เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2566 ทนายความได้เดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเยี่ยม “เวหา” ซึ่งถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี 18 เดือน ในคดีมาตรา 112 กรณีใช้บัญชีทวิตเตอร์ “ฟ้าฝา ver.เกรี้ยวกราด” โพสต์ข้อความเกี่ยวกับคุกวังทวีวัฒนา และศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ประกัน ปัจจุบัน (25 ส.ค.) เขาถูกคุมขังมาแล้ว 104 วัน
เวหาอดอาหารประท้วงมาตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. เพื่อเคียงข้างวารุณีและยืนหยัดตาม 3 ข้อเรียกร้องของตนเอง ได้แก่
- เรียกร้องให้ ‘สส.’ ที่กุมอำนาจนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยของประชาชน เข้ามารับข้อเสนอ “ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม” จากพวกเราผู้ต้องขังในเรือนจำ
- เรียกร้องไปถึง ‘คณะรัฐมนตรีชุดใหม่’ ที่กุมอำนาจฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยของประชาชน ออกมาแถลงความคืบหน้าและความเป็นไปได้ของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีทางการเมือง
- เรียกร้องไปถึง ‘ศาล’ ผู้กุมอำนาจตุลาการ ซึ่งเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยของประชาชน ให้คืนสิทธิประกันตัวให้ผู้ต้องขังทางการเมืองที่คดียังไม่สิ้นสุดเด็ดขาด และปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมืองที่คดีสิ้นสุดเด็ดขาดแล้ว
ผลข้างเคียงการอดอาหารวันที่ 6
เวหาดูเหนื่อย เสียงแหบกว่าเดิม ระหว่างคุยก็ไอเป็นระยะ เขาบอกว่าน่าจะเป็นหวัดนิดหน่อย สำหรับสภาพร่างกายตอนนี้ เวหารู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย มีปัญหาเรื่องการขับถ่ายนิดหน่อย มีอาการมีปวดหัวและหน้ามืดบ้าง แต่พอได้กินน้ำหวานหรือดมยาดมก็รู้สึกดีขึ้นบ้าง ใช้ชีวิตลำบากขึ้นเพราะร่างกายไม่ค่อยมีแรง
ในช่วงเช้าของวันที่ 28 ส.ค. เขาได้รับการตรวจร่างกายเบื้องต้นจากพยาบาลแล้ว โดยเวหาได้ขอยาแก้หวัดไปด้วย เพราะมีอาการไอเหมือนจะเป็นไข้หวัด ส่วนน้ำหนักตัวลดลงไปประมาณ 2 กก. จากเดิมหนักประมาณ 60 กก. แต่ล่าสุดมีน้ำหนักเหลือเพียง 58 กก.
ได้กำลังใจจากทุกคนในเรือนจำเคียงข้างอดอาหารประท้วง
“เจ้าหน้าที่ทราบแล้วครับว่าผมอดอาหาร เขาเรียกไปคุยด้วยตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว (25 ส.ค.) บอกว่า ไม่อยากให้ทำแบบนี้ พยายามโน้มน้าวเรา เขาก็คงเป็นห่วง เราก็ได้ยืนยันไปว่า เรามีข้อเรียกร้องอะไรบ้าง และจะพยายามดูแลตัวเองให้ดี เขาก็บอกว่า มันก็เป็นสิทธิของเราที่จะทำ แต่เขาก็จะดูแลเราเพื่อไม่ให้ราชทัณฑ์เสียหาย”
โดยตอนนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มอบหมายให้เพื่อนร่วมห้องขังและอาสาเรือนจำช่วยดูแลเวหาระหว่างการอดอาหารประท้วง เพื่อนผู้ต้องขังเป็นกำลังใจและคอยดูแลเวหาค่อนข้างดี
