บันทึกเยี่ยมวารุณี: ความเป็นอยู่ที่น่าอึดอัดใจในเรือนจำ

เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2566 ทนายความได้เข้าเยี่ยม “น้ำ” วารุณี ชาวพิษณุโลกวัย 30 ปี ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เธอถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 2566 ในข้อหาหลักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพรัชกาลที่ 10 ขณะเปลี่ยนเครื่องทรง “พระแก้วมรกต” เป็นชุดกระโปรงยาวสีม่วงจากแบรนด์ Sirivannavari และใส่ภาพสุนัข

ปัจจุบัน (25 ก.ค. 2566) น้ำถูกขังมาแล้ว 28 วัน ทนายสังเกตเห็นว่าเธอดูผอมลงจากเดิม แต่ยังมีท่าทีสดใส เมื่อนั่งลงแล้ว น้ำก็ถามเรื่องข่าวสารทางการเมืองข้างนอกทันที เธออยากให้มีการตั้งรัฐบาลใหม่เร็วๆ เพราะคิดว่ามันจะส่งผลกับการประกันตัวในคดีทางการเมือง

“คือหนูก็อยากยื่นประกันในช่วงที่ดีกว่านี้ เปอร์เซ็นต์การได้ประกันคงจะสูงกว่า รัฐบาลใหม่ก็อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงอีกอย่างหนึ่ง แม้ว่ามันจะดีหรือไม่ดี ก็ขึ้นอยู่กับพรรคที่นำอีกที แต่…หนูต้องรออีก 10 เดือนเลยเหรอพี่ ตอนนั้นมันก็จะครบโทษที่หนูได้รับแล้วนะ”

น้ำยังเล่าถึงชีวิตบางส่วนและปัญหาในเรือนจำให้ฟัง ซึ่งเธอดูอัดอั้นกับเรื่องความเป็นอยู่มาก

“ใจมันอยากออกไปมากๆ เลยพี่ ถึงในนี้จะมีกัลยาณมิตรที่ดี แต่ความเป็นอยู่หลายอย่างก็แย่ ผู้ช่วยผู้ต้องขังบางคนปากจัดมาก ด่าตลอด เดินช้าก็ด่า ทำอะไรผิดนิดหน่อยก็โดนทำเวร เหมือนหนูอยู่ในห้องว้ากตลอดเวลา ขยับตัวยากมาก เซอร์วิสมายด์ไม่มีเลย สรรหาคำมาด่าได้ทุกวัน จนหนูแบบ เออ เก่งนะหาคำมาด่าได้ไม่ซ้ำเลย

“หนูต้องตื่นตี 5 ไปนับยอด ลงมา 6 โมงเช้า เข้าห้องอาบน้ำรวม อาบทีละ 50-60 คน เค้าให้ใช้น้ำอาบคนละ 10 ขัน รวมสระผมล้างหน้าแปรงฟันด้วย น้ำก็ไม่ได้สะอาด มีตะกอน บางคนแปรงฟันคร่อมแทงค์เลยอะ ยาสีฟันก็ไหลลงแทงค์อีก จากนั้นก็ขึ้นไปเปลี่ยนเป็นสุ่มแห้ง (ผ้าถุงแห้ง) รีบแต่งตัวเป็นชุดหลวง แล้วก็เดินไปกินข้าว

“แต่หนูไม่ได้กินข้าวหลวงนะ มันกินไม่ได้เลยพี่ เคยได้ยินว่าผู้ต้องขังแต่ละคนได้ค่าข้าวหัวละ 200 มันจริงเหรอคะ สภาพนี่บอกว่าหัวละ 30 บาทยังมากไปเลยนะ”


“หนูจะกินอาหารในร้านค้าค่ะ ซึ่งก็ต้องแย่งชิงกัน ทุกอย่างแพงและหายาก อย่างน้ำแข็งเนี่ย ถ้าไม่ซื้อน้ำหวานก็จะไม่ได้น้ำแข็ง ซื้อน้ำอัดลมก็ไม่ได้นะ บางทีถ้าน้ำแข็งหมดก่อนก็ไม่ได้กิน ก็ได้แค่น้ำหวานธรรมดา ร้านค้าเองก็ไม่ได้เปิดตลอดเวลา มีกฎเกณฑ์ในการซื้อด้วย ถ้าไม่ทันก็ไม่ได้กิน มีเวลากินแค่ 45 นาที แล้วก็ต้องรีบมาเข้าแถว บางวันหนูได้กินข้าวแค่มื้อเดียวเองค่ะ มันก็เลยผอมลงมาก

