ไต่สวนขอประกัน 3 ทะลุฟ้า “แซม-แม็ก-มิกกี้บัง” เสร็จ ศาลนัดฟังคำสั่ง 22 พ.ย. นี้ หรืออีกเกือบ 2 สัปดาห์!  

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2565 เวลา 10.00 น. ศาลอาญา รัชดาฯ นัดไต่สวนคำร้องขอประกันตัวของผู้ต้องขังกลุ่มทะลุฟ้า 3 ราย ซึ่งถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดี ได้แก่ “แซม” พรชัย ยวนยี, “แม็ก” สินบุรี แสนกล้า และ “มิกกี้บัง” (สงวนชื่อสกุลจริง) ทั้งสามถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค., 8 ส.ค. และ 4 ต.ค. 2565 ตามลำดับ หลังไต่สวนแล้วเสร็จศาลได้นัดฟังคำสั่งในวันที่ 22 พ.ย. 2565 เวลา 10.00 น. หรือเป็นเวลาหลังจากนี้เกือบ 2 สัปดาห์เลยทีเดียว

“แซม” และ “มิกกี้บัง” ถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดี โดยถูกกล่าวหาว่าเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติบริเวณหน้าโรงเรียนราชวินิตมัธยม ระหว่างการชุมนุมครบรอบ 15 ปี รัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2564 โดยถูกดำเนินคดีด้วยกันทั้งหมด 5 ข้อกล่าวหา ได้แก่

  1. ร่วมกัน “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
  2. ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น
  3. ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์
  4. ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรค ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 32
  5. ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวกับความมั่นคง ฉบับที่ 10

กรณีแซม: จับกุม “แซม” พรชัย นักกิจกรรมกลุ่มทะลุฟ้า ตามหมายจับค้างเก่า ม.112 กรณีเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติ 19 ก.ย. 64 ศาลไม่ให้ประกันตัวเพิ่มผู้ถูกคุมขังเป็น 23 คน

กรณีมิกกี้บัง: ศาลไม่ให้ประกัน “มิกกี้บัง ทะลุฟ้า” หลังถูกฟ้องคดี ม.112 เผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ชี้อาจหลบหนี แม้ไปตามนัดทุกครั้ง-ยืนยันไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา

ส่วน “แม็ก” ถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีเช่นกัน โดยถูกกล่าวหาว่าเผาป้อมจราจร ระหว่างการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2564 เช่นเดียวกัน โดยแม็กถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาเหมือนแซมและมิกกี้บัง ยกเว้นข้อหาตามมาตรา 112

กรณีแม็ก: ศาลไม่ให้ประกันตัว “แม็ก ทะลุฟ้า” หลังถูกกล่าวหากรณีเผาป้อมจราจรในชุมนุมครบรอบ 15 ปี รัฐประหาร ระบุพฤติการณ์ไม่ยำเกรงกฎหมาย

ประมวลการไต่สวนขอประกัน 3 ทะลุฟ้า 

การไต่สวนวันนี้ สืบเนื่องมาจากการที่ทนายความได้ยื่นขอประกันทั้งสามคน เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2565 ซึ่งเป็นนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีนี้ โดยจำเลยทั้งหมดยินยอมรับเงื่อนไขประกันทั้งหมดหากศาลจะกำหนด และพร้อมขอให้ศาลแต่งตั้งผู้กำกับดูแลที่ไว้วางใจให้คอยควบคุมพฤติกรรมระหว่างได้รับการอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว

ต่อมา พริษฐ์ ปิยะนราธร รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาได้มีคำสั่งให้นัดไต่สวนคำร้องขอประกันตัวจำเลยทั้งสามคนในที่ 10 พ.ย. 2565 เวลา 10.00 น. 

ทั้งนี้ หากทั้งสามยังไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว จะทำให้ต้องถูกคุมขังเรื่อยไปจนกว่าจะสืบพยานเสร็จและศาลมีคำพิพากษา ซึ่งกำหนดนัดสืบพยานในคดีนี้คือวันที่ 19 – 21 มี.ค. 2567 เท่ากับว่ากว่าทั้งสามจะถูกเบิกตัวมาศาลอีกครั้งในนัดสืบพยานก็ต้องรอไปอีกเกือบ 1 ปีครึ่งเลยทีเดียว  