“บางคนก็จะออกแนวฮาร์ดคอร์หน่อยๆ เอาอาหารมาจ่อปากแล้วบอกให้ผมกิน (หัวเราะ) บางคนก็คอยมาถามว่า ‘โอเคไหม, ผมเป็นกำลังใจให้นะ, อาจจะอดข้าวกับพี่ไม่ได้ แต่ก็จะไม่ทำให้พี่หิวเพิ่มด้วยการไม่กินอะไรให้เห็นแล้วกัน’ (หัวเราะ)”
ตอนนี้เวลาเพื่อนผู้ต้องขังจะกินอะไรพวกเขาก็เลยจะพยายามไม่ให้เวหาได้เห็น “วันนี้เมนูอาหารเที่ยงคือ ‘ข้าวต้มกุ๊ย’ เพื่อนที่ทำงานอยู่โรงเลี้ยงรู้ว่าผมอดอาหาร ก็เลยเอาน้ำข้าวต้มผสมน้ำตาลมาให้ผมกินแก้วหนึ่ง บอกว่ากินจะได้มีแรงขึ้น ผมกินแล้วมันก็มีแรงขึ้นจริงๆ
“ตอนกลางคืนได้ยินเสียงพลุ แต่เราหลับไปแล้ว ตอนเช้าเขาก็จะมาบอกเราว่า เพื่อนๆ มาจุดพลุให้กำลังใจเรานะ แต่เขาก็จะกังวลเรื่องข้อเรียกร้องของเราครับ ‘ว่าจะเป็นไปได้ไหม’ เราต้องอดอาหารไปถึงเมื่อไหร่ (ถอนหายใจ)
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่จะทำให้ถึงที่สุดครับ
“เจ้าหน้าที่เองก็เป็นกำลังใจให้ผมนะ เวลาตรวจเรือนนอนก็บอกให้ผมสู้ๆ นะ”
ได้เจอ ‘เก็ท-โสภณ’ และได้อยู่ร่วมแดนกับ ‘คเชนทร์’
เวหาเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (25 ส.ค.) เขาได้เจอกับ ‘เก็ท-โสภณ’ ด้วย แต่ถูกคุมขังอยู่คนละแดนกัน
“ตอนเดินผ่านหน้าแดน 2 ผมขอแง้มประตูเข้าไปดูหน่อย แล้วบังเอิญเจอเก็ทกำลังทำประวัติกับเจ้าหน้าที่พอดี ก็เลยได้เกาะซี่ลูกกรงคุยกัน ‘เก็ทก็คือเก็ท’ คนที่ยิ้มได้เสมอไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายขนาดไหน ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเก็ท อยากสื่อสารออกไปด้วยว่า ถ้าทุกคนยังนิ่งเฉยอยู่ก็จะมีคนเข้ามาอีก
“ตอนนี้ ‘คเชนทร์’ ถูกย้ายตัวมาอยู่แดน 3 แล้ว เราก็ดีใจที่ได้ดูแลกัน น้องอายุ 21 ปีแล้วถูกพิพากษาจำคุกด้วยโทษ 10 ปี นั่นหมายความว่า ช่วงอายุปีที่ 20-30 ของเขามันจะหายไปเลย ผมได้อ่านเอกสารคดีของเขาแล้ว ก็รู้สึกว่ามันไม่มีพฤติการณ์อะไรเลยที่บอกว่าเขาเป็นผู้ก่อเหตุ น้องยังต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ อยู่ครับ ผมก็จะพยายามช่วยดูแล”
แม่ไม่เห็นด้วยกับการอดอาหาร แต่สิ่งนี้ก็ทำเพื่อแม่นั่นแหละ
เราอัปเดตสถานการณ์ข้างนอกให้เวหาฟัง และบอกว่าช่วงนี้ประชาชนกำลังจับตามองการตั้งคณะรัฐมนตรี ส่วนประเด็นผู้ต้องขังทางการเมืองยังมีความสนใจไม่มากเท่า
เวหาตอบว่า “ข้อเรียกร้องของผมเป็นการเรียกร้องโดยตรงต่อผู้มีอำนาจ คือ สส. และศาล ไม่ใช่คนในสังคม ดังนั้น ถ้าพวกเขากำลังสนใจเรื่องอื่นอยู่ก็ไม่เป็นไร ส่วนพวกเราผู้ต้องขังในเรือนจำรอไม่ไหวแล้ว”
เวหาฝากข้อความบอกคุณแม่ว่า “พอแม่รู้ว่าผมอดอาหาร เขาก็เขียนจดหมายมาด่า (หัวเราะ) ถามว่าไม่รักแม่เหรอ ไม่รักตัวเองเหรอ รักแต่อุดมการณ์หรือไง ทำไมถึงทำแบบนี้ (หัวเราะ)
“อยากฝากบอกแม่ว่า เพราะรักแม่มากๆ นั่นแหละถึงได้ทำแบบนี้ อยากกลับไปอยู่กับแม่เร็วๆ อยากให้แม่ได้อยู่ในสังคมที่เป็นธรรม ผมไม่ได้คิดจะเข้ามาอดอาหารเลย ตอนนี้ผมก็พยายามรักษาระบบของร่างกายอยู่ ซึ่งมันยากมากเลย
“คนที่อดทนได้ต้องเก่งมาก แต่ใจยังสู้ครับ พร้อมเผชิญกับ ‘ความหิวโหย’…”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง