ครบ 112 วันการคุมขัง ‘เก็ท โสภณ’: “เขาขังผมได้ แต่ผมก็ยังสู้อยู่”

วันที่ 13 ธ.ค. 2566 ทนายความเดินทางไปเยี่ยม “เก็ท” โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ที่ไม่ได้รับการประกันตัวหลังถูกศาลอาญาพิพากษาลงโทษในคดีมาตรา 112 จำคุก 3 ปี และลงโทษในข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จากกรณีปราศรัยในกิจกรรม #ทัวร์มูล่าผัว ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2565

ปัจจุบัน เก็ทถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์ในคดีนี้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาครบ 112 วัน หรือเกือบจะครบ 4 เดือนแล้ว เก็ทยังดูเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นในการต่อสู้ และยืนหยัดต่อไปแม้จะถูกคุมขัง

เก็ทบอกว่า “เขาขังผมได้ แต่ผมก็ยังสู้อยู่ ยิ่งได้เห็นเพื่อน ๆ ที่โดนคดีการเมืองเหมือนกัน ก็ยิ่งเหมือนจุดไฟให้เรา เราจะยอมแพ้ได้ยังไง

“ตอนนี้ก็ยังมีคนถูกดำเนินคดีอยู่เรื่อย ๆ มาตรา 112 ยังคงถูกนำมาใช้ จนประชาชนก็คงเห็นแล้วว่ามันมีปัญหา ทุกคนรู้จัก 112 แต่สถาบันที่เป็นคู่กรณีโดยตรงของ 112 ล่ะ เขารู้ตัวหรือยัง ว่ามันมีปัญหา เห็นปัญหาหรือไม่ รัฐบาลล่ะ ได้เห็นว่า 112 เป็นปัญหาบ้างหรือยัง

“ถ้าผู้มีอำนาจยังไม่เห็นปัญหา ก็จะมีประชาชนถูกดำเนินคดีปิดปากอยู่เรื่อย ๆ”

เก็ทยังทราบเรื่องแซม สาแมท ที่ถูกทำร้ายโดยการชกที่ใบหน้า โดยผู้ขี่จักรยานยนต์รับจ้าง เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เขาฟังเรื่องแล้ว ฝากความห่วงใจถึงแซม และขอให้ทุกคนระมัดระวังตัว

เก็ทยังฝากความคิดถึงไปถึงคุณพ่อ เขาแจ้งว่าช่วงนี้จดหมายที่ส่งออกไปก็ถูกปิดกั้น โดยทางเจ้าหน้าที่ซึ่งตรวจสอบจดหมายอ้างว่ามีข้อความที่อาจเป็นการยุยงปลุกปั่น จึงไม่อนุญาตให้ส่งออกไป เก็ทยังแสดงความเป็นห่วงครอบครัว ที่ต้องทำงานหนัก และตื่นแต่เช้าเพื่อมารอเยี่ยมตน

นอกจากคดีที่เก็ทถูกคุมขัง และอยู่ระหว่างเตรียมยื่นอุทธรณ์คำพิพากษานั้น ในวันที่ 27 ธ.ค. 2566 นี้ เก็ทจะถูกนำตัวไปยังศาลอาญาธนบุรี เพื่อฟังคำพิพากษาในคดีมาตรา 112 อีกคดีหนึ่ง ได้แก่ คดีปราศรัยในกิจกรรม #ฟื้นฝอยหาตะเข็บ #ใครฆ่าพระเจ้าตากสิน ที่วงเวียนใหญ่ เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565 โดยคดีนี้เขาแสดงออกปฏิเสธอำนาจของศาล เพื่อเป็นการประท้วงและเรียกร้องให้มีการคืนสิทธิประกันแก่ผู้ต้องขังคดีทางการเมือง โดยการขอถอนทนายความ นั่งหันหลังในห้องพิจารณา และถอดเสื้อประท้วง