10 พ.ย. 2565 ‘ไบค์’ หัสวรรษ (สงวนนามสกุล) และ ‘ภูมิ’ กัมพล (สงวนนามสกุล) เดินทางไปศาลแขวงอุบลราชธานี ในนัดฟังคำพิพากษา คดีที่ทั้งสองถูกฟ้องข้อหา ดูหมิ่นผู้อื่นด้วยการโฆษณา จากการชูป้าย ‘I HERE ตู่ รัฐบาลฆาตกร’ เปรียบเปรยเชิงสัญลักษณ์ ในระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตรวจราชการที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2564 คดีนี้สืบพยานไปเมื่อวันที่ 25-26 ต.ค. 2565 ก่อนนำมาสู่การอ่านคำพิพากษาในครั้งนี้
ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 2 ชยิน สุนทรสิงคาล ผู้พิพากษา เริ่มอ่านคำพิพากษามีใจความโดยสรุปว่า
พิเคราะห์ว่า โจทก์นำสืบถึงความหมายของข้อความ I HERE ตู่ ไปในเชิงชี้แนะ ผู้ที่จะเข้าใจความหมายอย่างลึกซึ้ง น่าจะไม่ใช่สาธารณชน แต่หากเป็นผู้ที่มีความรู้ภาษาอังกฤษปานกลางถึงสูง ที่จะตีความประโยคไปในเชิงชี้แนะเช่นนี้ได้ ส่วนที่จำเลยเบิกความว่า I HERE ตู่ แปลว่า ฉันอยู่ที่นี่ เป็นการแปลความหมายโดยตรง แม้จะผิดหลักไวยากรณ์บ้าง และ ตู่ เป็นชื่อเล่นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พออนุมานแปลได้หลายนัยยะ
ทั้งนี้ คำว่า I HERE ตู่ หากจะแปลความหมายก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของบุคคลนั้นๆ และคำว่า I HERE ไม่พ้องเสียงกันกับ ไอ้เหี้ย ตามที่พยานผู้เชี่ยวชาญเบิกความว่า ไม่ใช่คำพ้องเสียง คำพ้องเสียงต้องมีการออกเสียง (Sound Tone) เหมือนกันตามหลักภาษาศาสตร์ ดังเช่น คำว่า Sun ที่แปลว่าพระอาทิตย์ กับ Son ที่แปลว่า บุตรชาย คำว่า Here แปลว่า ที่นี่ กับคำว่า Hear ที่แปลว่า ได้ยิน ยังพ้องเสียงของคำว่า เฮีย ที่ใช้เรียกพี่ในคนไทยเชื้อสายจีน
ส่วนคำว่า รัฐบาลฆาตกร ด้วยสถานการณ์ขัดแย้งขณะนั้น ย่อมชี้ชัดว่าเป็นรัฐบาลปัจจุบัน แต่ข้อความไม่ได้หมายถึงบุคลใดโดยเฉพาะ และนายกรัฐมนตรีย่อมถูกวิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะกระทบกระทั่งได้ ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันบัญญัติรับรองเสรีภาพในการแสดงออกไว้ในมาตรา 34 และตามหลักการเสรีภาพในการแสดงออก ประกอบกับพยานหลักฐานโจทก์มีความน่าสงสัย ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย
พิพากษายกฟ้อง
ส่วนป้ายผ้าของกลางที่เป็นทรัพย์ไว้สำหรับกระทำความผิด เห็นว่า เป็นข้อความที่อาจชักชวนให้เกิดความแตกแยกในสังคมจึงให้ริบไว้
หลังได้รับทราบคำพิพากษา ไบค์ที่เดินทางมาจาก จ.ขอนแก่น กล่าวว่า “รู้สึกคดีมันไร้สาระมาก จริงๆ มันไม่ควรเป็นคดีด้วยซ้ำ สงสัยคงเพราะไอ้การไปแอคชั่นของผมไปกระทบต่อหน้าที่การงานของเจ้าหน้าที่แหละ แต่ผมก็รู้สึกว่าผมไม่ผิด เรื่องของพวกคุณทั้งนั้น ผมก็ใช้สิทธิของผมในการแสดงออก ซึ่งผมยืนยันว่าการแสดงออกของผมไม่ได้ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น และการวิพากษ์วิจารณ์ต่อผู้นำประเทศก็ย่อมสามารถทำได้”
ส่วนภูมิที่เดินทางจากกรุงเทพฯ สะท้อนความรู้สึกว่า “ทำไมบรรดาข้าราชการ ตำรวจ อัยการ ที่ควรอยู่เคียงข้างประชาชนถึงต้องมาไล่ฟ้องนักศึกษาอย่างเราด้วย ยิ่งเห็นการทำงานที่สอดประสานกันของข้าราชการที่จะเอาผิดเราให้ได้ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่า ทำไมพวกเขาถึงไร้สามัญสำนึกได้ขนาดนี้ เพราะการที่ต้องเดินทางมารายงานตัวเพื่อสู้คดีมันใช้ทรัพยากรมหาศาล ผมอาจจะโชคดีนิดหน่อยที่ผมเป็นนักศึกษา ไม่ใช่ประชาชนทั่วๆ ไป เเละอาจจะโชคดีที่นี่เป็นเพียงคดีลหุโทษ ไม่ใช่คดี 112”
ไม่เพียงแต่ไบค์กับภูมิ เหตุจากวันเดียวกันยังมี เค้ก (นามสมมติ) และอัญธิกา (สงวนนามสกุล) ถูกดำเนินคดีดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ และเทหรือทิ้งสิ่งปฏิกูลฯ จากการเทอาหารหมาใส่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาในนัดสืบพยาน เค้กตัดสินใจให้การรับสารภาพ ก่อนศาลแขวงอุบลราชธานีพิพากษา ฐานร่วมกันดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ จำคุก 2 เดือน และปรับ 6,000 บาท ฐานร่วมกันเทสิ่งปฏิกูลหรือขยะมูลฝอย ปรับ 4,000 บาท ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี ในส่วนของอัญธิกาอยู่ในระหว่างถูกจำหน่ายคดีออกจากสารบบ เนื่องจากติดภารกิจทำงานที่ต่างประเทศ
การชูป้ายสัญลักษณ์ ‘I HERE ตู่’ เมื่อบ่ายวันที่ 15 ต.ค. 2564 ของทั้งไบค์และภูมิ เกิดขึ้นขณะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปตรวจราชการที่ศาลาประชาวาริน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยทั้งสองคนต้องการไปแสดงตัวว่ามีบุคคลที่ไม่เห็นด้วยกับการบริหารของรัฐบาลชุดนี้ และอยากให้ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ออกมาแสดงออกด้วยการวิพากษ์วิจารณ์ในรูปแบบต่าง ๆ ย่อมเป็นสิ่งที่ทำได้ และอยากสะท้อนถึงสามัญสำนึกของข้าราชการในการร่วมกันทำงานเพื่อเอาผิดประชาชนที่มาแสดงออกด้วยการประท้วง ที่มักหลงลืมไปว่าควรที่จะทำหน้าที่ปกป้องประชาชนมากกว่าผู้มีอำนาจ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง