ศาลเยาวชนฯ พิพากษาคดี “ละเมิดอำนาจศาล” ของ “วอน” จำคุก 30 วัน ลดเหลือ 15 วัน เหตุถ่ายรูปหยกนั่งหันหลังในห้องพิจารณา ก่อนให้ประกัน

วันที่ 5 ก.พ. 2567 เวลา 13.30 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางนัดฟังคำพิพากษาคดีละเมิดอำนาจศาลของ “วอน” (นามสมมติ) อายุ 24 ปี กรณีถูกกล่าวหาว่าใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพ “หยก” นักกิจกรรมเยาวชน ที่นั่งหันหลังให้ผู้พิพากษาในห้องพิจารณาคดี ขณะตรวจสอบการจับกุมในคดีมาตรา 112 เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2566 

ศาลพิพากษาว่า วอนมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหามีกำหนด 1 เดือน ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 15 วัน

.

สำหรับคดีนี้ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2566 วอนถูกแจ้งโดยกระทันหันว่าเขามีหมายจับคดีละเมิดอำนาจศาล ในขณะที่เขากำลังมีนัดพิจารณาคดีละเมิดอำนาจศาลในอีกคดีหนึ่ง จากกรณีตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ศาลที่พยายามจะนำตัวเขาไปที่ห้องพิจารณาคดีเพื่อไต่สวนในคดีละเมิดอำนาจศาล เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2566 โดยที่วอนไม่เคยทราบรายละเอียดมาก่อน เนื่องจากยังไม่เคยได้รับหมายเรียก

ต่อมาในวันที่ 22 ม.ค. 2567 เวลา 13.30 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางนัดไต่สวนในคดีนี้ วอนได้ตัดสินใจให้การรับสารภาพ โดยยอมรับว่าตนได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพหยกจริง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตักเตือนก็ได้ลบภาพดังกล่าวออก และไม่ได้ทำการเผยแพร่ภาพแต่อย่างใด 

วันนี้ (5 ก.พ. 2567)  เวลา 13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 10 วอนเดินทางมาศาลพร้อมครอบครัว โดยมีสายน้ำเดินทางมาร่วมให้กำลังใจ นอกจากนี้ยังมีผู้รับมอบฉันทะทนายความ นายประกันจากกองทุนราษฎรประสงค์ และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนมาร่วมสังเกตการณ์คดี 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลประจำหน้าบัลลังก์ได้เดินออกมาเรียกให้วอนเข้าห้องพิจารณาคดี โดยระบุว่าศาลอนุญาตให้เฉพาะผู้รับมอบฉันทะทนายความและผู้ปกครองเท่านั้นที่เข้าห้องพิจารณาคดีได้ แม้คดีนี้จะไม่ใช่คดีเยาวชนซึ่งต้องพิจารณาคดีเป็นการลับก็ตาม 

ภายในห้องพิจารณาคดี ศาลได้ให้วอนยืนขึ้น ก่อนอ่านคำพิพากษาในคดีนี้ สามารถสรุปได้ดังนี้

ศาลไต่สวนแล้ว ผู้กล่าวหารับว่าเป็นบุคคลเดียวกันตามหมายจับและเป็นบุคคลผู้อยู่ในวันเวลาตามข้อกล่าวหาในสำนวน โดยใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ถูกกล่าวหาถ่ายภาพในห้องตรวจสอบการจับกุมตรงบริเวณผู้เข้าร่วมฟังการพิจารณาคดี ซึ่งอาจมีบางภาพติดบุคคลที่เป็นจำเลยหรือพยานในคอกพยานในวันดังกล่าว 

ผู้กล่าวหายืนใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพบริเวณหน้าห้องตรวจสอบการจับของศาลจริง ซ้ำมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ออกมาห้ามปรามไม่ให้ผู้ถูกกล่าวหากระทำการดังกล่าวแล้ว เพราะเป็นสิ่งที่กระทำไม่ได้ในบริเวณศาล ต่อมาพบว่ามีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “โมกหลวงริมน้ำ” โพสต์ภาพดังกล่าวพร้อมข้อความ

ในระหว่างการไต่สวน ผู้ถูกกล่าวหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา 

เห็นว่า อาคารที่ทำการศาลยุติธรรมที่อำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนผู้มีอรรถคดี บุคคลผู้มีอรรถคดีต้องมีความมั่นใจและมีความอบอุ่นในความปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง แต่ผู้กล่าวหาได้กระทำการในบริเวณที่เป็นภายในศาล และข้อความดังกล่าวที่โพสต์ในเพจเฟซบุ๊กยังเป็นข้อความก้าวร้าวดูหมิ่นศาล ถือเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลและแสดงถึงความไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย จึงถือได้ว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ผู้ถูกกล่าวหามีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง  มาตรา 33 ประกอบพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว  มาตรา 6 ให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหามีกำหนด 1 เดือน ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 38 คงจำคุก 15 วัน

สำหรับผู้พิพากษาที่ทำคำพิพากษาในคดีนี้ ได้แก่ สุเทพ ภักดิกมล

หลังจากฟังคำพิพากษาเสร็จสิ้น วอนถูกเจ้าพนักงานตำรวจศาลสองคนควบคุมตัวออกมาจากห้องพิจารณา และถูกนำตัวไปที่ห้องควบคุมใต้ศาล แม่ของวอนเดินออกมาจากห้องพิจารณาคดีด้วยดวงตาแดงก่ำพร้อมร้องไห้ ขณะที่ทนายความและนายประกันจากกองทุนราษฎรประสงค์ได้ยื่นขอประกันตัววอนระหว่างอุทธรณ์

ต่อมาในเวลาประมาณ 16.40 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันวอน วงเงินประกันจำนวน 5,000 บาท ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์ โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไขอื่น

X