อัยการสั่งฟ้องคดี ม.112 “สถาพร” กรณีแสดงออกต่อขบวนเสด็จ ขณะผ่านอนุสาวรีย์ ปชต. เมื่อ พ.ค. 65

23 มิ.ย. 2566 ที่ศาลอาญา รัชดา หลังพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 มีความเห็นสั่งฟ้อง “สถาพร” (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการแสดงออกระหว่างขบวนเสด็จของรัชกาลที่ 10 และพระราชินีสุทิดา ผ่านบริเวณหน้าแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2565 ได้ยื่นฟ้องสถาพรต่อศาลอาญา

คดีนี้มี พ.ต.ท.ศรายุทธ บุญธรรม รอง ผกก.สส.สน.ชนะสงคราม กับพวก เป็นผู้กล่าวหา โดยเห็นว่า การกระทำของสถาพรในวันดังกล่าว เป็นการกระทำที่มิบังควรอย่างแรง จาบจ้วง หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ เป็นการกระทำที่ทำให้เสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์และรัชกาลที่ 10 และกระทบกระเทือนต่อจิตใจของคนไทยเป็นอย่างมาก 

สถาพรถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 13 นาย เข้าจับกุมที่โรงแรมในตัวเมืองจังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2566 ก่อนจะถูกส่งตัวมายัง สน.ฉลองกรุง ซึ่งไม่ใช่ท้องที่เกิดเหตุ แต่ตำรวจแจ้งว่า ที่ สน.ชนะสงคราม ท้องที่เกิดเหตุ ไม่มีสถานที่ควบคุมตัวผู้ต้องหา ในชั้นจับกุมและสอบสวนสถาพรให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ก่อนถูกตำรวจนำตัวไปฝากขังและศาลอาญาได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวด้วยหลักทรัพย์ 90,000 บาท 

กัมม์ธร ทองทิพย์ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 บรรยายฟ้องมีใจความโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2565 ขณะขบวนเสด็จของรัชกาลที่ 10 เสด็จผ่านบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สถาพรซึ่งอยู่บริเวณดังกล่าวและหันหน้าเข้าหาขบวนเสด็จ ได้แสดงออกให้ประชาชนทั่วไปเห็นและได้ยินโดยชัดแจ้ง โดยการชูมือทั้งสองข้างขึ้น มือข้างขวาชูนิ้วกลาง ซึ่งคนทั่วไปมักจะใช้เป็นสัญลักษณ์แทนคําด่าที่หยาบคาย หมิ่นประมาท ดูหมิ่น จาบจ้วง ล่วงเกิน และมือข้างซ้ายชูสามนิ้ว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มผู้ต่อต้านสถาบันกษัตริย์ที่ได้แสดงออกในการจัดกิจกรรมต่อต้านสถาบันกษัตริย์ แล้วตะโกนคําด่า จํานวน 4 ครั้ง ซึ่งประชาชนทั่วไปที่พบเห็นหรือได้ยินเข้าใจได้ว่า สถาพรได้แสดงต่อและตะโกนคําด่ารัชกาลที่ 10 

อัยการระบุว่า การกระทำดังกล่าวของสถาพรเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 10 โดยประการที่น่าจะทําให้รัชกาลที่ 10 เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง โดยมีเจตนาอาฆาตมาดร้าย ทําลายสถาบันพระมหากษัตริย์ และทําให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพสักการะต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ 

ท้ายคำฟ้องอัยการได้คัดค้านการประกันตัวระหว่างพิจารณา อ้างเหตุว่าเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เกรงจำเลยจะหลบหนี 

ในวันนี้ (27 มิ.ย. 2566) สถาพรซึ่งเข้ารายงานตัวตามสัญญาประกันได้รับแจ้งว่า อัยการยื่นฟ้องแล้ว จากนั้นศาลได้สอบคำให้การเบื้องต้น สถาพรให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 11 ก.ย. 2566 เวลา 13.30 น. จากนั้นสถาพรเดินทางกลับโดยไม่ต้องยื่นประกันตัวระหว่างพิจารณา เนื่องจากในชั้นฝากขัง ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างสอบสวนจนถึงชั้นพิจารณาคดี โดยให้วางหลักทรัพย์ประกันเป็นจำนวนเงิน 90,000 บาท ซึ่งเป็นเงินจากกองทุนราษฎรประสงค์ 

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

ตร.จับชาวอุดรฯ คดี ม.112 กรณีเคยชู 3 นิ้ว-ตะโกนใส่ขบวนเสด็จ กล่าวหาชูสัญลักษณ์ต่อต้านสถาบันฯ – กระทบกระเทือนจิตใจคนไทย ก่อนศาลอนุญาตให้ประกัน

X