บันทึกเยี่ยม ธี-มาย-สุดใจ: ความบริสุทธิ์ที่คาดหวัง นิรโทษกรรมที่ตามหา

เดือนมิถุนายน 2567 ทนายเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังคดีครอบครองวัตถุระเบิดฯ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้แก่ ‘ธี’ ที่ขณะนี้สบายใจขึ้น หลังได้รับการย้ายแดน และมีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนผู้ต้องขังคดีการเมือง ที่ต่างหวังผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นเป้าหมาย ธียังลุ้นคำพิพากษาศาลอุทธรณ์กลางเดือนกรกฎาคม พร้อมกับ ‘มาย’ ที่ยังห่วงถึงอนาคตนอกเรือนจำ ส่วน ‘สุดใจ’ ถูกย้ายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปเรือนจำพิเศษมีนบุรีอย่างกะทันหัน และกำลังปรับตัวกับสถานที่ และสิ่งแวดล้อมใหม่ พร้อมฝากบอกถึงคนที่ห่วงใยว่า “ไม่ต้องห่วง อยู่ได้ แข็งแรงดี”

ธี ถิรนัย: ได้ย้ายแดน พร้อมผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอย่างเสมอภาค

วันที่ 7 มิ.ย. 2567 ธีเล่าว่าตั้งแต่ถูกย้ายแดน จากแดน 6 มาแดน 4 รู้สึกสบายใจขึ้น ได้คุยเรื่องการเมือง ได้รับรู้ข่าวเยอะ “แต่ช่วงนี้ผมก็เครียดกับการเมืองข้างนอกนะ เลือกตั้งจบ แต่เราไม่ได้อะไรเลย พวกผมยังอยู่ข้างใน และมีคนเข้ามาเพิ่มอยู่ตลอด”

ธีอยากให้ทุกคนรู้ว่า ยังมีผู้ต้องขังทางการเมืองอยู่ในนี้ พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไมยังมีคนเห็นต่างถูกขังอยู่ “อยากให้ทุกคนส่งเสียงแทนพวกเรา พวกเราในเรือนจำทุกคนยังสู้อยู่เสมอ การต่อสู้ของคนข้างนอก เป็นกำลังใจให้พวกผมมีพลัง มีกำลังใจต่อสู้ ผมคิดกันทุกวันว่าเราทำอะไรกันได้บ้าง”

เขาระบายอีกว่า ตนเองเข้ามาอยู่ในนี้ 1 ปี 4 เดือนแล้ว ยื่นอุทธรณ์ไปตั้งแต่ มิถุนายนปีที่แล้ว ขณะนี้ยังไม่มีคำพิพากษา “ไม่รู้ว่าระหว่างคำพิพากษา กับผมถูกปล่อย อะไรจะเกิดก่อนกัน และระหว่างนิรโทษกรรมกับผมถูกปล่อย อะไรจะเกิดก่อน”

วันที่ 10 มิ.ย. 2567 ธีกล่าวถึงบทสนทนาในเรือนจำที่เกิดขึ้นว่า ทุกวันตนเอง เก็ท อานนท์ และสมบัติ จะมานั่งถกเถียงเรื่องการเมือง กลยุทธ์การเคลื่อนไหว วิเคราะห์อนาคต เวลาใครออกไปเจอทนาย ก็จะกลับมาเล่าให้ฟังว่า ทนายพูดอะไร มีข่าวความคืบหน้าอย่างไรบ้าง ทั้งนี้พวกเขายังต้องการเคลื่อนไหวเพื่อผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นเป้าหมายหลัก

ล่าสุด ทนายแจ้งธีว่า วันที่ 16 ก.ค. 2567 ศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษาในคดีของเขา โดย ธีรู้สึกตื่นเต้น มีความหวังว่า คำตัดสินจะส่งผลดีต่อเขา “ถ้าได้ออกไป ผมก็หวังว่าจะได้เจอพี่ ๆ ทนายทุกคน แต่ถ้าไม่ได้ออกไป ผมก็ยังโอเคที่ได้อยู่กับเก็ท และทนายอานนท์ พวกเขาโทษสูงกว่าผมอีก สำหรับผม เก็ทกับ ทนายอานนท์คือผู้เสียสละจริง ๆ ”