“ทุกวันนี้หนูใช้น้ำกินล้างช้อน แล้วก็ใช้ทิชชู่เช็ดเอา เพราะที่ล้างช้อนในแดนจะเป็นถัง 2 ถัง ถังหนึ่งเป็นน้ำยาล้างจาน อีกถังเป็นน้ำเปล่า ก็จุ่มล้างกันแบบนั้นทุกคน ไม่แปลกเลยที่ตอนมีโรคระบาดจะติดกันเยอะ

“ห้องที่หนูนอนมันจะเป็นห้องแนวยาว ความกว้างเท่ากระเบื้อง 8 แผ่น ที่ไม่ใช่กระเบื้องใหญ่แบบในห้องทนายนะคะ มันเป็นขนาดมาตรฐานค่ะ” 

น้ำพูดพลางชี้ให้ดูกระเบื้องที่อยู่ในห้องเยี่ยมผู้ต้องขัง 

“ขนาดเท่านี้เลยค่ะ ห้องหนูมี 17 คน ก็ต้องนอนเรียงกันแบบสลับฟันปลา มีผ้าให้ 3 ผืน เลือกเอาว่าจะปูพื้น ห่มนอน หรือทำเป็นหมอน เวลานอนหนูก็นอนทับขาทั้งคืนเลยพี่ ไม่อยากเอาขาไปโดนใคร เดี๋ยวเค้าจะตื่น

“ในห้องนอนก็จะมีห้องน้ำ ก็อย่างที่รู้กันน่ะพี่ มันไม่ใช่ห้องปิดทึบ กำแพงไม่สูงมาก เปิดโล่ง เวลาทำธุระก็เห็นหมดเลย”

เมื่อถามต่อถึงเรื่องสภาพจิตใจ วารุณีอัพเดทว่า ตอนนี้เธอได้ยานอนหลับแล้ว

“ได้ยาเมื่อวันศุกร์ที่แล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้เจอหมอ เหมือนเค้าบอกให้เราเขียนคำประสงค์ก่อน หนูตัดสินใจจะลองพบหมอดู ดีไม่ดียังไงก็ค่อยว่ากัน หมอเข้ามาทุกวันศุกร์ ก็คิดว่าจะลงชื่อวันนั้นค่ะ

“เขาให้หนูกินยาตั้งแต่บ่ายสามครึ่ง เพราะหนูถือยาขึ้นไปเรือนนอนไม่ได้ ก็เข้าห้องนอนตั้งแต่สี่โมงเย็น คุยกับเพื่อนอีกชั่วโมงนึง ก็หลับยาวตั้งแต่หกโมงถึงตีสามเลยค่ะ มันก็ดีที่เราไม่ต้องคิดมาก คืออยู่ข้างนอกเราก็กินยานอนหลับทุกคืน เพราะน้ำเป็นโรคไพโพล่าร์แล้วมันหลับเองไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้กินตั้งแต่บ่ายสามครึ่งไง (หัวเราะ)

“ถามว่าสภาพจิตใจดีขึ้นมั้ย เต็ม 10 น้ำให้ 4 นะคะ ดีกว่าเดิมนิดหนึ่ง คือยานอนหลับมันมีตัวยาที่ช่วยคลายเครียดด้วยค่ะ แต่มันก็ยังเครียด เพื่อนมาเยี่ยมก็บอกว่าเราซึมๆ  ดูช้าลง ชีวิตน้ำตอนนี้ขึ้นอยู่กับยาเลยค่ะ

“เพื่อนมาเล่าให้ฟังว่าจะมีคนเปิดบริจาคให้ หนูก็บอกว่า ไม่ต้องหรอก หนูไม่อยากเดือดร้อนใคร แต่ก็ขอบคุณมากๆ ค่ะที่ยังคิดถึงกัน ตอนแรกหนูคิดจะอดน้ำด้วยนะ แต่พี่ห้ามไว้ ทำไปก็ใช่ว่าจะได้ออก ศาลอาจจะคิดว่า ใช้มุกนี้มากดดันศาลอีกแล้วเหรอ (ถอนหายใจ)

“ตอนนี้หนูอยู่ห้องกับผู้ต้องขังที่ติดคุกตลอดชีวิต ด้วยคดียาเสพติด 3 ล้าน 7 แสนเม็ด คือพอมองตัวเองแล้วก็คิดว่า ทำไมหนูต้องติดคุกเพราะแค่โพสต์รูปด้วยนะ เขาทำกับหนูเกินไป ปัญหาเรื่องมาตรา 112 ควรได้รับการแก้ไขจริงๆ นะคะ” น้ำทิ้งท้าย

X