เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2566 ทนายความเดินทางไปเยี่ยม “น้ำ – วารุณี” ผู้ต้องขังคดี ม.112 อายุ 32 ปี ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ก่อนได้รับแจ้งว่า เธอจะเริ่มอดอาหารเพื่อประท้วงศาลที่สั่งไม่ให้ประกันตัวเรื่อยมา เป็นจำนวน 5 ครั้ง (เป็นการยื่นอุทธรณ์คำสั่ง 1 ครั้ง) ตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาในวันที่ 28 มิ.ย. 2566
น้ำเริ่มต้นอดอาหารแล้วตั้งแต่เวลาเที่ยงของวันที่ 21 ส.ค. นี้เป็นต้นไป โดยจะเริ่มจากการดื่มเฉพาะนมเท่านั้นก่อน และหากครบกำหนด 3 วันแล้ว ศาลยังไม่สั่งให้ประกันตัวอีก เธอจะพิจารณายกระดับการแสดงออกเป็น “การอดอาหารและน้ำ” ทันที และเธอยังจะปฏิเสธการรักษาทุกอย่างด้วย
รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุผลเบื้องหลังของการตัดสินใจแสดงออกครั้งนี้ วารุณีได้เขียนไว้เป็นแถลงการณ์ออกมาเผยแพร่สู่สาธารณชน และย้ำว่าเธอถูกคุมขังมานานเกือบ 2 เดือนแล้ว แม้เธอจะทำทุกวิถีทาง แต่ศาลก็ยังคงยืนยันไม่ให้ประกันตัว และฟางเส้นคือคำสั่งที่ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัวเธอครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2566 ซึ่งเธอตั้งความหวังไว้มากว่าจะได้รับการประกันตัวออกไประหว่างอุทธรณ์คำพิพากษา
อย่างไรก็ตาม ทนายความเล่าเพิ่มเติมว่า วารุณีมีน้ำหนักตัวไม่มากนัก ค่อนข้างผอม ก่อนถูกคุมขังน้ำหนักประมาณ 37 กิโลกรัม และลดลงเรื่อยๆ เมื่อถูกคุมขัง โดยปัจจุบันเธอมีน้ำหนักประมาณ 33 กิโลกรัมเท่านั้น หลายคนจึงแสดงความกังวลว่าเธอจะอาการย่ำแย่หากต่อจากนี้เธอจะประท้วงด้วยการอดอาหารเป็นเวลานาน
ปัจจุบันวารุณีถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์คำพิพากษาอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลางมาเป็นเวลา 55 วัน หรือเกือบ 2 เดือนแล้ว ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุกในคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพรัชกาลที่ 10 ขณะเปลี่ยนเครื่องทรง “พระแก้วมรกต” เป็นชุดกระโปรงยาวสีม่วงจากแบรนด์ Sirivannavari และใส่ภาพสุนัขด้วย โดยศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 3 ปี แต่ได้ลดโทษกึ่งหนึ่ง เพราะรับสารภาพเหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน จากนั้นศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
บันทึกเยี่ยมวารุณีจากทนายความ
เราสังเกตว่าวันนี้น้ำไม่ได้แต่งหน้าออกมา หน้าตาดูเศร้าๆ น่าจะรู้เรื่องผลประกันแล้ว เมื่อเรายกหูโทรศัพท์ขึ้น น้ำก็ถามทันทีว่า “รอบนี้เขา (ศาล) ให้เหตุผลว่ายังไงคะ”
เราบอกว่า “เหมือนเดิม” อัตราโทษสูง รับสารภาพในศาลชั้นต้นแล้ว เกรงว่าจะหลบหนี…
น้ำฟังแล้วนิ่งไปพักหนึ่ง “เมื่อวันที่ 18 ตอนนี้หนูกำลังพักผ่อนอยู่ในห้องกับเพื่อนๆ มีเจ้าหน้าที่เปิดประตูเข้ามา หนูตื่นเต้นดีใจมากค่ะ คิดว่าต้องเป็นเราแน่ๆ ที่ได้ประกันตัว แต่สุดท้ายก็เป็นคนอื่น หนูก็เลยรู้ค่ะว่าคงไม่ได้ประกันแน่ๆ”
น้ำเริ่มน้ำตาคลอ
“เครียดมากเลยค่ะพี่ ช่วงเสาร์อาทิตย์นี้หนูขอยานอนหลับ 2 เม็ด เพราะมันนอนไม่ได้จริงๆ หลับๆ ตื่นๆ แต่เขาไม่ให้ คือเขาจัดยาให้แล้ว 7 วัน ยานอนหลับวันละเม็ด ถ้าหนูกิน 2 เม็ด วันพรุ่งนี้ก็จะไม่ได้กิน” น้ำพูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เขาพูดออกมาได้ยังไง หนูทำทุกอย่างแล้ว ไม่รู้เลยว่าเขาต้องการอะไร แล้วเหตุผลมันก็เป็นเหตุผลเดิมๆ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลย” น้ำพูดด้วยเสียงสั่นเครือและเริ่มร้องไห้ออกมา
“หนูมีวิธีไหนบ้าง …
“หนึ่ง รออุทธรณ์ มันก็ใช้เวลา เผลอๆ ติดปีครึ่งเท่าโทษจริงเลย
“สอง เซ็นใบยอมเป็นนักโทษเด็ดขาด วิธีนี้ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้ กว่าจะได้เลื่อนขั้นเป็นนักโทษชั้นดี ชั้นเยี่ยม เพื่อที่จะได้เข้าหลักเกณฑ์พักโทษหรือลดโทษมันก็ใช้เวลา ‘เกือบปี’ ปีหนึ่งมีการเลื่อนขั้นอยู่แค่ 3 ครั้งเอง”
“ตอนนี้สิ่งที่หนูจะทำได้ มันเหลืออยู่อย่างเดียวแล้วพี่ หนูไม่ได้หวังว่ามันจะมีอิมแพ็คยิ่งใหญ่อะไร หนูรู้ว่าคนข้างนอกกำลังสนใจเรื่องอื่นอยู่ (ร้องไห้) แต่หนูอยากให้คนในสังคมรู้ว่า วารุณีคือตัวอย่างของคนธรรมดาที่ทุกข์ทรมานด้วยมาตรา 112 ความเจ็บปวดของกฎหมายข้อนี้มันมีอยู่จริง จับต้องได้จริง แล้วยังต้องมีอีกกี่คนที่ต้องเจ็บปวดแบบนี้
“น้ำตัดสินใจที่จะอดน้ำอดอาหารตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ …”
เราพยายามบอกกับน้ำว่า ทนายความกำลังจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกันตัวต่อศาลฎีกาอีกครั้ง หากเธอเริ่มอดอาหารและน้ำ อาจจะทำให้เธอมีอาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว น้ำหนักตัวก็น้อยอยู่แล้ว ตอนนี้ประมาณ 33 กิโลกรัมได้ น้ำบอกว่าเธอตัดสินใจจะดื่มเฉพาะนมไปก่อนเป็นเวลา 3 วันตั้งแต่วันนี้ (21 ส.ค. 2566) และหลังจากนั้นจะเริ่มอดน้ำและอาหารแบบเด็ดขาดแล้ว
“อีกกี่วันกี่เดือนหนูจะได้ออกไป หนูก็อยากออกไปแบบแข็งแรงนะคะ แต่หนูทำอะไรไม่ได้ หนูอยู่ภายใต้การกลั่นแกล้งของศาลมาเกือบ 2 เดือนแล้ว เราจะยอมได้เหรอ ดังนั้น หนูต้องทำในส่วนที่หนูทำได้”
“อยากให้สื่อสารถึงคนข้างนอก บางคนอาจจะมองว่าเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ ตอนแบมกับตะวันทำ หนูก็ไม่เห็นด้วยนะคะ แต่หนูเข้าใจแล้วว่า พออยู่ในนี้ มันทำอะไรไม่ได้จริงๆ หนูหมดความอดทนแล้ว” ถึงตรงนี้น้ำร้องไห้โฮเสียงดัง เหมือนว่าเธอกำลังเป็นทุกข์ใจมาก
“พี่หนูไม่ไหวแล้ว ศาลเอากฎหมายข้อนี้มากลั่นแกล้งคนธรรมดา มันต้องมีอีกกี่เคสถึงจะพอใจ พอเห็นว่าไม่มีคนสนใจแล้วจะทำยังไงก็ได้ เตะไปซ้ายไปขวาก็ได้เหรอ หนูบอกเลยนะว่าหนูเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ไม่ใช่ศาล”
“เมื่อวานหนูรู้แล้วแหละว่าไม่ได้ประกัน เพราะไม่ถูกเบิกตัวก็เลยตัดสินใจร่างแถลงการณ์ส่วนตัวไว้ หนูจะกินนม 3 วัน แล้วก็จะงดน้ำอดอาหารต่อเลย จะกินน้ำแค่ตอนกินยาเท่านั้น แล้วก็จะไม่รับการรักษาใดๆ หนูจะเริ่มอดอาหารตั้งแต่วันนี้เลย!”