นอกจากนี้ธียังฝากกำลังใจ และความเป็นห่วงถึงตะวัน “ดูแลตัวเองด้วยเพื่อน ไม่ไหวก็แค่พัก พวกเราก็กำลังสู้ ไม่ได้อยู่นิ่ง ผมเห็นอะไรเยอะจากการต่อสู้ของตะวัน คิดถึง” ธีทิ้งท้ายก่อนวางสายไป

วันที่ 19 มิ.ย. 2567 วันนี้ธีเล่าว่า สบายดี สบายเท่าที่อยู่ในนี้จะสบายได้ นอนหลับได้ปกติ ยังออกกำลังกายเหมือนเดิม เล่นกีฬา แล้วก็ไปฟิตเนสกับเพื่อน ๆ ชาวต่างชาติที่อยู่ในนี้

ธีเปรยว่า “ผมไม่ได้โดนคดี 112 แต่ก็มีเรื่องที่อยากเล่าอยู่ ในวันที่ 24 มิถุนายน ถ้าเรานับถอยหลังไปถึงปี 2475 มันก็ 92 ปีแล้ว ที่เราเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นประชาธิปไตย ผมคิดว่ามันดีขึ้นกว่าตอนเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์แน่ แต่มันช้าไปหน่อย ช่วงเวลา 92 ปีควรพาเราไปได้ไกลกว่านี้ แต่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมเขาก็พยายามดึงอำนาจออกจากประชาชนมาตลอด พวกเขากลัวเสียอำนาจ พวกเขากลัวประชาชน ทหารในยุคปัจจุบันก็อยู่ในมือพวกเขา ยุคนี้มันคงไม่ง่ายที่จะมีทหารออกมาต่อสู้เพื่อประชาชน”

“ผมมองว่ามันคือวันชาติ วันสำคัญ วันที่คนเท่ากัน วันที่เรามีประชาธิปไตย มันคือวันที่เราควรเฉลิมฉลอง แต่มันก็ถูกทำให้ไร้ความสำคัญ ลบวันของประชาชนออก ให้เหลือเฉพาะวันสำคัญของฝ่ายอนุรักษ์นิยม สุดท้ายแล้วเรายังมีคนโดนคดี 112 จำนวนมาก แต่มันยังมีพวกเราที่โดนคดีที่เกิดตั้งแต่สมัยประยุทธ์ ในประวัติศาสตร์เมื่อมีการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง มันก็จะมีการรื้อคดี มีการนิรโทษกรรมเสมอ แต่ดูสิ ทุกวันนี้พวกผมยังอยู่ในคุก เพราะการต่อสู้ขับไล่ประยุทธ์ตั้งแต่ปี 63 64”

ธี ยืนยันว่า คนข้างในคาดหวังเรื่องการนิรโทษกรรมกันหมด เพราะอยากเดินไปอย่างผู้บริสุทธิ์ ไม่ใช่การได้รับอภัยโทษ “เราไม่ได้ทำผิด ส่วนคนที่ทำผิด คนที่ทำร้ายประชาชน ยังลอยนวลอยู่ แต่เพราะเกมนี้เขายังคงชนะ เขายังมีอำนาจอยู่ เขาเลยไม่ได้รับผิด”

“ผมอยากให้มีการนิรโทษกรรมให้เร็วที่สุด เพราะว่าคนที่โดนมีแต่เด็ก ๆ มีแต่คนรุ่นใหม่ เยาวชน พวกเขามีอนาคต มีภาระ มีสิ่งที่ต้องทำต่อ ผมมองไม่ออกว่า 112 มันไม่ใช่คดีการเมืองยังไง ถ้ามันไม่ใช่เรื่องการเมือง ทำไมพวก สส. สว. ถึงออกมายุ่งกันเยอะแยะเต็มไปหมด คนที่ออกมาคัดค้านกฎหมายนี้มีเยอะแค่ไหน คุณกลัวการเปลี่ยนแปลง หรือจริง ๆ คุณอยู่กับความกลัวนี้มาตั้งแต่ 2475 คุณเลยไม่คิดจะแก้ปัญหา หรือหาทางออก เลยมองเห็นแค่การปิดปากประชาชน”

จนถึงปัจจุบัน (25 มิ.ย. 2567) ธีถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์มาแล้ว 497 วัน หรือกว่า 1 ปี 3 เดือน หลังศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี ในคดีครอบครองระเบิดปิงปอง ช่วงก่อนการชุมนุม #ม็อบ29สิงหา64 บริเวณดินแดง

