ย้อนดูคดีก่อนชี้ชะตา:  ‘นิว’ จตุพร ถูก ‘เนวิน’ ฟ้องหมิ่นประมาทฯ เหตุแชร์โพสต์วิจารณ์บุรีรัมย์ได้รับจัดสรร ‘ไฟเซอร์’ มากกว่าจังหวัดที่เสี่ยง 

วันที่ 26 ต.ค. 2565 ‘นิว’ จตุพร แซ่อึง นักกิจกรรมกลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอก มีนัดฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ในคดีที่ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ดเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีแชร์โพสต์จากเพจ KTUK-คนไทยยูเค วิจารณ์การบริหารจัดการวัคซีนในจังหวัดบุรีรัมย์ที่ได้มากกว่าจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีแดง โดยเนวินมอบอํานาจให้ พ.ต.ท.ภูวดิท ปิติภัทรชนากร รอง ผกก.สส.ภว.จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความดำเนินคดี 

คดีนี้สืบพยานระหว่างวันที่ 2-3 ส.ค. 2565  เป็นพยานโจทก์ 6 ปาก พยานจำเลย 1 ปาก ซึ่งนิวอ้างตัวเองเป็นพยาน โดยมีข้อต่อสู้ว่า แชร์โพสต์ดังกล่าวจริง แต่มีเจตนาให้มีการจัดสรรวัคซีนอย่างเป็นธรรม และจากข่าวรวมถึงตามความเข้าใจของคนทั่วไป เนวิน ชิดชอบ ยังมีบทบาททางการเมืองใน จ.บุรีรัมย์ จึงน่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่เมื่อมีการชี้แจงจาก สสจ.บุรีรัมย์ ก็ได้ลบข่าวที่แชร์ดังกล่าว 

ทั้งนี้ นอกจากการดำเนินคดีทางอาญาฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ซึ่งมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท แล้ว เนวิน ชิดชอบ ยังเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับนิว จตุพร เป็นเงินถึง 1,000,0000 บาท อีกด้วย 

ชั้นสอบสวน ตร.แจ้งเอาผิด 2 โพสต์  ตีความ ‘เนวิน’ แอบเอาวัคซีนมาให้ จ.บุรีรัมย์ 

หลังได้รับหมายเรียกกลางเดือนกันยายน 2564 นิว จตุพร เดินทางไป สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อเข้าพบ พ.ต.ท.ไชยา สระโสม พนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ครั้งนั้น พ.ต.ท.ไชยา แจ้งข้อหานิว จากการโพสต์เฟซบุ๊กและแชร์โพสต์เพจ KTUK-คนไทยยูเค รวม 2 โพสต์

 1. เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2564 แชร์โพสต์มีข้อความว่า 

“ประเทศบุรีรัมย์ของพ่อหลวงเนวินได้วัคซีนไฟเซอร์ไปเรียบร้อย! เจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกข่าวประกาศเองเลย…. 

ขโมยโควต้าไปไม่รู้เท่าไหร่ ข่าวไม่ได้ระบุจํานวน แต่ที่แน่ๆ บุรีรัมย์ไม่เคยพลาดเรื่องวัคซีน! ทั้งการที่จังหวัดมี วัคซีนตลอดปี ไม่เคยขาด ทั้งการได้ไฟเซอร์ไป พ่อหลวงเนวินบริหารประเทศบุรีรัมย์ได้เก่งจริงๆ 

สมแล้วที่เป็นนายทุนใหญ่แห่งพรรคภูมิใจไทย อนุทินทํางานรับใช้ให้อย่างสมพระเกียรติ สรุปแล้วผลงานของประเทศบุรีรัมย์ 1.ได้ฉีดแอสตร้าเข็มสามให้คนที่ไม่ใช่หมอ 2.ร่วมกับคมนาคม ให้น้องชาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ จัดรถไฟ ส่งผู้ป่วยกลับบ้าน 3.ได้เปิดโรงพยาบาลสนาม 4.ล่าสุดได้ไฟเซอร์ไปก่อนจังหวัดอื่นๆ ปังมาก 