เวลา 10.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดี 916 จำเลยทั้งสามถูกพาตัวเข้ามาในห้องพิจารณาคดี โดยเดินเท้าเปล่าและถูกใส่กุญแจข้อเท้า ทั้งสามสวมชุดผู้ต้องขังเป็นเสื้อคอกลม แขนสั้น สีน้ำตาลอ่อน ไม่มีกระดุม และสวมกางเกงลำลอง ยาวประมาณข้อเข่า มีสีน้ำตาลเข้มกว่าเสื้อ

แซมสวมแว่นตากรอบสีดำ มิกกี้บังใส่แว่นตากรอบใส ทั้งสามสวมหน้ากากอนามัยและต่างก็ไว้ทรงผมคล้ายทรงนักเรียน แต่ไม่ได้เกรียนสั้นมากนัก เมื่อมาถึงห้องพิจารณาทั้งสามเขยิบเข้าไปนั่งอยู่ริมสุดของมุมห้อง ขณะที่ญาติ เพื่อน และประชาชนบางส่วน รวมแล้วประมาณ 14 คน ซึ่งมารอให้กำลังใจได้มานั่งรอภายในห้องพิจารณาคดีอยู่แล้ว แต่ภายในห้องมีที่นั่งเพียงแถวเดียว สามารถนั่งได้เพียง 6-8 คนเท่านั้น ทำให้คนที่เหลือจึงต้องยืนขึ้นแนบผนังทั้งสองฝั่งซ้ายและขวาแทน ทั้งนี้ยังมีผู้คุมยืนรักษาความเรียบร้อยอยู่ภายในห้องอีก 4 คนด้วย บรรยากาศภายในห้องจึงค่อนข้างแออัดพอสมควร

การไต่สวนดำเนินขึ้น โดยไต่สวนจำเลยก่อน แล้วจึงไต่สวนผู้ที่เสนอตัวเป็นผู้กำกับดูแลของจำเลยรายนั้นตาม ไล่เรียงไปดังนี้ แซมและญาติของแซม, แม็กและพี่สาวของแม็ก และมิกกี้บังพร้อมกับแม่บุญธรรม รวมทั้งสิ้น 6 ปาก ทั้งนี้ศาลยังได้เรียกนายประกันอาสามาแถลงต่อศาลเกี่ยวกับการวางหลักทรัพย์ในเบื้องต้นด้วย 

พยานปากที่ 1 – “แซม” พรชัย ถูกคุมขังระหว่างต่อสู้คดีมาแล้ว 127 วัน

แซม จำเลยที่ 1 เบิกความว่า ปัจจุบันอายุ 32 ปี ประกอบอาชีพอิสระ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โดยอาศัยอยู่บ้านพักแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ กับภรรยาและลูกสาวมาตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน ในคดีนี้ตนถูกจับกุมเนื่องจากได้ไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.นางเลิ้ง และหลังจากนั้นได้ให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดีตลอดมา 

ตนถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค. 2565 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเวลา 127 วัน หรือมากกว่า 4 เดือนแล้ว อีกทั้งในคดีนี้ศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐานไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2565 โดยมีกำหนดนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยนัดแรกในวันที่ 19 มี.ค. 2567 ซึ่งตนได้ให้การปฏิเสธตลอดมา ตั้งแต่ชั้นสอบสวนจนถึงชั้นศาล

แซมยืนยันว่า ก่อนหน้าจะถูกดำเนินคดีในคดีนี้ ไม่เคยมีประวัติว่ากระทำความผิดมาก่อน และประกอบอาชีพอิสระเกี่ยวกับการทำงานวิจัยทางวิชาการด้านการเมือง การถูกคุมขังในครั้งนี้ทำให้ต้องสูญเสียรายได้ จึงไม่สามารถจะดูแลภรรยา ลูกสาว และไม่สามารถส่งเงินให้แม่ที่อาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัด

ถ้าศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวตนจะกลับไปพักอาศัยอยู่ยังที่อยู่เดิมที่ได้แถลงบอกศาลไปข้างต้น หากศาลจะกำหนดเงื่อนไขใดๆ เพื่อปล่อยตัวชั่วคราวก็ยินดีปฏิบัติตามทุกประการ และหากศาลจะแต่งตั้งญาติเป็นผู้กำกับดูแลในคดีนี้ ตนก็จะยินดีเชื่อฟังทุกประการ