“ตอนอยู่ข้างนอก เราสามารถมีความฝัน มีความหวัง แต่หนูต้องมาอยู่ในเรือนจำเพราะโพสต์รูปเนี่ยนะ เผลอๆ ขายยายังโทษน้อยกว่านี้เลย แถมยังได้ประกันด้วย หนูอยากให้ศาลรู้ว่ากฎหมายข้อนี้มันไม่เคยดีกับใคร อีกไม่นาน คนจะตื่นรู้กับมาตรา 112 มากขึ้น แล้วกฎหมายก็จะเสื่อมลง มันไม่ดีกับศาล ประชาชน หรือแม้แต่สถาบันฯ เลย”
น้ำเล่าทั้งน้ำตาว่า “เธอไม่กลัวความตาย”
“มันจะมีตึกในแดนที่ไม่สูงมาก ชั้น 2 จะสูงประมาณ 3 เมตร หนูมีแวบหนึ่งที่คิดว่า โดดลงไปเลยดีไหม? … ถ้าเอาขาลงคงไม่เป็นไร แต่ถ้าเอาหัวลงก็อาจจะตาย แต่ถ้าไม่ตายก็โคม่า พิการ อาจจะเป็นภาระครอบครัวอีก หนูก็เลยไม่ทำ หนูคิดแล้วคิดอีก อยู่ข้างนอก หนูก็พยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว 3 ครั้ง ดังนั้นครั้งนี้หนูไม่ติดเลยถ้าหนูจะตายจริงๆ”
“หนูอยู่ในคุกพ่อก็ร้องไห้เสียใจ หนูตายพ่อก็ร้องไห้เสียใจ ไม่ว่าหนูจะทำอะไรเขาก็เสียใจอยู่แล้ว คิดว่าพ่อร้องไห้เพราะหนูไม่ได้ประกันกี่ครั้งแล้วคะ …”
“หนูสงสารคนรอบตัวหนูมาก แต่หนูทนไม่ไหวแล้วจริงๆ พี่ช่วยบอกให้ทุกคนเข้าใจด้วยนะคะ”
ก่อนจากกัน น้ำบอกเราว่า “เอ้อ! ต่อไปหนูก็คุยกับพี่ทนายได้นานเลยน่ะสิ ไม่ต้องห่วงเรื่องกินข้าวแล้ว” เธอหัวเราะทั้งๆ ที่นัยตายังแดงกล่ำและน้ำตาเปื้อนอาบทั้งสองแก้ม น้ำหมายถึงว่าการเข้าเยี่ยมครั้งต่อไป เราและเธอสามารถคุยกันได้นานขึ้น เพราะเธอไม่ต้องรีบไปกินข้าวมื้อเที่ยงเหมือนทุกครั้งแล้ว
วันนี้น้ำได้ส่งต่อแถลงการณ์ซึ่งเป็นถ้อยคำของเธอเองทั้งหมดมาเผยแพร่สู่สาธารณชน ถึงความทุกข์ทนของการถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ในฐานะผู้ต้องขังคดี ม.112 และเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจอดอาหารประท้วงที่ได้เริ่มขึ้นไปแล้วตั้งแต่เวลาเที่ยงตรงของวันนี้
แถลงการณ์โดยวารุณี
สวัสดีค่ะ นี่คือ “น้ำ วารุณี” คนธรรมดาที่โดนกฎหมายมาตรา 112 กีดกันออกจากอิสรภาพ ครอบครัว เพื่อนฝูง และคนรัก เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว ที่น้ำต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากความบิดเบี้ยวของบุคคลที่เรียกตนเองว่า “ผู้ผดุงความยุติธรรม” น้ำรู้สึกว่า ตราชั่งของศาลมันเอียงไปทางฝั่งตรงข้ามกับประชาชนเสมอ
การใช้ชีวิตในนี้ส่งผลกระทบต่อน้ำมากมาย ทั้งสภาพร่างกายและสภาพจิตใจที่ถดถอยลงทุกวัน ตอนแรกน้ำยังมีความหวังกับกระบวนการยุติธรรมเสมอ หวังว่าเมื่อน้ำยอมทำตามทุกเงื่อนไข ศาลจะปล่อยตัวน้ำออกไปดูแลครอบครัวอย่างที่น้ำเคยทำมาตลอด แต่ผลปรากฏว่าในครั้งนี้น้ำก็ยังไม่ได้รับสิทธิประกันตัวด้วยเหตุผลเดิมๆ นั่นคือ เป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง มีเหตุอันควรที่เชื่อได้ว่าจำเลยจะหลบหนี ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาเคยไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวแล้ว และที่อ้างว่าเจ็บป่วย กรมราชทัณฑ์สามารถดูแลได้