ใครมันจะยังกระแดะเลือกพรรคนี้อีกในอนาคต ทั้งโกงกิน เล่นพรรคเล่นพวก คอร์รัปชั่นหน้าด้านๆ อนุทิน ศักดิ์สยาม เนวิน เล่นการเมืองบนชีวิตคนแบบไม่มีปิดบัง เหี้ยที่สุด” 

โพสต์นั้นมีภาพประกอบ 1 ภาพ เป็นภาพ เนวิน ชิดชอบ และอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พื้นหลังเป็นภาพขวดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยี่ห้อไฟเซอร์ มีตัวอักษรสีขาว พื้นสีดํา คําว่า “ประเทศ บุรีรัมย์ ปังอีกแล้ว!!” ด้านล่างมีตัวอักษรสีขาว กรอบสีแดง ข้อความว่า ไม่เกินคาด! วัคซีนไฟเซอร์ ไปบุรีรัมย์แล้ว แม้จะไม่ใช่พื้นที่สีแดงเข้ม แต่วัคซีนไม่เคยขาด อนุทินไม่เคยพลาด ขยันเล่นการเมืองบนชีวิตคน 

พ.ต.ท.ไชยา ตีความว่า ข้อความดังกล่าวหมายถึง เนวิน ชิดชอบ ลักหรือแอบเอาวัคซีนที่มีการกําหนดปริมาณ วางเป็นกฎเกณฑ์ไว้สําหรับผู้อื่น หรือสําหรับที่อื่นนอกจากจังหวัดบุรีรัมย์ มาให้กับจังหวัดบุรีรัมย์ รวมทั้งการได้วัคซีนไฟเซอร์มาให้กับจังหวัดบุรีรัมย์ โดยได้มาก่อนจังหวัดอื่น ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นความเท็จ ทําให้เนวินได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

ข้อความที่กล่าวหาว่า “ทั้งโกงกิน เล่นพรรคเล่นพวก คอร์รัปชั่นหน้าด้านๆ อนุทิน, ศักดิ์สยาม, เนวิน เล่น การเมืองบนชีวิตคนแบบไม่มีปิดบัง เหี้ยที่สุด” เป็นการกล่าวหา พรรคภูมิใจไทย, อนุทิน, ศักดิ์สยาม และเนวิน ผู้กล่าวหา ว่า โกงกิน เล่นพรรคเล่นพวก คอร์รัปชั่นหน้าด้านๆ เล่นการเมืองบนชีวิตคน ทําให้ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ได้รับความเสียหาย

2.เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2564 เช่นกัน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ดังนี้ 

“ใช่จ้า กูคนบุรีรัมย์ กูนี่เขินทุกครั้งที่เห็นคนในจังหวัดอวย ดีใจที่ได้วัคซีนก่อนชาวบ้านชาวช่องเขา แถมยังมีแนวคิดว่า “เขาจะเป็นยังไงก็เป็นไป แค่เขาหาวัคซีนมาฉีดให้ในจังหวัดก็พอ” อายจ้าที่พวกคุณเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้ ที่พวกคุณเลือกที่จะอิกนอร์ไม่สนหีสนแตดอะไร เพราะคุณคิดว่าคุณได้ผลประโยชน์จากการดูแลจัดหาวัคซีนในจังหวัด คุณแค่คิดว่าเรารอดก็พอ แต่พวกคุณไม่รู้หรอกว่าวัคซีนที่เขาเอามาฉีดให้พวกคุณไร้ประสิทธิภาพขนาดไหน” 

โพสต์ดังกล่าวได้นําภาพประกอบจากโพสต์ของเพจ KTUK – คนไทยยูเค ที่มีภาพของเนวิน ชิดชอบ และอนุทิน ชาญวีรกูล  และข้อความที่อยู่ในภาพ มาประกอบด้วย 

พ.ต.ท.ไชยา ตีความข้อความที่ว่า “เขาจะเป็นยังไงก็เป็นไป แค่เขาหาวัคซีนมาฉีดให้ในจังหวัดก็พอ” หมายถึงเนวิน, อนุทิน  และพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้สนใจชีวิตประชาชนในท้องที่อื่น จังหวัดอื่น เอาวัคซีนมาใช้ในจังหวัดบุรีรัมย์เท่านั้นพอ ซึ่งจะทําให้ผู้อื่นที่ไม่รู้ความจริง หรือคนที่อยู่ในท้องที่อื่น จังหวัดอื่น เกิดความดูหมิ่นเกลียดชังเนวิน, อนุทิน และ พรรคภูมิใจไทยได้ 

