บันทึกเยี่ยมคดี 112 ‘ภูมิ’ ตั้งใจฝึกวิชาชีพให้ครบ แต่ขยับแขนไม่ได้ ด้าน ‘แม็กกี้’ ฝากปัญหาผู้ต้องขัง LGBTQ+ ถึงกระทรวงยุติธรรม

วันที่ 5 และ 9 พ.ค. 2567 ทนายความได้อัพเดตเรื่องราวเยาวชนผู้ถูกคุมตัวที่สถานพินิจฯ บ้านเมตตา จากคดี 112 อย่าง “ภูมิ” และเข้าเยี่ยม “แม็กกี้” ผู้ต้องขังคดี 112 ที่เรือนจำกลางคลองเปรม โดยภูมิที่เข้ารับการผ่าตัดหัวไหล่แบบประคองอาการ ยังคงรู้สึกเจ็บแผล ขยับแขนไม่ได้ เป็นอุปสรรคกับการเรียนวิชาแกะสลักทำให้กังวลว่าจะฝึกอาชีพได้ครบตามคำสั่งศาลหรือไม่ ส่วนแม็กกี้ ที่ตอนแรกกังวลเรื่องอาจจะต้องย้ายแดน แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ย้ายแดน และเริ่มปรับสภาพความเป็นอยู่ในคลองเปรมได้

ภูมิ: ตั้งใจฝึกอบรมให้ครบ 2 วิชาชีพ แต่ขยับแขนไม่ได้หลังผ่าตัดใส่ลวดดึงไหล่

วันที่ 5 พ.ค. 2567 แม่แจ้งกับทนายว่าโทรเข้าไปสอบถามบ้านเมตตาเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของภูมิ ด้วยก่อนหน้านี้วันที่ 4 พ.ค. 2567 แม่โทรคุยกับภูมิและภูมิบ่นว่าปวดไหล่มากขึ้น ผอ.บ้านเมตตา แจ้งแม่ว่า เนื่องจากภูมิบอกว่ามีอาการปวดไหล่ จึงนำส่ง รพ.สิรินธร และ รพ.สิรินธร ให้แอดมิทเพื่อผ่าตัดใส่ลวดเข้าไปดึงไหล่ แม่จึงขออนุญาตบ้านเมตตาเพื่อเข้าพบภูมิ และมีโอกาสได้คุยกับหมอที่ทำการรักษา หมอแจ้งว่า การใส่ลวดเข้าไปนั้นเพื่อดึงไหล่และประคองอาการ ซึ่งอาจจะประคองอาการได้ 1- 2 เดือน อย่างไรก็ตาม หมอจะรีบประสานกับทาง รพ.จุฬาฯ เพื่อทำการผ่าตัดใหญ่ต่อไป

ทั้งนี้ หลังการผ่าตัดภูมิมีอาการเจ็บที่แผลค่อนข้างมาก แต่กำลังใจยังดี โดยหมออนุญาตให้ออกโรงพยาบาลในวันที่ 8 พ.ค. 2567 ซึ่งภูมิได้วีดีโอคอลทางไลน์จากบ้านเมตตามาหาทนายในวันนั้น อัพเดตว่า เพิ่งออกจากโรงพยาบาล และปวดแผลมาก ๆ ขยับแขนขวาไม่ได้ แค่เดินก็มีอาการเจ็บแล้ว โดยหมอได้ให้ยาแก้อักเสบและยาแก้ปวดมาไว้ทาน แต่อาการปวดแผล คงทำให้ใช้ชีวิตในบ้านเมตตาได้ลำบากมากด้วย หลังจากนี้ หมอนัดดูอาการอีกครั้งในวันที่ 23 พ.ค. 2567 ส่วนนัดผ่าตัดใหญ่ที่จะมีหมอจาก รพ. จุฬาฯ เข้าร่วมนั้นจะเป็นเมื่อไหร่ หมอจะแจ้งต่อไป

ความกังวลของภูมิอีกเรื่องคือ การเรียนวิชาชีพตามที่ศาลกำหนดอีก 1 หลักสูตร เพราะภูมิลงเรียนวิชาแกะสลักไว้ เมื่อภูมิบาดเจ็บที่ไหล่ ขยับแขนไม่ได้ ทำให้ครูประจำวิชาเห็นว่าภูมิเข้าร่วมกิจกรรมไม่ได้ แม้ว่าจะพยายามปฏิบัติตามคำสั่งศาลคือเข้าฝึกอบรมให้ครบ 2 วิชาชีพ แต่ข้อจำกัดด้านร่างกายคืออาการเจ็บป่วย ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ภูมิจึงรู้สึกกังวลและมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพูดคุยเรื่องนี้

ปัจจุบัน (14 พ.ค. 2567) ภูมิถูกคุมตัวตามคำสั่งของศาลเยาวชนฯ ที่สถานพินิจฯ บ้านเมตตามาแล้ว 210 วัน

แม็กกี้: ฝากปัญหาผู้ต้องขัง LGBTQ+ ถึงกระทรวงยุติธรรม

วันที่ 9 พ.ค. 2567 ที่เรือนจำกลางคลองเปรม แม็กกี้อยู่ในเสื้อแขนสั้นสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้ม เมื่อมองเห็นทนาย แม็กกี้ยิ้มกว้าง โบกไม้โบกมือ เมื่อเดินมาถึงโทรศัพท์แม็กกี้ก็โพสต์ท่าเหมือนนางงาม ก่อนกล่าวทักทายเล็กน้อยและรีบแจ้งข่าว “แม่ หนูได้อยู่แดน 6 เหมือนเดิม”

