สำนักงานข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติเข้าสังเกตการณ์  คดี ม. 112 ชุมนุมหน้าราบ 11 ก่อนศาลนัดตรวจพยานใหม่ 9 พ.ค. 65

7 ก.พ. 2565 ศาลอาญานัดตรวจพยานหลักฐานในคดี #ม็อบ29พฤศจิกา63 หรือชุมนุม #ปลดอาวุธศักดินาไทย ที่หน้ากรมทหารราบที่ 11 ที่มีข้อหาหลักตามมาตรา 112 และ มาตรา 116 และมีจำเลย 8 คน ได้แก่ อานนท์ นำภา, “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์, ชินวัตร จันทร์กระจ่าง, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ, “แหวน” ณัฎฐธิดา มีวังปลา, พรหมศร วีระธรรมจารี, “ทราย” อินทิรา เจริญปุระ โดยทั้งหมดเป็นผู้ปราศรัยในการชุมนุมดังกล่าว เว้นอินทิราที่ไม่ได้ขึ้นปราศรัยใดๆ และไม่ได้ถูกฟ้องในข้อหาตามมาตรา 112 

วันนี้ จำเลยที่ได้รับการประกันตัวทั้ง 6 คน ต่างทยอยเดินทางมาศาลตั้งแต่ช่วงเวลา 09.00 น. โดยมีพรหมศรเดินทางมาเป็นคนสุดท้ายด้วยชุดผ้าฝ้ายสีแดงสด สร้างความสดใสให้กับห้องพิจารณา พรหมศรบอกความหมายของสีแดงบนชุดของเธอในวันนี้ว่าหมายถึง “ชาติที่สื่อความถึงประชาชน” 

ส่วนอานนท์และพริษฐ์ที่ยังไม่ได้รับการประกันตัวถูกเบิกตัวมาศาล และเดินเข้าห้องพิจารณาพร้อมกับผู้คุมอีก 4 นาย โดยในวันนี้มีผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์คดี ทั้งจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติ องค์กรสิทธิมนุษยชน ครอบครัว และเพื่อนนักกิจกรรมอีกจำนวนหนึ่งที่ได้เข้าไปพูดคุยและให้กำลังใจอานนท์และพริษฐ์

ต่อมาเวลา 10.00 น. ผู้พิพากษา 3 คนเข้ามาในห้องพิจารณา ทนายจำเลยแถลงขอเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐาน เนื่องจากทนายความของจำเลย 1 คน ติดว่าความที่ศาลอื่น และจำเลยอีก 2 คน ยังไม่ได้แต่งตั้งทนายความที่ได้ติดต่อไว้แล้ว 

พนักงานอัยการโจทก์ไม่ค้านการเลื่อนนัดคดีออกไปก่อน และขอยื่นพยานเอกสารของโจทก์ 37 ลำดับ และแผ่น CD 1 แผ่น ให้ศาลและจำเลยตรวจดู พร้อมแถลงขอรวมการพิจารณาคดีในส่วนของชินวัตรและพรหมศรที่ถูกแยกฟ้องคนละเลขคดีกัน มารวมการพิจารณากับคดีของอีก 6 คน เพราะเป็นเหตุการณ์และมีพยานหลักฐานชุดเดียวกัน 

ศาลจึงอนุญาตให้เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานไปเป็นวันที่ 9 พ.ค. 2565 เวลา 09.00 น. ตามที่ทั้งสองฝ่ายมีวันนัดหมายตรงกัน และอนุญาตให้มีการรวมคดีของจำเลยทั้ง 8 คนไว้ด้วยกัน 

สำหรับคดีนี้ ผู้ถูกฟ้องคดีเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2564 มีทั้งหมด 6 ราย โดยอานนท์และพริษฐ์ถูกฟ้องโดยไม่มีตัว เนื่องจากถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ส่วนชินวัตรและพรหมศร ยังไม่ได้เดินทางมาฟังคำสั่ง เนื่องจากติดภารกิจอื่น ก่อนที่ต่อมาทั้งสองคนได้เข้าฟังคำสั่งฟ้องคดีพร้อมกันเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2564 

สำหรับจำเลย 7 ราย ยกเว้นอินทิรา ได้ถูกฟ้องทั้งหมด 10 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, มาตรา 116, มาตรา 215, มาตรา 216, มาตรา 385, ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ไม่แจ้งการชุมนุมสาธารณะ ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมฯ, เททิ้งปฏิกูล มูลฝอยลงบนถนน ตาม พ.ร.บ.ความสะอาดฯ, ข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ และข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต

ขณะที่อินทิรา ถูกสั่งฟ้องใน 2 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และ ข้อหาไม่แจ้งการชุมนุม ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ โดยอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องในข้อหาตามมาตรา 112 ที่เธอถูกกล่าวหาในชั้นสอบสวนด้วย

สำหรับการชุมนุม “ปลดอาวุธศักดินาไทย” ของกลุ่มราษฎร เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2563 เดิมประกาศชุมนุมหน้ากรมทหารราบที่ 1 ซึ่งเป็นบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านไม่ให้เกิดการรัฐประหารตามที่มีกระแสข่าวในช่วงดังกล่าว และต่อมาได้เปลี่ยนสถานที่ชุมนุมเป็นกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์แทน ผู้ถูกกล่าวหาทั้งแปดได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีนี้ที่ สน.บางเขน เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2563 โดยในส่วนของข้อหาตามมาตรา 112 มี นายวราวุธ สวาย เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษเอาไว้ 

ฐานข้อมูลคดี

คดี 112-116 “8 นักกิจกรรมราษฎร” ปราศรัย “ปลดอาวุธศักดินาไทย” หน้าราบ 11 #ม็อบ29พฤศจิกา

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

เปิดข้อหาคดี #ม็อบ29พฤศจิกา “ทราย” ไม่ได้ขึ้นปราศรัยแต่ถูกแจ้ง ม.112-116 ด้วย

ฟังเสียง 4 จำเลยคดี ม.112 ชุมนุมหน้าราบ 11 หลังทราบอัยการสั่งฟ้องคดี 

เปิดฟ้องคดี ม.112-116 ชุมนุม #ปลดอาวุธศักดินาไทย ที่หน้าราบ 11 หลังอัยการฟ้องครบ 8 ราย

X