฑปฏิบัติของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แจ้งว่าทางเรือนจำแต่ละแห่งจะจัดทำรายชื่อโดยอาศัยหลักเกณฑ์ที่ว่า ผู้ต้องขังที่เข้าตามเงื่อนไข และติดคุกมาก่อน ก็จะเข้าข่าย ได้รับการปล่อยตัวก่อน ตอนนี้รอรายชื่อออกมาก่อน ซึ่งเรือนจำต้องจัดการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน แล้ววันพ้นโทษของสุดใจที่อยู่ในระบบตอนนี้คือ 9 เม.ย. 2568 เมื่อรับฟังข้อมูลเสร็จ สุดใจบอกอีกว่า “ผมไม่ซีเรียสเรื่องจะได้ออกนะ จะติดครบเลยก็ได้ แต่ก็ติดตามสถานการณ์อยู่” 

จนถึงปัจจุบัน (2 ต.ค. 2567) สุดใจถูกคุมขังในฐานะผู้ต้องขังคดีสิ้นสุดมาแล้ว 11 เดือนเศษ หรือ 355 วัน หลังถูกดำเนินคดีครอบครองระเบิดปิงปอง ในช่วงเวลาการชุมนุมเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2564 บริเวณคอนโดแห่งหนึ่งย่านดินแดง ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจำคุก 1 ปี 6 เดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ฎีกา ทำให้คดีสิ้นสุดลง

ล่าสุด สุดใจจะเข้าข่ายได้รับอภัยโทษตาม พ.ร.ฎ. แต่ยังอยู่ระหว่างกระบวนการอบรมก่อนปล่อยตัว คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวภายในเดือนตุลาคมนี้

.

มาร์ค: แม้มีสัญญาณว่าใกล้จะได้ออก แต่ยังรอคำสั่งทางการอยู่

วันที่ 17 ก.ย. 2567 มาร์ค บอกว่า ในเรื่องสุขภาพยังปกติดี ไม่มีปัญหา จากโทษที่เหลือไม่มาก เขาคิดว่าตอนนี้เป็นนักโทษชั้นดีแล้วแน่ ๆ  เพราะก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เอาเอกสารมาให้เซ็นเป็นเรื่องเลื่อนเป็นชั้นดีมาก แต่มาหลังมี พ.ร.ฎ.อภัยโทษ โดยไม่ว่าชั้นไหนก็คงได้ลดโทษอยู่แล้ว แต่มาร์คก็ยังไม่กล้ายืนยันเรื่องจะได้ออกตอนไหน ไม่อยากให้มีข่าวลือออกไป กลัวพ่อแม่จะคาดหวังเปล่า ๆ  

ต่อมาวันที่ 26 ก.ย. 2567  มาร์คอัปเดตข้อมูลว่าหากจะได้ออก ต้องผ่านกระบวนการอบรม 15 วัน พอครบก็ถึงจะได้ไปทำเรื่องไปเซ็นเอกสาร แล้วหลังจากนี้พอเริ่มอบรมก็จะต้องย้ายไปอยู่แดน 3  โดยคนที่ได้ปล่อยก็จะย้ายไปอยู่แดนเดียวกันหมด เพราะจะสะดวกกว่าเวลาเบิกตัวออกไปอบรม 

ถ้าได้ออกไป มาร์คบอกว่าอาหารมื้อแรก เขาอยากกินข้าวที่ยายทำ “ยายผมทำกับข้าวอร่อยมาก” และคิดว่าคงจะพักฟื้นสักช่วงหนึ่ง ปรับตัวก่อน พอนิ่งแล้วค่อยไปหางานทำ จะลองไปสมัครงานที่เดิมก่อน งานซ่อมรถ หรือเกี่ยวข้าว ถ้าเขาไม่รับ ก็ค่อยว่ากันว่าเอายังไงต่อ

จนถึงปัจจุบัน (2 ต.ค. 2567) มาร์คถูกคุมขังมาแล้ว 568 วัน หรือราว 1 ปี 7 เดือน จากโทษจำคุก 2 ปี 1 เดือน จากคดีถูกฟ้องว่า ‘ครอบครองระเบิดปิงปอง-พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ’ เหตุชุมนุมดินแดง 20 ส.ค. 2564 โดยคดีถึงที่สุดแล้ว เช่นเดียวกับสุดใจ มาร์คเริ่มเข้ารับการอบรมตามกระบวนการของเรือนจำ คาดกันว่ามาร์คจะได้รับอิสรภาพภายในเดือน ต.ค. 2567 

.

ย้อนอ่านบันทึกเยี่ยม

บันทึกเยี่ยมบุ๊ค-มาร์ค: ใต้แสงริบหรี่จากห้องขัง ที่เริ่มมองเห็นปลายทางอิสรภาพ

X