จำคุก 2 ปี 7 เดือน “คทาธร-คงเพชร” คดีครอบครองระเบิดปิงปอง ก่อนลดครึ่ง หลังทั้งสองตัดสินใจรับสารภาพ คงเพชรได้ลดอีก 1 ใน 3 เข้ารับโทษต่อ 4 วันให้คดีจบ

7 มี.ค. 2566 ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดีครอบครองระเบิดปิงปองของ “คทาธร” และ “คงเพชร” (จำเลยที่ 1 และ 2 ตามลำดับ) แทนการสืบพยานซึ่งเป็นกำหนดนัดเดิม เนื่องจากทั้งสองตัดสินใจถอนคำให้การเดิมที่ให้การรับสารภาพในบางข้อกล่าวหา และให้การใหม่เป็นรับสารภาพในทุกข้อกล่าวหา

เกี่ยวกับคดีนี้ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2565 คทาธรและคงเพชรถูกจับกุมในข้อหามีระเบิดไว้ในครอบครอง ขณะกำลังเดินทางจากบริเวณแยกดินแดงไปราชประสงค์เพื่อร่วมงาน #ยุติธรรมไม่มี12ปีเราไม่ลืม และถูกนำตัวไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 11 เม.ย. 2565 หลังศาลอาญารับฝากขัง และไม่อนุญาตให้ประกันตัว ทั้งสองถูกคุมขังระหว่างสอบสวนและระหว่างพิจารณาเรื่อยมาเป็นเวลากว่า 300 วัน กระทั่งเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2566 ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวคงเพชร

ขณะที่คทาธรยังคงไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ต่อมา ในวันที่ 20 ก.พ. 2566 หลังทนายยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเป็นครั้งที่ 18 ศาลอาญามีคำสั่งให้สืบเสาะและพินิจ และให้เจ้าพนักงานคุมประพฤติรายงานผลการสืบเสาะและพินิจต่อศาลภายใน 15 วัน โดยให้สืบเสาะเน้นในประเด็นการศึกษา การประกอบอาชีพช่วงก่อนเกิดเหตุ รวมถึงพฤติการณ์แห่งคดีโดยรวม

ศาลพิพากษามีความผิดหลายกรรมต่างกัน ลงโทษทุกกระทง แต่จำเลยให้การสารภาพจึงเห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง

เมื่อเวลา 10.30 น. ก่อนเริ่มการสืบพยานตามที่ศาลนัดไว้ คทาธร ซึ่งถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และคงเพชร ได้แถลงต่อศาลขอถอนคำให้การเดิมที่ให้การรับสารภาพในข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง, พาอาวุธไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร รวมทั้งข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรฯ และปฏิเสธในข้อหา ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน โดยให้การใหม่เป็นรับสารภาพในทุกข้อกล่าวหาตามที่โจทก์ฟ้อง

ต่อมาเวลา 11.30 น. โดยประมาณ ผู้พิพากษาประจำห้องพิจารณาคดีที่ 811 ได้อ่านคำพิพากษา มีใจความโดยสรุปว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเรียงกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 โดยขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 2 มีอายุไม่เกิน 20 ปี เห็นสมควรให้ลดมาตราส่วนโทษลง 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 โดยลงโทษจำเลยที่ 1 และ 2 ดังนี้

ความผิดฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดนอกจากที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน และลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน

ความผิดฐานร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 1 เดือน และลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 20 วัน

ความผิดฐานร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 900 บาท และลงโทษปรับจำเลยที่ 2 จำนวน 600 บาท

ความผิดฐานนำรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถและเป็นผู้ขับขี่ขับรถไม่เป็นไปตามทิศทางที่ได้กำหนดไว้ในทางเดินรถที่มีเครื่องหมายจราจรให้เป็นทางเดินรถทางเดียว ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 1,000 บาท

ความผิดฐานขับขี่ไม่เป็นไปตามทิศทางที่กำหนดไว้ในทางเดินรถที่มีเครื่องหมายจราจรให้เป็นทางเดินรถทางเดียว ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 500 บาท
ความผิดฐานขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 450 บาท

ความผิดฐานขับขี่ในขณะคนโดยสารไม่สวมหมวกนิรภัย ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 1,000 บาท

ความผิดฐานโดยสารรถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย ลงโทษปรับจำเลยที่ 2 เป็นจำนวน 300 บาท

เนื่องจากจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุให้บรรเทาโทษ เห็นสมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง โดยสรุปแล้วคงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี 3 เดือน 15 วัน และปรับ 1,925 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 ลงโทษจำคุกมีกำหนด 10 เดือน 10 วัน และปรับ 450 บาท พร้อมริบวัตถุระเบิด อาวุธมีด และถุงผ้า

ภายหลังเสร็จสิ้นการอ่านคำพิพากษา ทั้งคทาธรและคงเพชรถูกพาตัวลงไปคุมขังไว้ที่ใต้ถุนศาลอาญา เพื่อรอเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์คำนวนจำนวนวันที่ทั้งสองถูกคุมขังไว้ในช่วงก่อนหน้านี้

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจำเลยที่ 2 หรือคงเพชรถูกคุมขังไว้แล้วเป็นเวลา 306 วัน ขณะที่คำพิพากษาลงโทษจำคุก 10 เดือน 10 วัน หรือคิดเป็น 310 วัน ดังนั้นจึงเหลือโทษจำคุกอีกเป็นเวลา 4 วัน ซึ่งคงเพชรแจ้งกับทนายว่า ต้องการกลับเข้าเรือนจำเพื่อรับโทษจนครบกำหนด และไม่อุทธรณ์เพื่อให้คดีสิ้นสุด

ส่วนคทาธรแจ้งความประสงค์ว่า ต้องการยื่นประกันในระหว่างอุทธรณ์ต่อไป ซึ่งทนายความได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอประกันตัวแล้ว และรอฟังคำสั่งต่อไป

ย้อนอ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง:

จากเพื่อนถึงเพื่อน: ฟังสมาชิกอาชีวะพิทักษ์ประชาชนฯ เล่าถึง “คทาธร-คงเพชร” หลัง 99 วัน การคุมขัง

เปิดสถิติยื่นประกันตัวผู้ต้องขังคดีการเมือง ภายหลังปฏบัติการประท้วงอดอาหารน้ำ-อดนอนของนักกิจกรรม