พยานปากที่ 2 – “ญาติของแซม” ผู้เสนอตัวเป็นผู้กำกับดูแลแซม

ญาติของแซม (สงวนชื่อและนามสกุล) เบิกความว่า ปัจจุบันอายุ 67 ปี ประกอบอาชีพรับราชการ เป็นอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มีความยินดีและเต็มใจหากศาลจะแต่งตั้งให้เป็นผู้กำกับดูแลของแซม โดยยืนยันว่าจะคอยควบคุมกำกับดูแลให้แซมมาตามนัดหมายของศาลทุกครั้ง และจะไม่ให้หลบหนีอย่างเด็ดขาด อีกทั้งยังได้ร้องขอต่อศาลว่าให้วินิจฉัยคำร้องในครั้งนี้อย่างเที่ยงธรรม และเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วจึงจะขอน้อมรับทุกคำตัดสินของศาลไว้ 

พยานปากที่ 3 – “แม็ก” สินบุรี – ถูกคุมขังระหว่างต่อสู้คดีมาแล้ว 95 วัน

แม็กเบิกความว่า ปัจจุบันอายุ 26 ปี ประกอบอาชีพหัวหน้าคุมงานก่อสร้าง (โฟร์แมน) มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โดยอาศัยอยู่กับพ่อ แม่ และพี่สาว ที่บ้านพักย่านบางแค กรุงเทพฯ มาตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน ในคดีนี้ไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนีแต่อย่างใด เพราะได้เข้าไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.นางเลิ้ง จากนั้นได้ถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. 2565 เป็นเวลา 95 วันแล้ว 

อีกทั้งในคดีนี้ตนได้ให้การปฏิเสธตลอดมาตั้งแต่ชั้นสอบสวนจนถึงชั้นศาล หลังถูกคุมขังในคดีนี้ทำให้ขาดรายได้ ไม่มีเงินส่งไปจุนเจือและช่วยเหลือครอบครัว 

หากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว แม็กสัญญาว่าจะไม่หลบหนี และจะเดินทางไปศาลตามนัดหมายทุกครั้ง ทั้งยินดีที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขใดๆ ที่ศาลจะกำหนด และหากศาลจะแต่งตั้งให้พี่สาวเป็นผู้กำกับดูแล แม็กก็ยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่งและเชื่อฟังอย่างเคร่งครัด

พยานปากที่ 4 – “พี่สาวของแม็ก” ผู้เสนอตัวเป็นผู้กำกับดูแลของแม็ก 

พี่สาวของแม็ก (สงวนชื่อและนามสกุล) เบิกความว่า ปัจจุบันอายุ 26 ปี ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัท แม็กผู้เป็นน้องชายนั้นมีลักษณะนิสัยเป็นคนมีน้ำใจ สุขุม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชอบให้ความช่วยเหลือคนอื่น ตั้งแต่เติบโตด้วยกันมาแม็กไม่เคยมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงหรือทะเลาะเบาะแว้งกับผู้ใดเลย และหากว่ากล่าวตักเตือนแม็กก็จะเชื่อฟังและปฏิบัติตามเป็นอย่างดี

ตั้งแต่เด็กแม็กและตนเติบโตและอยู่อาศัยในบ้านเดียวกันตลอดมา หากแม็กมีปัญหาอะไรก็มักจะปรึกษาและพูดคุยกับตนเสมอ ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะสามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้กำกับดูแลของแม็กได้ หากศาลจะแต่งตั้งให้เป็นผู้กำกับดูแลตนก็ยินดีและเต็มใจ และถ้าศาลจะกำหนดเงื่อนไขใดๆ ก็ยืนยันว่าจะควบคุมกำกับดูแลให้แม็กปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไปตามนัดหมายของศาลทุกครั้ง และไม่ให้มีพฤติการณ์หลบหนี 

พยานปากที่ 5 – “มิกกี้บัง” ถูกคุมขังระหว่างต่อสู้คดีมาแล้ว 38 วัน 

มิกกี้บัง (สงวนชื่อและนามสกุล) เบิกความว่า ปัจจุบันอายุ 23 ปี ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 วิทยาลัยพัฒนาชุมชนเมือง ที่มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โดยอาศัยอยู่กับแม่บุญธรรม ที่ย่านคลองสาน กรุงเทพฯ แม่บุญธรรมเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุได้ 2 เดือนเศษจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจำเลยให้ความเคารพและเชื่อฟังมาโดยตลอด 

