เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พนักงานสอบสวนจาก สน.วัดพระยาไกร ได้เดินทางเข้าแจ้งข้อกล่าวหากับ “เก็ท” โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ในคดีที่ถูก เสรี สุวรรณภานนท์ วุฒิสภา เป็นผู้ไปกล่าวหาในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา-ทำให้เสียทรัพย์-ก่อความเดือดร้อนรำคาญ จากกรณีทำกิจกรรมติดใบปลิวเรียกร้องให้ สว. ฟังเสียงประชาชนในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่บริเวณตลาดเสรี 2 เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2566
ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ได้ติดต่อทนายความ ว่าจะเข้าแจ้งข้อกล่าวหาต่อเก็ทในเรือนจำ จึงได้นัดหมายวันเวลาที่ให้ทนายความไปร่วมฟังการสอบสวนเอาไว้ โดยมี พ.ต.ท.อรุณ เลิศศักดิ์เกษตร และ ร.ต.อ.เดชารุ่ง อภิสุขวงศ์ เป็นพนักงานสอบสวนผู้เข้าแจ้งข้อกล่าวหา
พฤติการณ์โดยสรุประบุว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2566 เวลาประมาณ 18.00 น. โสภณ พร้อมกับเพื่อนนักกิจกรรม ได้ร่วมกันไปที่ตลาดเสรี 2 ถนนเจริญกรุง ซึ่งผู้ต้องหาทราบดีว่าเป็นกิจการค้าของบริษัท หยกสุวรรณมนตรี จำกัด ซึ่งมี เสรี สุวรรณภานนท์ เป็นหุ้นส่วนและเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ โดยได้เข้าไปบริเวณที่เกิดเหตุ และร่วมกันกระทำการใด ๆ อันเป็นการรังแกหรือข่มเหงผู้อื่น หรือกระทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอาย หรือเดือดร้อนรำคาญ
ข้อกล่าวหาระบุว่า กลุ่มนักกิจกรรมได้เข้าไปติดใบปลิวและติดประกาศ โดยพนักงานตลาดได้ห้ามปรามไม่ให้ติดแล้ว แม้จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร เข้าไปห้ามปรามด้วย กลุ่มผู้ต้องหาก็ไม่ยอมหยุด ได้มีการติดใบปลิวที่ผนัง เสา อาคารร้านค้าในตลาด รวมทั้งโต๊ะอาหารของร้าน ทำให้เกิดความสกปรกเสียหายตามจุดต่าง ๆ และได้นำใบปลิวไปแจกแม่ค้าและประชาชนที่เข้ามาในตลาด และได้พูดใส่ความผู้กล่าวหา ซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ว่าไม่ไปลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่เป็นความจริง
และยังติดประกาศจับ ประกาศใส่ความหมิ่นประมาทต่อประชาชนซึ่งเป็นบุคคลที่สามไปทั่วตลาด โดยมีการนำรูปภาพของผู้กล่าวหาและพิมพ์ข้อความว่า “ประกาศจับ สว. รับใช้เผด็จการ หรือทำตามเสียงประชาชน เสรี สุวรรณภานนท์ เคยเป็น สปท. หลังรัฐประหารปี 2557” “‘ผมนิยมเผด็จการประชาธิปไตย แต่ไม่ได้นิยมพวกประชาธิปไตยจอมปลอม’ พูดในที่ประชุม 62”
ผู้กล่าวหาเห็นว่าข้อความเป็นความเท็จทั้งสิ้น เป็นการใส่ความต่อบุคคลที่สาม ต่อหน้าประชาชนที่อยู่ในตลาดและพนักงานของบริษัท เป็นการร่วมกันทำให้ผู้กล่าวหาได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง
พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหาต่อโสภณ ได้แก่ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, ทำให้เสียทรัพย์ และ ร่วมกันกระทำการใด ๆ อันเป็นการรังแกหรือข่มเหงผู้อื่น หรือกระทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอาย หรือเดือดร้อนรำคาญ
โสภณได้ปฏิเสธไม่ให้การใด ๆ และไม่ลงชื่อใด ๆ ในเอกสารบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา
.
ภาพตำรวจเข้าติดตามกลุ่มของเก็ทที่ตลาดเสรี 2 ในวันเกิดเหตุ (ภาพจากสำนักข่าวประชาไท)
.
สำหรับกิจกรรมดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 ที่ประชุมรัฐสภา ลงมติ “ไม่เห็นชอบ” ให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดย ส.ว. เสรี เป็นผู้โหวตลงมติ “ไม่เห็นชอบ” ด้วย และยังอยู่ระหว่างการจับขั้วรัฐบาลเพื่อโหวตเลือกนายกฯ ใหม่อีกครั้ง จนเกิดกระแสการพูดถึงบทบาทของสมาชิกวุฒิสภาที่ไม่ได้มาจากประชาชน แต่มีอำนาจโหวตนายกฯ และการพูดถึงการ #แบนธุรกิจสว ในโลกโซเชียล
นอกจากใบปลิวประกาศจับ สว. ที่บันทึกข้อกล่าวหากล่าวถึงแล้ว ยังมีข้อความใบปลิวที่กลุ่มของเก็ทนำไปติดอาทิ “สว. มีไว้ผลาญงบประมาณแผ่นดิน” “สว. ต้องลาออก! ประเทศถึงจะได้ไปต่อ อยู่ไปก็ถ่วงความเจริญ” “แรงงานสร้างชาติ เผด็จการสร้างหนี้!”
เก็ทให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในวันดังกล่าว ว้าเขาตั้งใจเรียกร้องให้ สว. โดยเฉพาะที่ตลาดนี้เป็นของ ส.ว. เสรี ให้ โหวตเลือกนายกฯ ตามเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน หรือถ้าทำไม่ได้ ก็ขอให้ สว. ลาออก
.