ศาลแขวงดอนเมืองให้รอการลงโทษจำคุก “แซม สาแมท” กรณีถูกกล่าวหาใช้เท้าถีบรถคุมขังนักโทษ

30 ม.ค. 2566 เวลา 09.00 น. ศาลแขวงดอนเมืองนัดฟังคำพิพากษาในคดีของแซม สาแมท หรือ “อาร์ท” นักกิจกรรมทางการเมือง ในข้อหา “ทำให้เสียทรัพย์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358

คดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 หรือ #ม็อบ29ตุลา แซมได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม หลังเข้าร่วมกิจกรรมไว้อาลัย “วาฤทธิ์ สมน้อย” เยาวชนอายุ 15 ปี ซึ่งเสียชีวิตหลังถูกยิงขณะร่วมการชุมนุมที่หน้า สน.ดินแดง เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวแซมไปยังกองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) แซมได้ใช้เท้าถีบรถควบคุมผู้ต้องหาจนกระจกแตก

ในตอนแรก ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ได้แจ้งข้อหาแซมจากการกระทำดังกล่าว ข้อหาทำให้ทรัพย์สาธารณประโยชน์เสียหาย และเป็นบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งที่แซมถูกกล่าวหาในข้อหาหลังนี้มาก่อนแล้วในอีกคดีหนึ่ง 

ต่อมาอัยการเห็นว่ากระจกกั้นระหว่างห้องควบคุมกับห้องผู้โดยสารของรถยนต์ควบคุมผู้ต้องหา ยังมิใช่ทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 จึงให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติมทำให้เสียทรัพย์ และสั่งฟ้องคดีเฉพาะข้อหานี้ข้อหาเดียว โดยคดีมีการสืบพยานที่ศาลไเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2565 

ที่ห้องพิจารณา 3 เวลา 09.45 น. ศาลออกนั่งพิจารณา และอ่านคำพิพากษา โดยสรุปเห็นว่าพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า พยานโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจต่างเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้บังคับรถยนต์ควบคุมผู้ต้องหาจาก สน.บางโพ ไปรับจำเลย ซึ่งอยู่ระหว่างจับกุมเพื่อนำตัวไปยัง บช.ปส.

เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองเป็นผู้รู้เห็นข้อเท็จจริงตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ขับรถจาก สน.บางโพ ไปถึง สน.ดินแดง จำเลยได้ถูกพาไปเข้าในรถควบคุม ก่อนใช้รองเท้าที่สวมรองเท้าส้นสูงถีบประตูกระจกไปตลอดทาง จากการตรวจสอบกระจกมีสภาพแตกเสียหาย พยานไม่เคยรู้จักจำเลยมาก่อน เบิกความละเอียดเชื่อมโยง สอดคล้องเป็นขั้นตอน ไม่ปรากฏพิรุธ จึงไม่มีเหตุสงสัยว่าโจทก์เบิกความเพื่อกลั่นแกล้งจำเลย

ในส่วนข้อต้อสู้ของจำเลยที่ว่า จำเลยเป็นนักกิจกรรมทางการเมือง ทำให้รัฐบาลกลั่นแกล้งจำเลย เมื่อพิเคราะห์จากคำให้การจำเลยแล้วพบว่าเลื่อนลอย ไม่อาจรับฟัง หากจำเลยถูกกลั่นแกล้งหรือทำร้ายร่างกายจริงในระหว่างการเดินทาง จำเลยก็น่าจะแจ้งเรื่องดังกล่าวต่อทนายความที่มาเข้าเยี่ยม แต่จำเลยกลับไม่ได้มีการดำเนินการ และยังไม่ปรากฎว่าร้องเรียนขอความช่วยเหลือ หรือขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานใด 

ศาลพิพากษาว่ามีความผิด ตามประมวลฎหมายอาญา 358 จำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดครั้งแรก ให้โอกาสจำเลยกลับตัวกลับใจ โทษจำคุกจึงให้รอลงการลงโทษไว้ 1 ปี

เกี่ยวกับคดีนี้ แซมได้ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2564 นั้น หลังเพิ่งจะได้รับการปล่อยตัวจากการถูกฝากขังในคดี #ม็อบ29ตุลา เนื่องจากครบระยะเวลาฝากขัง 48 วัน และอัยการยังไม่มีคำสั่งฟ้องในคดีดังกล่าว ทำให้หมดอำนาจในการขอฝากขังต่อ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมแซมหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทันทีที่ได้รับการปล่อยตัวออกมา โดยที่ตำรวจสามารถดำเนินคดีตั้งแต่วันที่แจ้งข้อกล่าวหาแซมภายใน บช.ปส. รวมทั้งสามารถเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาขณะเขาถูกฝากขังในเรือนจำ แต่ก็ไม่เคยมีการดำเนินการดังกล่าว

คดีนี้เขาถูกฝากขังในชั้นสอบสวน โดยศาลไม่ให้ประกันตัว เป็นเวลา 48 วัน ก่อนได้รับการปล่อยตัว เพราะไม่ได้มีการสั่งฟ้องคดีภายในระยะเวลาการฝากขัง

อ่านเรื่องราวเกี่ยวข้อง

“แซม สาแมท” ถูกขังครั้งที่ 4 หลังถูกกล่าวหาใช้เท้าถีบรถคุมขังนักโทษจนเสียหาย-เข้าเมืองผิดกฎหมาย ตั้งแต่ถูกจับ #ม็อบ29ตุลา

‘แซม สาแมท’: 96 วันของนักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้  กับวีรกรรมล้านแปดของกะเทยในเรือนจำ 

X