ศาลยกฟ้อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ “เฉลิมชัย-ม่อน อาชีวะ” เดินไปร่วมหมู่บ้านทะลุฟ้า ชี้เป็นสิทธิการชุมนุมตาม รธน. แต่ให้ปรับข้อหาใช้เครื่องเสียง

23 ม.ค. 2566 เวลา 13.30 น. ศาลแขวงดุสิตนัดฟังคำพิพากษาคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ของเฉลิมชัย วัดจัง เจ้าหน้าที่กลุ่มจับตาปัญหาที่ดิน (Land Watch) และ ธนเดช ศรีสงคราม หรือ “ม่อน อาชีวะ” แกนนำกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จากกรณีการจัดเดินขบวนไปร่วมตั้งหมู่บ้านทะลุฟ้า ที่บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2564

เฉลิมชัยและธนเดชถูกฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ข้อหาตั้งวางสิ่งของบนถนน ตาม พ.ร.บ.ความสะอาดฯ, ข้อหากีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรฯ และข้อหาใช้เครื่องเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งในชั้นสอบสวนและชั้นศาล ทั้งสองคนได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา คดีมีการสืบพยานไปเมื่อวันที่ 17-19 ส.ค. และ 30 พ.ย. 2565

.

ย้อนอ่านข่าวอัยการสั่งฟ้อง >>> ไม่ถึงเดือน อัยการสั่งฟ้อง ‘ม่อน อาชีวะ’ – ‘เฉลิมชัย วัดจัง’ คดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เดินไปตั้งหมู่บ้านทะลุฟ้า

.

ศาลยกฟ้อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชี้เป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธตามรัฐธรรมนูญ และมาตรการที่บังคับใช้ต้องสอดคล้องกับกฎหมายลำดับศักดิ์สูงกว่า ไม่เป็นภาระต่อประชาชนเกินสมควร 

วันนี้ (23 ม.ค. 2566) เวลา 13.20 น. ณ ห้องพิจารณาคดีที่ 509 ศาลนั่งพิจารณาคดี อ่านคำพิพากษาให้ฟัง สามารถสรุปได้ว่า ศาลยกฟ้องข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.จราจรฯ, พ.ร.บ.ความสะอาดฯ แต่ให้ลงโทษปรับตาม พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ คนละ 200 บาท เมื่อพิจารณาคำพิพากษา พบว่าศาลวินิจฉัยใน 3 ประเด็น ดังนี้

.

1. ข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในประเด็นร่วมจัดกิจกรรมตั้ง “หมู่บ้านทะลุฟ้า” ในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค โดยไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันที่ทางราชการกำหนด และไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

ศาลเห็นว่า แม้ช่วงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะมีข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ห้ามการชุมนุม และห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ซึ่งข้อกำหนดทั้งหมดเป็นกฎหมายลำดับรอง เมื่อเป็นความผิดที่มีโทษทางอาญา จึงต้องตีความอย่างเคร่งครัด

จำเลยที่ 1 (เฉลิมชัย) ร่วมกับกลุ่มทะลุฟ้าเดินทางจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เจรจาขอใช้พื้นที่ร่วมกับหมู่บ้านบางกลอย ส่วนจำเลยที่ 2 (ธนเดช) ร่วมกับกลุ่มฟันเฟืองเดินทางมาจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มารวมกลุ่มกับทะลุฟ้า ซึ่งมีข้อเรียกร้องให้ปล่อยผู้ต้องหาทางการเมือง และให้นายกรัฐมนตรีลาออก

เนื่องจากโจทก์ไม่ได้นำสืบว่าทั้งสองเป็นผู้จัดกิจกรรม จึงฟังได้เพียงว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้เข้าร่วมชุมนุม ไม่ใช่ผู้จัดการชุมนุม จำเลยจึงไม่มีความผิดตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 18 (จัดกิจกรรมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค)

ศาลเห็นว่าสถานที่เกิดเหตุไม่ใช่สถานที่แออัด ผู้ชุมนุมส่วนมากสวมหน้ากากอนามัย ผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวได้สะดวก มีจุดคัดกรองโรคระบาดโควิด-19 มีบริการเจลแอลกอฮอล์ ในช่วงเกิดเหตุไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ ไม่มีเหตุร้ายแรง ไม่มีอาวุธ เป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธตามรัฐธรรมนูญ จึงไม่เป็นความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

แม้โจทก์จะนำสืบเรื่องประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบฯ เรื่อง การห้ามชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ฉบับที่ 3 และประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุด แต่ประกาศทั้งหมดออกตามข้อกำหนดซึ่งออกตามความในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรการที่บังคับใช้ตามประกาศดังกล่าวจึงต้องออกให้สอดคล้อง และไม่เป็นภาระต่อประชาชนเกินสมควร เมื่อจำเลยทั้งสองไม่มีความผิดตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จึงไม่เป็นความผิดตามประกาศในข้างต้นด้วยเช่นกัน

.

2. ข้อหาตาม พ.ร.บ.ความสะอาดฯ และ พ.ร.บ.จราจรฯ ในประเด็นตั้งวางสิ่งของบนถนน ในลักษณะกีดขวางการจราจร

ศาลเห็นว่า โจทก์ไม่ได้นำหลักฐานมาแสดงให้เห็นว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันนำแผ่นป้ายมาเขียนข้อความ และนำไปแขวนตามต้นไม้ เสาไฟฟ้า ตั้งเวที และนำผ้าใบมากางเป็นเต็นท์ ตั้งลำโพงเครื่องขยายเสียง และสิ่งของบนทางเดินรถ ในลักษณะกีดขวางการจราจรตามที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง

.

3. ข้อหาตาม พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ ในประเด็นใช้เครื่องขยายเสียง โดยไม่ได้ขออนุญาต

ศาลเห็นว่า มีพยานโจทก์ 3 ปากยืนยันว่าจำเลยทั้งสองใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้ขออนุญาตสำนักงานเขตก่อน จึงฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองใช้เครื่องขยายเสียงจริง แต่จำเลยทั้งสองต่างคนต่างกระทำ จึงไม่เป็นความผิดฐานร่วมกันกระทำความผิด เพียงฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองใช้เครื่องขยายเสียง ลงโทษปรับจำเลยคนละ 200 บาท

.

หลังอ่านคำพิพากษา เฉลิมชัยและธนเดชได้ชำระค่าปรับเป็นเงินคนละ 200 บาท โดยได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์

ทั้งนี้ จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เฉลิมชัยยังถูกฟ้องคดีข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ศาลแขวงดุสิตในอีกคดีหนึ่ง จากการถูกจับกุมในการร่วมแสดงออกคัดค้านการสลายหมู่บ้านทะลุฟ้า เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบพยาน

X