“เอา EM มาติดคอหนูเลยก็ได้พี่” บันทึกเยี่ยมวารุณีในวันที่ยังไม่ได้ประกันตัวคดี ม.112


เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 ทนายความได้เข้าเยี่ยม “น้ำ” วารุณี ชาวพิษณุโลกวัย 30 ปี ซึ่งถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 2566 ในข้อหาหลักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพรัชกาลที่ 10 ขณะเปลี่ยนเครื่องทรง “พระแก้วมรกต” เป็นชุดกระโปรงยาวสีม่วงจากแบรนด์ Sirivannavari และใส่ภาพสุนัข 

วารุณียังไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นอุทธรณ์แม้จะยื่นขอมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งล่าสุด ได้เสนอความยินยอมให้ศาลสั่งติดกำไล EM หากเห็นว่าการประกันตัวจะทำให้มีความเสี่ยงว่าจำเลยจะหลบหนี แต่ศาลยังคงไม่อนุญาต ทำให้ปัจจุบันเธอถูกขังมาแล้ว 17 วัน

น้ำออกมาเจอทนายความด้วยหน้าตาสะสวย ผมต่อของเธอยังไม่ถูกตัด เธอหัวเราะเขินๆ และตอบว่า “ก่อนออกมาก็ต้องสวยอยู่แล้ว” พร้อมเล่าว่าทางเจ้าหน้าที่ให้รอผลประกันตัวก่อน

ทนายความยังได้ให้เธอดูรูปกิจกรรมเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีกลุ่มเพื่อนของเธอและนักกิจกรรมจัดงาน ‘ดนตรีเปิดหมวกไล่หวดเผด็จการ ตอน Free our friends’ เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้กับนักโทษทางการเมืองที่ยังคงถูกคุมขังอยู่ ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยน้ำฝากขอบคุณทุกคนที่ยังต่อสู้เพื่อเธอ

น้ำยังเล่าให้ฟังถึงเรื่องความเป็นอยู่ของเธอในช่วงที่ผ่านมา หลังผ่านการถูกกักตัวป้องกันโรคในตอนถูกคุมขังใหม่ๆ


“พอกักตัวเสร็จ เขาก็จับหนูแยกห้อง ไปอยู่ห้องอื่นที่ไม่มีเพื่อนตอนกักตัวเลย มีเพื่อนคนหนึ่งที่หนูเรียกเค้าว่าแม่ ร้องไห้เลยนะ เพราะเขาอยากอยู่กับเรา แต่แม่ห้องหนูก็ใจดีมากค่ะ กลายเป็นความโชคดีไปเลย”


ทนายความได้ยื่นคำร้องขออุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัวอีกครั้งในวันนี้และได้แจ้งในน้ำทราบ โดยยังต้องรอผลต่อไป เธอจึงได้สอบถามหลายเรื่องเกี่ยวกับการประกันตัว

“อยากฝากถึงศาลว่า การขังหนูเอาไว้ ไม่ได้เป็นผลดีต่ออะไรเลย โทษ 1 ปี 6 เดือน มันไม่ได้สูงนะ บางคนโทษสูงกว่านี้ ศาลยังให้ประกันตัวได้ การกักขังหนูไว้ด้วยเหตุผลว่า ‘ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม’ จะทำให้ประชาชนมองศาลต่างออกไป ยิ่งทำให้คนเห็นปัญหาของมาตรา 112 มากขึ้น แม้แต่คนที่เฉยๆ เขาก็อาจจะเริ่มเห็นปัญหาแล้ว และก็จะส่งผลเสียต่อสถาบันด้วย”

“เอา EM มาติดคอหนูเลยก็ได้พี่ ทำเป็นโช๊กเกอร์ ติดเท้าติดแขนไปเลย ถ้ากลัวหนูจะหนี (หัวเราะ)”

น้ำถามเรื่องการเลือกสถานการณ์การเลือกนายกฯ ต่อ จึงมีการบอกเล่าบรรยากาศการอภิปรายเรื่อง มาตรา 112 ในสภา และเรื่องที่ ส.ส. พรรครัฐบาลเดิม อภิปรายทำนองว่าน่าจะลองให้มีกฎหมายที่ยิงคนหมิ่นสถาบันแล้วไม่ติดคุก

“แรงมาก เขาพูดแบบนั้นได้ยังไง คือบางคน (ที่ถูกดำเนินคดีในมาตรานี้) มันเป็นแค่คำพูดอะพี่ ยังไม่ได้ทำอะไรที่ร้ายแรงเลย”

“หนูตื่นเต้นเรื่องเลือกนายกฯ มากพี่ อยากรู้ว่าถ้าได้นายกฯ ใหม่แล้ว มันจะมีอะไรที่เป็นผลดีกับตัวหนูบ้างไหม ตอนนี้ข้างนอกก็มีการเคลื่อนไหวใช่มั้ยคะ อยากรู้ว่ามันจะมีผลกับการประกันตัวของหนูมั้ย อยากออกไปแล้วค่ะ แฟนหนูเค้าก็เครียดมาก”

ทางด้านสภาพจิตใจ น้ำบอกว่า “มันก็เบื่อ แล้วก็เป็นห่วงค่าใช้จ่ายทางบ้าน คิดถึงครอบครัว ไม่อยากรบกวนแฟนมากด้วย”

“หนูยังไม่ได้ร้องไห้ (ยิ้มใต้แมสก์) ไม่ร้องไห้เพราะมาตรา 112 หรอก แต่จะร้องเพราะกำลังใจจากคนข้างนอกจริงๆ ไม่ใช่แค่คนข้างนอกนะ คนข้างในก็เข้าอกเข้าใจกันค่ะ เพื่อนต้องขังเป็นพนักงานธนาคารคนหนึ่ง เขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ทำตามหน้าที่เนี่ยแหละ เราก็พยายามเชียร์อั๊พเค้า เชียร์อั๊พทุกคนว่า เราต้องอยู่ให้ได้”


“หนูก็มองในแง่บวกค่ะ คือมันก็คงมีสถานที่ไม่กี่ที่หรอก ที่เรานั่งอ่านจดหมายแล้วน้ำตาไหล เวลาน้อง เพื่อน คนข้างนอกส่งจดหมายเข้ามา หนูก็จะเปิดอ่านในห้อง เพื่อนต้องขังทุกคนก็จะมานั่งอ่านด้วย แล้วก็ร้องไห้ไปกับเรา”

“น้องสาวซัพพอร์ทหนูดีมาก ตอนนั้นหนูฝากข้อความไปขอโทษพ่อ ขอโทษที่หนูเป็นเด็กดื้อ ตอนนี้ก็เลยโดนลงโทษอยู่ พ่อฝากน้องสาวมาบอกว่า ตั้งแต่เลี้ยงลูกมา ลูกไม่เคยดื้อเลย พ่อไม่ได้ว่าอะไร คิดว่ามันคงเป็นเวรกรรม หนูนี่น้ำตาคลอเลย”

 “หนูพยายามปรับตัวให้ได้ค่ะ เค้าอาจจะทำให้หนูรู้สึกแย่ มันก็จะแย่แค่เดือนเดียวแหละ แต่หนูจะอยู่ได้ และจะไม่เสียน้ำตาให้มาตรา 112 แน่นอน” น้ำทิ้งท้าย

X