น้ำอยากถามศาลว่า โทษจำคุกแค่ 1 ปี 6 เดือน น้ำจะลงทุนหนีไปต่างประเทศ 10-20 ปี เพื่ออะไร ถ้าปล่อยตัวน้ำ น้ำจะไปเป็นตัวอันตรายต่อสังคมหรือประเทศชาติอย่างไร
ถ้าศาลขังน้ำไว้เพราะอยากให้หลาบจำ อย่างนั้นต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ น้ำต้องติดคุกเต็ม 1 ปี 6 เดือนเลยไหม หากต้องการแบบนั้นได้โปรดบอกมาเลยว่า “จะไม่พิจารณาการขอประกันตัวของน้ำอีกต่อไปแล้ว” น้ำจะได้เซ็นใบยินยอมเพื่อเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดให้
คำสั่งไม่ให้ประกันตัวของศาลอุทธรณ์ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา มันเป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” ของน้ำแล้วค่ะ น้ำไม่สนใจแล้วว่าศาลฎีกาจะพิจารณาคำร้องขอประกันตัวว่ายังไงอีกแล้ว หากศาลไม่ให้น้ำออกมาดีๆ น้ำก็จะหาวิธีออกมาด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการออกมาแบบครบ 32 หรือออกมาโดยมี “ผ้าขาวคลุมตัว” ก็ตาม
น้ำไม่เคยคิดว่ามันจะมาถึงจุดนี้ แต่น้ำทนไม่ไหวแล้วค่ะ น้ำไม่อยากอยู่ภายใต้การกลั่นแกล้งของศาลอีกแล้ว ศาลอาจจะคิดว่าน้ำเป็นแค่คนธรรมดา ไม่ใช่คนที่สังคมจับตามอง จะสั่งไปซ้ายไปขวาก็ได้ พออยู่ในเรือนจำ มันไม่มีอะไรที่น้ำสามารถทำได้เลย น้ำเหลือแค่ “ร่างกาย” ของตัวเอง และน้ำจะใช้มันเพื่อประท้วงความอยุติธรรมของศาล เพราะน้ำเป็นเจ้าของชีวิตตัวเองค่ะ ไม่ใช่ศาล
น้ำไม่ได้หวังว่าคนข้างนอกจะมาช่วยกันเรียกร้องให้ศาลปล่อยตัวน้ำนะคะ มันไม่ใช่เรื่องปกติเลยที่ต้องให้คนหมู่มากมากดดันให้ศาลทำหน้าที่ของตัวเอง ศาลต้องรู้ว่า “การไม่ให้สิทธิประกันตัวมันคือความอยุติธรรม”
น้ำไม่ได้คิดว่าชีวิตของตัวเองมีอำนาจเหนือศาล แต่อยากให้ศาลรู้ว่าทุกครั้งที่ศาลไม่ให้ประกันตัว น้ำผิดหวังและเจ็บปวดแค่ไหน หากบอกว่าโทษจำคุกแค่ 1 ปี 6 เดือนเองก็ทนๆ ไปสิ น้ำอยากให้ลองมาติดคุกดูค่ะ ลองมีภาระ มีครอบครัวต้องดูแล แล้วต้องมาอยู่ในนี้ดู
น้ำตัดสินใจว่าจะอดอาหารตั้งแต่เวลาเที่ยงวันนี้ (21 ส.ค. 2566) โดยนับจากนี้อีก 3 วันน้ำจะดื่มแต่นม หากน้ำยังไม่ได้รับการประกันตัว น้ำก็จะยกระดับด้วย “การอดน้ำอดอาหาร” และจะดื่มน้ำแค่ตอนกินยานอนหลับเท่านั้น
นอกจากนี้น้ำจะไม่รับการรักษาใดๆ น้ำเป็นแค่คนธรรมดาที่พยายามต่อสู้ดิ้นรนกับมาตรา 112 ในกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยวเท่านั้น หากน้ำต้องสูญเสียชีวิตตนเอง น้ำก็อยากให้มันเกิดแรงกระเพื่อมในสังคม และอยากให้ทุกคนตระหนักรู้ถึงปัญหาของมาตรา 112 มากขึ้น เพราะน้ำไม่อยากให้มีคนธรรมดาต้องทุกข์ทรมานกับมาตรา 112 อีกแล้วค่ะ
น้ำทนอยู่กับความอยุติธรรม การถูกกลั่นแกล้งแบบนี้ไม่ได้แล้ว ขอให้ทุกคนเข้าใจน้ำด้วยนะคะ
21 ส.ค. 2566
ทัณฑสถานหญิงกลาง
เรื่องที่เกี่ยวข้อง