ข้อความที่ว่า “อายจ้าที่พวกคุณเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้ ที่พวกคุณเลือกที่จะอิกนอร์ไม่สนหีสนแตดอะไร” พนักงานสอบสวนอ้างว่าหมายถึง เนวิน ,อนุทิน และพรรคภูมิใจไทย เป็นคนเห็นแก่ตัว กล่าวหาว่าเนวินและพวกเพิกเฉย ไม่สนใจอะไร ซึ่งคําว่า “อิกนอร์”ในภาษาอังกฤษแปลว่าเพิกเฉย ไม่สนใจ ละเลย ส่วนคําว่า “ไม่สนหีสนแตด” เป็นคําพูดที่เกี่ยวกับ อวัยวะเพศหญิง เป็นการนํามาเปรียบเทียบที่ไม่สมควร ถือว่าเป็นการดูหมิ่นเนวินด้วย ทําให้ได้รับความเสียหาย

ข้อความที่ว่า “เพราะคุณคิดว่าคุณได้ผลประโยชน์จากการดูแลจัดหาวัคซีนในจังหวัด” ซึ่งคําว่าผลประโยชน์ในความหมายนี้หมายถึง ประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย อาจหมายถึงการทุจริต คอรัปชั่น ถ้อยคําดังกล่าวย่อมทําให้ผู้พบเห็นที่ได้อ่านข้อความ จะมีความดูหมิ่น เกลียดชังผู้แจ้ง ทําให้ได้รับความเสียหาย

พนักงานสอบสวนระบุอีกว่า ยังมีข้อความที่มีภาพเนวิน และอนุทิน อยู่ในโพสต์ดังกล่าวด้วย แสดงให้เห็นว่า ถ้อยคําทั้งหมดที่จตุพรกล่าวในโพสต์ หมายถึงเนวิน, อนุทิน และพรรคภูมิใจไทย จึงทําให้เนวิน ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ได้รับความเสียหาย อันเป็นความผิดในข้อหา หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา

ครั้งนั้นนิวให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมตั้งคำถาม “อยากรู้ว่าการได้วัคซีนไฟเซอร์ของจังหวัดบุรีรัมย์ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่สีแดงนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ส่วนตัวที่โพสต์ไม่ได้ระบุถึงเนวิน ชิดชอบ แต่พูดถึงคนทั้งจังหวัดว่าเราควรภูมิใจกับสิ่งที่ได้รับมาโดยไม่ชอบธรรมหรือไม่” 

อัยการฟ้องเฉพาะโพสต์ที่แชร์จากคนไทยยูเค

3 เดือนถัดมา 16 ธ.ค. 2564 พนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ มีคำสั่งฟ้องคดี เฉพาะการแชร์โพสต์ข้อความของเพจ KTUK – คนไทยยูเค เพียงโพสต์เดียวเท่านั้น บรรยายคำฟ้องว่า ข้อความและรูปที่จำเลยแชร์มานั้น ประชาชนทั่วไปอ่านแล้วย่อมเข้าใจว่า นายเนวิน ชิดชอบ ผู้เสียหาย เป็นคนคดโกง คอร์รัปชั่น ทุจริต เล่นพรรคเล่นพวกไม่ซื่อสัตย์ ซึ่งไม่เป็นความจริง การกระทําของจําเลยดังกล่าวจึงเป็นการใส่ความ หมิ่นประมาทผู้เสียหายโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพหรือตัวอักษร โดยประการที่น่าจะทําให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและถูกเกลียดชัง

โพสต์ที่อัยการไม่ฟ้องนั้น เป็นอันที่นิวเคยระบุว่า “ที่โพสต์ไม่ได้ระบุถึงเนวิน ชิดชอบ แต่พูดถึงคนทั้งจังหวัดว่าเราควรภูมิใจกับสิ่งที่ได้รับมาโดยไม่ชอบธรรมหรือไม่” 

ครั้งนั้นหลังศาลสอบถามคำให้การเบื้องต้นผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ นิวยืนกรานให้การปฏิเสธ ศาลมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องวางหลักประกัน แต่ให้สาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าจะมาศาลตามนัด

เนวินประเมินความเสียหาย 1 ล้าน จำเลยแย้งไม่ชัดเจนว่าเสียหายอย่างไร

ศาลนัดสืบพยานระหว่างวันที่ 2-3 ส.ค. 2565  แต่ก่อนสืบพยานบารมี เจริญสุขศิริ ผู้พิพากษา กล่าวว่า ทิวา การกระสัง ทนายโจทก์ร่วมยื่นคำร้องเรียกค่าสินไหมทดแทน ลงวันที่ 4 ก.พ. 2565 สรุปความว่า เนื่องจากการกระทำของจำเลยมีการเผยแพร่ไปยังบุคคลและสาธารณชนทั้งประเทศ ทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายร้ายแรง ไม่อาจแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ 

ผู้เสียหายเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัย เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง บิดาผู้เสียหายเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัย และประธานสภาผู้แทนราษฎร ปัจจุบันน้องชายของผู้เสียหาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ส่วนตัวผู้เสียหายปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วประเทศ การกระทำของจำเลยมิใช่การวิจารณ์การทำงานของผู้เสียหายอย่างสุจริต แต่เป็นการจงใจใส่ร้าย มีเจตนากระทำผิดต่อกฎหมายอย่างร้ายแรง 

นอกจากผู้เสียหายจะได้รับความเสียหายเป็นการส่วนตัวแล้ว ความเสียหายดังกล่าวยังเกิดขึ้นแก่ชื่อเสียงและวงค์ตระกูลได้ ผู้เสียหายจึงประสงค์เรียกค่าทดแทนจากการกระทำของจำเลยเป็นเงินจำนวน 1,000,0000 บาท ทั้งให้จำเลยประกาศโฆษณาขอโทษต่อผู้เสียหายและครอบครัว โดยประกาศโฆษณาผ่านหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ, เดลินิวส์, มติชน, ข่าวสด และผู้จัดการรายวัน เป็นเวลา 15 วัน ติดต่อกันตามข้อความที่ผู้เสียหายดำเนินการเขียนหรือพิมพ์ข้อความให้กับจำเลย 

ภัทรพงษ์ วรรณพงษ์ ทนายจำเลยแถลงต่อกรณีนี้ว่า  จำเลยไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง โจทก์ร่วมไม่ได้รับความเสียหายตามที่กล่าวมา ความเสียหายที่ว่านั้นเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ คำร้องขอสินไหมทดแทนของโจทก์ร่วม มีลักษณะเคลือบคลุมไม่ชัดเจนว่ามีความเสียหายอย่างไร ทำให้จำเลยไม่สามารถให้การต่อสู้ได้อย่างเต็มที่ ขอให้ยกคำร้องของโจทก์ร่วม 

พยานโจท์ ยืนยันความเสียหายไม่ได้ – ไม่มีใครข้องเกี่ยวสโมสร-สนามบอล เนวิน

กระทั่งเมื่อเริ่มสืบพยาน แม้ในบัญชีพยานโจทก์จะระบุชื่อเนวิน ชิดชอบ เป็นพยานโจทก์ปากแรก แต่พอถึงเวลาสืบพยานจริงๆ กลับไม่ปรากฏว่า เนวินเดินทางมาที่ศาลแต่อย่างใด  

พยานโจทก์ 6 ปาก ได้แก่ พ.ต.ท.ภูวดิท  ปิติภัทรชนากร  เบิกความถึงว่าได้รับมอบอำนาจ จากเนวิน ชิดชอบ ให้มาดำเนินคดีกับ จตุพร แซ่อึง จึงเข้าร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์

ปากที่ 2 และปากที่ 3 กฤษณา มโนปราณีต และจารุมาศ อังคศิริชัย เป็นประชาชนชาวบุรีรัมย์ และเป็นพยานแวดล้อม มาเบิกความสอดคล้องกันว่า เห็นคนในตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พูดคุยถึงเรื่องที่ว่าเนวิน ชิดชอบ ถูกโพสต์พาดพิงในเชิงเสียหาย จึงเข้าไปเปิดเฟซบุ๊กดูจึงได้เห็นว่าเป็นเฟซบุ๊กของ นิว จตุพร ที่แชร์โพสต์ดังกล่าวตามฟ้อง 

ภาพสนามฟุตบอลสนามฟุตบอลช้างอารีนา (Chang Arena) ของทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด

พยานปากที่ 4 ศันสนีย์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ที่เป็นตัวแทน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ เบิกความว่า เนวินไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดหาวัคซีนเข้า จ.บุรีรัมย์ รวมถึง สสจ.บุรีรัมย์ออกข่าวทางเฟซบุ๊กถึงเรื่องโพสต์ของเพจคนไทยยูเคเรื่องวัคซีนไฟเซอร์ว่าเป็นข่าวปลอม เพื่อป้องกันประชาชนเข้าใจผิด

ก่อนที่ทนายจะถามค้านว่า นิวก็เป็นหนึ่งในประชาชนเหมือนกัน ที่อาจจะแชร์ข่าวที่ไม่เป็นความจริงได้เช่นกัน

พยานปากที่ 5 ร.ต.อ.กิตติศักดิ์ เย็งประโคน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน มาเบิกความถึงการติดตามหาต้นโพสต์ จนได้ทราบว่าเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวของ นิว จตุพร แซ่อึง ที่เป็นนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง ในนามกลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอก

และพยานโจทก์ปากสุดท้าย พ.ต.ท. ไชยา สระโสม พนักงานสอบสวนที่มาเบิกความตามเอกสารที่ได้ข้อกล่าวหากับนิว 

ทนายโจทก์ร่วมถามในทุกปากว่า เนวิน ชิดชอบ เป็นเจ้าของสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เป็นเจ้าของสนามแข่งรถ และการโพสต์ลักษณะนี้ทำให้มีผู้เข้าชมทั้งฟุตบอลและการแข่งรถในสนามน้อยลงหรือไม่ และถามถึงมูลค่าความเสียหาย หรือแม้แต่การลงทุนให้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องลงทุนเท่าไหร่ ถ้าหากมีประชาชนได้ยินได้ฟังเรื่องนี้ แล้วจะทำให้การสมัคร สส.ของพรรคภูมิใจไทยเสียหายหรือไม่ รวมไปถึงค่าเสียหายและชื่อเสียง วงค์ตระกูลของเนวิน ชิดชอบ โดยพยานต่างตอบคำถามว่ามีมูลค่าความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้

ทนายถามค้านพยานโจทก์ได้ความว่า ช่วงโควิด -19 ที่ผ่านมา คนเข้าสนามฟุตบอลและสนามแข่งรถน่าจะน้อยลงกว่าปกติอยู่แล้ว และมีการใช้มาตรการระยะห่างทางสังคม ทำให้ไม่สามารถขายบัตรได้เต็มจำนวนที่นั่ง โดยการขายบัตรก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโพสต์ข้อความดังกล่าวแต่อย่างใด รวมถึงพยานที่มาเบิกความต่างไม่มีใครข้องเกี่ยวกับสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ดและสนามแข่งรถ ที่พอจะให้ข้อมูลทางตัวเลขของผู้ชมที่ลดลงได้จริง

ส่วนพยานจำเลยหนึ่งเดียวคือ นิว จตุพร เบิกความว่าเกิดและเติบโตที่ จ.บุรีรัมย์ ช่วงสถานการณ์โควิด -19 ก็ติดตามข่าวสารมาตลอด ก่อนเกิดเหตุรับทราบว่ามีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งที่ผู้ที่ควรจะได้วัคซีนเข็มที่ 3 น่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 

ขณะเกิดเหตุนิวได้เห็นโพสต์ของคนไทยยูเค และเข้าใจว่ามีการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ที่ไม่เป็นธรรม ทำให้นิวแชร์โพสต์ดังกล่าวออกไปโดยเจตนาให้มีการจัดสรรวัคซีนอย่างเป็นธรรม ตามความเข้าใจของนิว เนวิน ชิดชอบ เป็นผู้มีอำนาจทางการเมือง จากที่เห็นมีข่าวไปลงตรวจโรงพยาบาลสนาม ใน จ.บุรีรัมย์ และตามความเข้าใจของคนทั่วไป เนวิน ชิดชอบ ก็ยังมีอำนาจอยู่ เป็นอดีตสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ตัว อนุทิน ชาญวีระกูล ก็เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ดูแลในการจัดสรรวัคซีนโดยตรง จึงเข้าใจว่าเนวิน ชิดชอบ มีส่วนเกี่ยวข้อง และเชื่อไปตามนั้น แต่พอนิวรู้ว่า ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอม และทราบว่ามีการชี้แจงจาก สสจ.บุรีรัมย์ ก็ได้ลบข่าวดังกล่าวออกไป 