“จำแนกแดนวันพุธ (8 พ.ค.2567) ตอนเช้าเจ้าหน้าที่ก็เรียกนักโทษขึ้นไปชุดละ 5 คน ไปยืนเรียงแถวหน้ากระดาน ในห้องจะมีผู้คุมอยู่ประมาณ 30 คน นั่งตามจุดเป็นกลุ่ม ๆ พอถึงเวลาก็จะขานชื่อทีละคน เพื่อน 4 คน ที่ขึ้นไปพร้อมกับหนูได้อยู่แดน 6 เหมือนเดิม แล้วก็มาถึงคิวหนู ผู้คุมก็ขานชื่อ เสร็จแล้วผู้คุมก็มองหน้าหนู ก้มมองชื่อในกระดาษ ตอนนั้นหนูลุ้นมาก หัวใจจะวาย แล้วผู้คุมก็บอกอยู่แดน 6 ไปก่อนนะ ตอนนั้นคือหนูเหมือนยกภูเขาออกจากอก วันนั้นหนูลงทุนไม่แต่งหน้า คือไปหน้าสด โนเมคอัพเต็มที่ นี่มีเพื่อนกะเทยในห้องได้ไปอยู่แดน 6 เพราะนางมีนม ก็แอบสงสารนาง หวังว่านางจะปรับตัวได้ค่ะ”

แม็กกี้เล่าว่า ชีวิตประจำวันที่นี่ยังเหมือนเดิม ยังคงอาบน้ำข้างบนห้องนอนกับเพื่อน สภาพแวดล้อมก็โอเคขึ้น กินอิ่มนอนหลับ จิตใจแข็งแรงดี เมื่อวันก่อนฝนตก อากาศดี ทำให้หลับสบายที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมา แต่ตอนกลางวันก็ยังคงร้อนหมือนเดิม ยิ่งข้างในไม่มีใต้ถุนอาคารเย็น ๆ มีแต่เต็นท์พลาสติกที่ไม่สามารถกันความร้อนจากไอแดดได้

ตุ่มเม็ดแดงใสจากการแพ้น้ำดูเป็นปัญหาสุขภาพที่กวนใจแม็กกี้อยู่ ทนายสังเกตว่า มีตุ่มลามขึ้นคอขึ้นแขนเยอะกว่าครั้งก่อน แม็กกี้บอกว่า ดีที่เพื่อนผู้ต้องขังที่มีอาการเหมือนกันขอออกไปพบหมอ แล้วหมอก็ให้ยาฆ่าเชื้อมาเยอะมาก แม็กกี้จึงขอยาเพื่อนกิน กินแล้วรู้สึกอาการดีขึ้น แต่ยังมีรอยอยู่ ทนายจึงแนะนำให้แม็กกี้ลงชื่อขอเข้าพบหมอไว้

เมื่อถามถึงเรื่องการติดตามข่าวสาร แม็กกี้เล่าว่า “ตอนนี้แทบไม่รับรู้ข่าวสารเลยค่ะ ส่วนใหญ่ที่รู้ข่าวอะไรก็มาจากการส่งต่อ” ทนายจึงอัพเดตสถานการณ์คดีทางการเมือง และคนที่ยังไม่ได้ประกันตัว ทนายเล่าให้แม็กกี้ฟังว่า ทางศูนย์ทนายฯ จะได้เข้าพบกระทรวงยุติธรรม และจะหารือเกี่ยวกับสิทธิของผู้ต้องขัง LGBTQ+ ด้วย เช่น การเทคฮอร์โมน แม็กกี้บอกว่า “เริ่ด แม่” แล้วนิ่งไปสักพัก ก่อนจะพูดว่า “หนูฝากเรื่องนี้ได้มั้ย เรื่องถอดเสื้อขึ้นห้อง คือไม่ใช่กะเทยทุกคนที่จะชอบการถูกลวนลาม บางคนพอต้องถอดเสื้อขึ้นห้องผู้ชายก็มาคอยดู อย่างหนู หนูไม่ชอบเลย หนูอายมาก จริง ๆ ไม่จำเป็นต้องถอดเสื้อ เพราะต้องเดินเข้าเครื่องสแกนอยู่แล้ว”

กับเรื่องการอาบน้ำ “คือที่หนูต้องอาบข้างบนอ่ะแม่ เพราะการอาบน้ำต้องอาบน้ำรวม มีกะเทยที่โดนลวนลาม เพราะอาบน้ำรวมกันหมด บ่อน้ำในนี้จะมี 6 บ่อ เป็นบ่อยาว ๆ ตอนเช้าผู้คุมจะเปิดน้ำเต็มอ่างไว้หมด แต่แดน 6 มีทั้งหมด 70 ห้อง ทั้งแดนมีคนอยู่ราว ๆ พันคน แล้วเวลาปล่อยลงมาอาบ พวกห้องแรกไม่เป็นอะไรหรอก แต่ห้องกลาง ๆ ถึงท้ายคือน้ำแทบจะไม่เหลือ”

แม็กกี้ยังเล่าว่า ได้รับจดหมายจากเวหาแล้ว สอบถามเรื่องความเป็นอยู่ ให้กำลังใจให้เข้มแข็ง ให้อยู่ให้ได้ ทุกคนเป็นกำลังใจให้เสมอ แม็กกี้ก็ได้เขียนจดหมายตอบเวหาแล้ว แต่ยังไม่ได้ส่ง คาดว่าจะส่งสัปดาห์หน้า

ปัจจุบัน (14 พ.ค. 2567) แม็กกี้ถูกคุมขังมาทั้งที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเรือนจำกลางคลองเปรมมาแล้ว 206 วัน

ย้อนอ่านบันทึกเยี่ยม

บันทึกเยี่ยม 4 ผู้ต้องขังคดี ม.112: “เป็นห่วงคนข้างนอกนะ เป็นกำลังใจให้ทุกคน”