มาย ชัยพร: นิรโทษกรรมเป็นสิ่งที่ดี แต่อยากให้ทุกคนได้เหมือนกัน

วันที่ 10 มิ.ย. 2567 มายสวมหน้ากากอนามัยออกมา ดูแปลกตาขึ้น เพราะรอบนี้เขาสวมแว่นสายตามาด้วย มายระบุว่า “ปกติอยู่ข้างนอกก็สั้นอยู่แล้วครับ แต่พอมาอยู่ข้างในแล้วเหมือนสั้นมากกว่าเดิม ที่ใส่นี่ก็ยืมของเพื่อนในแดนมานะครับ ก็ไม่ได้พอดีค่าสายตาหรอก แต่ก็สบายขึ้น ถ้าได้ออกจากคุก ผมคงไปวัดสายตาตัดแว่นด้วย”

เมื่อถามความเป็นอยู่ มายตอบด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม “ยังมีชีวิตอยู่ครับ ตอนนี้ผมไม่ได้ทำงานร้านค้าแล้ว ก็เลยมีเวลาออกกำลังกาย ฝึกเล่นกีตาร์ ปัญหาคือ หนังสือเพลงข้างในแทบไม่มีเลย มีแต่เล่มเก่า ๆ ขาดรุ่ยหมดแล้ว ก็เลยมีเพลงที่จดกันเอง ใส่คอร์ดเองเล่นในแดน”

เช่นเดียวกับธี ทนายแจ้งว่าคดีของมายมีนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันที่ 16 ก.ค. 2567 มายนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนบอกความรู้สึกว่า “ผมคาดหวังมาก ๆ เลย แต่ก็ต้องตามนั้น ตอนนี้ผมคิดเรื่องข้างนอก คิดว่าออกไปจะไปทำอะไร ถ้าศาลให้กลับบ้านก็โอเค ถ้าไม่ให้กลับ ลดให้หน่อยก็ยังดี (หัวเราะ) เราก็รอมานานจนเกือบครึ่งโทษแล้ว นานจนถอยหลังกลับไม่ได้”

ส่วนสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมือง มายสนใจเรื่องคัดเลือก ส.ว. มาก “ในเรือนจำจะมีช่วงเวลาฟรีไทม์ พอรายการจบก็จะมีข่าวสั้นขึ้นมา แต่ก็เห็นแปบเดียวก่อนที่จะถูกปิด ผมก็เห็นจากตรงนั้น มันคือการต่อสู้แบบหนึ่งนะ ถ้าเราจะล้มมหาอำนาจจริง เราต้องสไตรค์ไปเลย มีที่นั่ง ส.ส.ฝั่งเราเยอะกว่า ส.ว. ไปเลย ไม่ต้องให้ ส.ว. เลือกนายก ไม่ต้องพึ่งเสียงพวกครึ่ง ๆ กลาง ๆ มันก็เป็นการต่อสู้แบบสันติ จะมีคนสูญเสียและบาดเจ็บน้อย แต่ใช้เวลา ผมว่ามันก็ดีกว่าการนองเลือดนะ“ มายทิ้งท้าย

วันที่ 20 มิ.ย. 2567 มายเล่าว่า เพื่อน ๆ ย้ายแดนไปหมดแล้ว ตัวเขาตัดสินใจที่จะไม่ไป ตอนนี้ชื่อของมายอยู่กองงานส่วนกลาง โดยยังถือว่าไม่มีกองงาน แต่ที่ไปช่วยงานโยธา เพราะต้องการหาอะไรทำฆ่าเวลา จะได้ไม่เบื่อ การอยู่ในนี้ก็คิดถึงข้างนอกตลอด คิดถึงคนข้างนอก เขายังระบุถึงการนิรโทษกรรม ที่ทุกคนควรได้รับอย่างเสมอภาค

“ถ้าไม่รวม ม.112 ผมไม่เห็นด้วย แม้ว่าเราจะรอด คดีของผมโทษแค่ 3 ปี แต่เราดู 112 สิ โทษเป็น 10 ปีขึ้นไปทั้งนั้น อย่างทนายอานนท์ ป้าอัญชัญ แม็กกี้ ถ้าพวกเขาไม่ได้ด้วย ชีวิตเขาจะเป็นยังไง ผมไม่อยากตัดช่องน้อย ไม่อยากทิ้งเพื่อน มันคงรู้สึกแย่ คือ ถ้าจะนิรโทษกรรมมันก็ดีนั่นแหละ แต่เราอยากให้ทุกคนได้เหมือนกันด้วย เพราะเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่คนในคุกนะ มันยังมีคนข้างนอกที่ยังติดพันกับคดีอีกเยอะมาก ทั้งคนที่ต้องลี้ภัยด้วย”

จนถึงปัจจุบัน (25 มิ.ย. 2567) มายถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์มาแล้ว 497 วัน หรือกว่า 1 ปี 3 เดือน หลังศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี ในคดีครอบครองระเบิดปิงปอง ช่วงก่อนการชุมนุม #ม็อบ29สิงหา64 บริเวณดินแดง

สุดใจ: “ไม่ต้องห่วง อยู่ได้ แข็งแรงดี” หลังได้ย้ายเรือนจำกะทันหัน

วันที่ 18 มิ.ย. 2567 ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี กว่าทนายจะเข้าเยี่ยมสุดใจได้ใช้ระยะเวลานานพอสมควร เนื่องจากคดีครอบครองระเบิดของสุดใจเด็ดขาดแล้วตามคำพิพากษาศาลฎีกา โดยทางเรือนจำแจ้งว่า ถ้าเด็ดขาดแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องพบทนาย ถ้าจะเข้าเยี่ยม ให้ดำเนินการตามวิธีการเยี่ยมญาติ แต่เนื่องจากสุดใจมีคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ จากเหตุชุมนุมทะลุฟ้าวันที่ 13-28 มี.ค. 2564 ที่ต้องสืบพยานจำเลยอยู่ ทำให้ทนายต้องอธิบายให้ทางเรือนจำเข้าใจถึงสิทธิที่จะมีทนายของจำเลย เรือนจำใช้เวลาปรึกษาภายในอยู่พอสมควร จึงอนุญาตให้ทนายเข้าเยี่ยม โดยให้แต่งทนายใหม่ในคดีทะลุฟ้าเพื่อเข้าเยี่ยมสุดใจ

เมื่อเจอกัน สุดใจยิ้มทักทาย ทนายถามว่าทำไมได้ย้ายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาที่นี่ สุดใจยิ้ม และ บอกว่า “ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ ๆ เช้าวันที่ 10 มิ.ย. ก็มาบอกให้ออกมา และได้มานี่เลย เห็นเขาบอกว่าย้ายระบาย ผมไม่มีโอกาสบอกใครเลย”

สุดใจแจ้งว่า กฎเกณฑ์ที่เรือนจำมีนบุรีไม่ต่างกับที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรื่องความแออัดอาจจะน้อยกว่า แต่ไม่มาก อย่างไรก็ตาม ต้องปรับตัวหลาย ๆ อย่าง ตอนนี้ลำบากเรื่องอาหาร เพราะยังไม่ได้รับอาหารจากข้างนอก เรือนจำแจ้งว่าไลน์ซื้อของออนไลน์ปิดปรับปรุง ไม่รู้จะเปิดเมื่อไร

ก่อนทนายถามถึงคดีสลายชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้าเมื่อปี 2564 สุดใจตอบว่าจำได้ ทนายจึงแจ้งว่าคดีนี้จะสืบพยานเดือนสิงหาคมนี้ โดยทีมทนายเห็นกันว่าจะเบิกตัวสุดใจไปศาล และอธิบายว่าแต่เดิมคดีนี้จำเลยมีทั้งหมด 61 คน ศาลอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยตามคำขอ แต่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ที่จะเบิกตัวสุดใจไปศาลแขวงดุสิต สุดใจเห็นด้วย ทนายจึงถามว่า จะให้บอกคนที่เป็นห่วงยังไงบ้าง ที่ย้ายมาที่นี่ สุดใจกล่าว พลางยิ้ม ว่า “ไม่ต้องห่วง อยู่ได้ แข็งแรงดี”

จนถึงปัจจุบัน (25 มิ.ย. 2567) สุดใจถูกคุมขังในฐานะผู้ต้องขังคดีสิ้นสุดมาแล้ว 257 วัน หลังถูกดำเนินคดีครอบครองระเบิดปิงปอง ในช่วงเวลาการชุมนุมเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2564 บริเวณคอนโดแห่งหนึ่งย่านดินแดง ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจำคุก 1 ปี 6 เดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ฎีกา ทำให้คดีสิ้นสุดลง

ย้อนอ่านบันทึกเยี่ยม

บันทึกเยี่ยม บุ๊ค-มาร์ค-ธี-มาย: พอเห็นเพื่อนได้ประกันตัว ก็พอเห็นแสงริบหรี่บ้าง