‘นิว’ ยืนยัน ควรตั้งคำถาม หากบุรีรัมย์ได้รับวัคซีนมากกว่าจังหวัดที่เสี่ยงกว่า 

ปัจจุบันนิวอายุ 25 ปี เพิ่งถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี ก่อนลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา จากคดีใส่ชุดไทย และได้ประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ ส่วนคดีที่ถูกอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์กล่าวหาว่า หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เมื่อเดือนที่ผ่านมาศาลจังหวัดบุรีรัมย์ได้พิพากษายกฟ้อง

ทุกวันนี้นิวยังคงเดินทางไป-กลับ ระหว่างกรุงเทพมหานครกับบุรีรัมย์ในการต่อสู้คดีจากการใช้เสรีภาพในการแสดงออก นอกจากยังคงเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองเรียกร้องประชาธิปไตย นิวยังคงทำพวงกุญแจรำลึกมาตรา 112 และกาแฟตาสว่าง ออกจำหน่ายเพื่อใช้เป็นทุนในการต่อสู้คดี

กับคดีนี้นิวคาดหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมอีกครั้ง เคยโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นว่า  “ทำไมต้องออกมาวิจารณ์เรื่องวัคซีนในจังหวัดตัวเอง เพราะตัวเองก็พลอยได้ผลประโยชน์อยู่แล้ว (ฉีดก่อน มีสิทธิ์เลือก) คือเรามองว่าที่เราวิจารณ์คือการจัดการนั้นมีหลายอย่างที่เรารู้สึกสงสัย และเราเห็นตามสื่อโซเชียลประณามจังหวัดเราเรื่องนี้ และการที่เราเรียกร้องให้มีการเปิดเผยว่าวัคซีนที่ได้มาตอนนั้นฉีดให้ใครบ้าง ถ้ามองในด้านความจริงคือการให้จังหวัดเราได้ปกป้องตัวเอง และออกมาพูดและอธิบายในสิ่งที่หลายคนสงสัย สำหรับเรามองว่าถ้ามันไม่ถูกต้องก็ต้องพูด ไม่ใช่ปล่อยเลยตามเลย หรือนิ่งเฉยขนาดนี้”

นิวสะท้อนความรู้สึกสั้นๆ ก่อนฟังคำพิพากษาครั้งนี้ว่า เจ็บกว่านี้ก็เจอมาแล้วจากโทษตามคดีมาตรา 112 คดีนี้เลยรู้สึกสงบลงกว่าเดิม 

“คือข่าวมันออกโครมครามเรื่องจังหวัดได้วัคซีนเยอะ หนูในฐานะคนในจังหวัด ก็รู้สึกว่า เราต้องยินดีเหรอ ถ้าจังหวัดเราได้รับวัคซีนมากกว่าจังหวัดอื่นที่เสี่ยงจริงๆ มันควรเป็นการตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดสิ”

ส่วนสิ่งที่กังวลกับคดีเป็นเรื่องที่เนวิน ชิดชอบ ผู้เสียหาย เรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งถึง 1,000,000 บาท นิวเคยกล่าวว่าหากถูกตัดสินให้ชดใช้ค่าเสียหายด้วยเงินจำนวนนี้จริงๆ คงไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้ และคาดหวังว่าจะได้รับการตัดสินที่เป็นธรรมสำหรับเธอ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เนวิน ชิดชอบ แจ้งหมิ่นประมาทโดยโฆษณานักกิจกรรมบุรีรัมย์ปลดแอก หลังโพสต์วิจารณ์การจัดหาวัคซีนโควิดเข้าจังหวัด

ฟ้อง “จตุพร” นักกิจกรรมบุรีรัมย์ ฐาน “หมิ่นประมาทฯ” เนวิน ทำให้ ปชช.เข้าใจว่าเป็นคนโกง เหตุแชร์โพสต์วิจารณ์การจัดหาไฟเซอร์เข้าบุรีรัมย์  

X