เลื่อนสืบพยานคดีแฮร์รี่ พอตเตอร์ ม.112 และ 116 ของ ‘อานนท์’ เนื่องจากศาลยังไม่ได้ออกหมายเรียกพยานเอกสารสำคัญให้จำเลย

วันที่ 1 พ.ย. 2565 เวลา 9.00 น. ศาลอาญานัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ในคดีชุมนุม #เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย หรือม็อบแฮร์รี่ พอตเตอร์ บริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2563 พนักงานอัยการ สํานักงานอัยการสูงสุด (สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7) ได้สั่งฟ้อง ‘อานนท์ นำภา’ ในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามมาตรา 112, ยุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ, พ.ร.ก ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ชุมนุมฯ, พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ จากการโพสต์สเตตัสเฟซบุ๊กจำนวน 3 โพสต์ ในวันที่ 3 ส.ค. 2563 และร่วมปราศรัยในการชุมนุม

ย้อนอ่านคำฟ้องของอัยการ >>> เปิดคำฟ้องอัยการคดี ม.112 ‘อานนท์’ ปราศรัยม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ ก่อนศาลอาญาไม่ให้ประกันตัว

ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 710 เวลา 9.30 น. เมื่อศาลออกนั่งพิจารณา ทนายความแถลงว่าศาลยังไม่ได้ออกหมายเรียกพยานเอกสารสำคัญให้กับจำเลย หลังฝ่ายจำเลยได้ยื่นคำร้องไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ เอกสารการเดินทางเข้าออกประเทศของในหลวงรัชกาลที่ 10, คำพิพากษาศาลแพ่งสั่งยึดวังศุโขทัยในสมัยรัชกาลที่ 7, เอกสารการใช้เงินของสถาบันกษัตริย์ และการโอนทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ไปเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ ทำให้ทนายไม่สามารถถามค้านพยานโจทก์ได้เนื่องจากเอกสารเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับประเด็นที่โจทก์ฟ้องโดยตรง

ศาลชี้แจงว่าพยานเอกสารที่ฝ่ายจำเลยร้องขอมานั้น ศาลจะออกหมายเรียกให้หรือไม่ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะได้เอกสารมาทันสืบพยานตามกำหนดนัดเดิม และชี้แจงว่าศาลคงไม่ออกหมายเรียกให้

“ศาลก็อยากออกหมายเรียกให้นะ ถ้าให้ มันก็สามารถเอาไปใช้ได้เรื่อยๆ กับทุกสำนวน แต่ท่านเข้าใจใช่หรือไม่ว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน”

ทนายความจึงแถลงต่อศาลว่าถ้าศาลไม่ออกหมายเรียกพยานเอกสารเหล่านั้น ก็ไม่สามารถนำมาใช้ในการถามค้าน เนื่องจากโจทก์ฟ้องตามข้อหา ม.112 กับ ม.116 และบรรยายว่าจำเลยพูดบิดเบือน ไม่ตรงกับความจริง ดังนั้นจึงต้องนำเอกสารเหล่านั้นมาใช้ต่อสู้ว่าจำเลยพูดไปตามข้อเท็จจริงโดยสุจริต

หลังจากได้ฟังคำแถลงของทนายความ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนได้ขอออกไปปรึกษากับผู้บริหารศาลอาญา ภายหลังจึงกลับมาในห้องพิจารณาพร้อมแจ้งว่ามีคำสั่งไม่อนุญาตตามคำขอหมายเรียกพยานเอกสารดังกล่าว 

พยานโจทก์และผู้กล่าวหา ได้แก่ นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงต่อศาลขอให้มีการสืบพยานและถามค้านภายในวันนี้ ส่วนพยานเอกสารเหล่านั้นให้ทนายความไปซักถามในส่วนของพยานจำเลยได้ เนื่องจากนายอภิวัฒน์เองก็ไม่ทราบเรื่องตารางการบิน และเรื่องการแทรกแซงการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังผ่านการลงประชามติของรัชกาลที่ 10 เช่นกัน 

ทนายความจึงโต้แย้งว่า ในคดีอาญา ศาลจะฟังพยานโจทก์ ถ้าพยานโจทก์รับฟังไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องสืบพยานจำเลยด้วยซ้ำไป การรอสืบพยานเมื่อได้พยานเอกสารมาไม่ได้สร้างความเสียหาย และยังทำให้เกิดความยุติธรรม

เวลา 10.23 น. ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนไปนัดหน้า พยานจึงเข้าไปในคอกพยานและสาบานตน อย่างไรก็ตาม อานนท์แถลงต่อศาลว่า หากกล่าวตามความจริง ศาลเองมีความไม่ปกติในเรื่องการออกหมายเรียกพยานเอกสาร ถ้าศาลติดขัดไม่ออกให้ด้วยเหตุผลต่างๆ ก็มีความเข้าใจ แต่จะรอให้สืบไม่สมตามที่ฟ้องมาเองเพียงอย่างเดียวก็ไม่ได้

นอกจากนี้ทนายความยังแถลงเพิ่มเติมว่า คดีนี้ไม่ใช่แค่จำเลยจะติดคุกหรือไม่ติดคุก แต่เป็นกระบวนการทางสังคม ว่าการดำเนินคดีเป็นไปอย่างสง่างามหรือไม่ โดยมีพยานหลักฐานที่นำมาพิสูจน์ความจริง

อานนท์จึงขอเข้าพบอธิบดีศาลอาญาเพื่อสอบถามเรื่องไม่อนุญาตออกหมายเรียกพยานเอกสารตามคำร้องขอ การสืบพยานจึงหยุดชะงักลง แต่เมื่อไปติดต่อกับเลขานุการของอธิบดีศาลอาญา ก็ได้รับแจ้งว่า อธิบดีไปทอดกฐิน จะพยายามติดต่อให้ ศาลจึงมีคำสั่งให้กลับมาพูดคุยเรื่องนี้อีกทีในเวลา 13.30 น.

เวลา 13.14 ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาในช่วงบ่าย และเรียกพนักงานอัยการ ทนายความ และจำเลย ไปพูดคุยหน้าบัลลังก์  

ต่อมาในเวลา 14.00 น. ศาลแจ้งให้ทนายความทำคำร้องขอหมายเรียกพยานหลักฐานเข้ามาใหม่ โดยให้ระบุอย่างละเอียดทุกรายการว่าจะนำมาพิสูจน์เรื่องใดในคำฟ้อง และให้เลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์ในวันพรุ่งนี้ (2 พ.ย. 2565) เวลา 9.00 น.

ย้อนอ่านคำให้การของ ‘ทนายอานนท์’ >>> เปิดคำให้การ “ทนายอานนท์” คดีแฮรี่ พอตเตอร์ หลังถูกแจ้งเพิ่ม ม.112 ย้ำเจตนารมณ์อยากเห็นสถาบันกษัตริย์ อยู่อย่างสง่างาม

X