ในคดีนี้จำเลยไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนีแต่อย่างใด เมื่อมีหมายเรียกมาถึงจำเลยก็ได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนตามนัดหมาย ที่ สน.นางเลิ้ง โดยทันที และถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. 2565 เป็นเวลา 38 วันแล้ว โดยได้ให้การปฏิเสธมาตั้งแต่ชั้นสอบสวนเรื่อยมาจนกระทั่งถึงชั้นศาล

หากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยกำหนดเงื่อนไขก็จะยินยอมปฏิบัติตามที่ศาลกำหนดทุกประการ และยินยอมให้แต่งตั้งแม่บุญธรรมของตนเป็นผู้กำกับดูแลในคดีนี้ โดยจะเชื่อฟังและเดินทางมาตามนัดหมายของศาลทุกครั้ง 

พยานปากที่ 6 – “แม่บุญธรรมของมิกกี้บัง” ผู้เสนอตัวเป็นผู้กำกับดูแลของมิกกี้บัง

พรรณี นิพภะยะ แม่บุญธรรมของมิกกี้บัง เบิกความว่า ปัจจุบันอายุ 65 ปี ประกอบอาชีพค้าขาย มีความสัมพันธ์กับจำเลยเป็นเสมือนมารดา ได้อุปการะเลี้ยงดูจำเลยตั้งแต่อายุได้ 2 เดือน พร้อมให้การเลี้ยงดูและให้การศึกษามาโดยตลอด ตั้งแต่จำเลยถูกขังในคดีนี้ ไม่มีใครอยู่คอยช่วยเหลือและดูแลตนเลย เนื่องจากพยานมีอายุมากแล้ว ก่อนหน้านี้จำเลยและพยานอาศัยอยู่ด้วยกันเพียง 2 คน แต่เมื่อจำเลยไม่อยู่ก็ไม่มีใครช่วยขับรถไปซื้อของที่จะต้องนำมาค้าขาย ซึ่งจะต้องจ่ายตลาดวันต่อวันเท่านั้น

อีกทั้งสุขภาพร่างกายของพยานยังไม่ค่อยแข็งแรงอีกด้วย โดยเฉพาะขา ซึ่งทำให้เดินไม่สะดวก และยังป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง มีภาวะไขมันในเลือดสูง และเมื่อทำงานหนักมากไปร่างกายก็จะเกิดอาการเกร็งจนอาจช็อกและหมดสติได้ เมื่อจำเลยถูกคุมขัง พยานจึงประกอบอาชีพและพักอาศัยเพียงลำพังอย่างยากลำบาก

จำเลยไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใครมาก่อน ไม่เคยประพฤติไม่ดี เป็นที่รักของคนรอบข้างและคนในชุมชน จำเลยศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 ซึ่งใกล้จะจบการศึกษาในเร็วๆ นี้แล้ว หากจำเลยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว พยานเชื่อว่าสามารถกำกับดูแลจำเลยได้ และยินดีเป็นผู้กำกับดูแลเพื่อให้จำเลยปฏิบัติตามคำสั่งศาล เดินทางมาตามนัดหมายของศาลทุกครั้ง และไม่ให้หลบหนี 

เมื่อจำเลยทั้งสามและผู้เสนอตัวเป็นผู้กำกับดูแลเบิกความต่อศาลแล้ว ศาลยังได้ให้นายประกันอาสาจากกองทุนราษฎรประสงค์แถลงถึงความยินยอมในการวางหลักทรัพย์ประกันจำเลยทั้งสามคน โดยนายประกันอาสาแถลงว่า มีความยินยอมและเต็มใจที่จะประกันตัวจำเลยทั้งสามด้วยการวางหลักทรัพย์เป็นเงินสด คนละ 100,000 บาท ซึ่งได้จากกองทุนราษฎรประสงค์ และหากจำเลยประพฤติผิดเงื่อนไขสัญญาประกันยินดีให้ศาลปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา และยินดีให้ริบเงินประกันดังกล่าว

กระบวนการไต่สวนเสร็จสิ้นลงหลังใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จากนั้นศาลแจ้งผู้ที่เกี่ยวข้องว่า จะรวบรวมถ้อยคำสำนวนเสนอท่านผู้บริหารศาลอาญาพิจารณาและมีคำสั่ง โดยได้นัดฟังคำสั่งว่าจะให้ประกันตัวจำเลยทั้งสามหรือไม่ ในวันที่ 22 พ.ย. 2565 เวลา 10.00 น. 

X