บันทึกเยี่ยม: “ทัตพงศ์” ถูกคุมขังเกือบเดือน ตั้งแต่ช่วงประชุม APEC หวังได้ออกไปพบหน้าครอบครัว

ในระหว่างการประชุม #APEC2022 ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ นอกจากสถานการณ์การจับกุมผู้ชุมนุมแล้ว ยังมีกรณีชายที่ถูกจับกุมจากหมายจับในกรณีที่เกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ทางการเมือง ได้แก่ ทัตพงศ์ เขียวขาว หรือ “แน็ก” หนุ่มวัย 25 ปี ซึ่งถูกจับกุมเนื่องจากเดินทางผ่านด่านตรวจเช็กประวัติ ก่อนเข้าเส้นทางรักษาความปลอดภัยของการประชุม APEC เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2565 และถูกนำตัวไปแจ้งข้อกล่าวหาเกี่ยวเนื่องกับการครอบครองวัตถุระเบิดและยุทธภัณฑ์ในช่วงการชุมนุมของทะลุแก๊ส บริเวณถนนราชปรารภ เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2564 โดยเขาถูกฝากขัง และศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 21 วันแล้ว

ในการเข้าเยี่ยมล่าสุด (6 ธ.ค. 2565) “แน็ก” ปรากฏตัวในชุดนักโทษสีน้ำตาล ดวงตามีความกังวลและเคร่งเครียด หลังจากทักทายทนายความจากอีกฝากหนึ่งของกระจกในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เขาก็เริ่มถามถึงครอบครัว บอกว่าอยากเจอหน้าแม่ พี่ชาย และแฟนสาว 

ก่อนหน้าที่แน๊คจะสูญเสียอิสรภาพไป เขาเล่าตนเองเป็นแค่ประชาชนธรรมดาทั่วไป จบการศึกษาชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนรัฐแล้วก็เริ่มช่วยงานที่บ้าน ซึ่งเปิดร้านขายอาหารสด มีรายได้เฉลี่ยวันละ 500-600 บาท หน้าที่หลักของเขาคือ เปิดร้าน, ซื้อของเข้าร้าน, ขับไปส่งอาหาร และเก็บร้านหลังเลิกงาน 

แน็กเล่าให้ฟังอีกว่า เขาไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมการชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 โดยไปในฐานะผู้เข้าร่วมชุมนุมครั้งต่างๆ ก่อนที่เขาจะถูกจับกุมร่วมกับผู้ชุมนุมคนอื่นๆ บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2564 ทำให้ถูกดำเนินคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และตามมาตรา 215-216 เป็นคดีแรกในชีวิต หลังจากถูกจับในครั้งนั้นเขาก็ไม่ค่อยได้เข้าร่วมการชุมนุมอีก จนกระทั่งเหตุการณ์การประชุม APEC ที่ผ่านมา เขากลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมอีกครั้งโดยไม่คาดคิด 

แน็กเล่าเหตุการณ์ในตอนถูกจับกุมให้ฟังว่า ในช่วงสายของวันที่ 16 พ.ย. แน็กกับพี่ชายขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปซื้อของสดที่ตลาดคลองเตย โดยต่างคนต่างขับกันไปคนละคัน

“ผมมาถูกตำรวจเรียกที่ด่านตรง BTS ราชเทวี เพราะไม่ได้ใส่หมวกกันน็อค แต่พี่ชายใส่หมวกกันน็อคจึงไม่ถูกเรียก ตำรวจขอตรวจบัตรประชาชน, ใบขับขี่, และก็ค้นรถ ตำรวจถามผมว่า ‘เคยมีคดีอะไรไหม’ ผมก็ตอบว่าไม่มี จากนั้นตำรวจก็ใส่กุญแจมือผมทันที” 

“ตำรวจแจ้งว่าผมมีคดี มีหมายจับ แล้วก็พาผมขึ้นรถตำรวจไปที่ สน.พญาไท เพื่อเช็คประวัติ พบว่ามีหมายจับ 2 หมาย แต่มีหนึ่งหมายที่ยกเลิกไปแล้ว ไม่ทราบว่าเป็นคดีอะไร ทราบแค่ว่าเป็นของ สน.ดินแดง จากนั้นตำรวจก็ส่งตัวผมไปที่ สน.ดินแดง

“ตอนที่ถูกจับ ผมถูกจับคนเดียว พี่ชายติดต่อกลับมาหาผมไม่ได้ เพราะถูกยึดมือถือไว้ พี่ชายติดต่อผมได้ตอนที่ผมอยู่ที่ สน.พญาไท ผมจึงบอกพี่ชายว่าผมถูกจับ พี่ชายก็ตามมาที่ สน.พญาไท แล้วตำรวจก็แจ้งเลขคดีแล้วให้ไปตามข้อมูลที่ สน.ดินแดง จึงทราบว่าผมมีหมายจับจริง พอแม่ผมตามมาที่ สน.พญาไท แต่ไม่เจอผม เพราะผมถูกส่งไปที่ สน.ดินแดง แล้ว” 

แน็กเล่าว่า เมื่อถูกส่งมา สน.ดินแดง แล้ว หลังแจ้งข้อกล่าวหา เขาต้องถูกควบคุมตัวที่ สน.ดินแดง 1 คืน พอถึงตอนยื่นประกัน ศาลก็ไม่ให้ประกันตัว เขาจึงถูกส่งตัวเข้าเรือนจำทันที

ในช่วงวันแรกๆ ของการถูกคุมขัง แน็กมีความกังวลค่อนข้างมาก เนื่องจากยังติดต่อญาติไม่ได้ และยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเข้ามาในเรือนจำ ทั้งไม่รู้ว่าจะได้ออกไปเมื่อไร แต่ก็ยังหวังว่าจะได้ประกันตัวออกไปต่อสู้คดี

 

X