เนวิน ชิดชอบ แจ้งหมิ่นประมาทโดยโฆษณานักกิจกรรมบุรีรัมย์ปลดแอก หลังโพสต์วิจารณ์การจัดหาวัคซีนโควิดเข้าจังหวัด

วันที่ 15 กันยายน 2564 “นิว” จตุพร แซ่อึง นักกิจกรรมกลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอก เดินทางไปที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา กรณีถูกเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐมนตรีหลายสมัยแจ้งความหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากการแชร์โพสต์เพจ KTUK-คนไทยยูเค 2 โพสต์ วิจารณ์การบริหารจัดการวัคซีนในจังหวัดบุรีรัมย์ 

เวลา 10.00 น. ที่ห้องสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ พ.ต.ท.ไชยา สระโสม รอง ผกก.(สอบสวน) แจ้งกับจตุพรว่า คดีนี้ พ.ต.ท.ภูวดิท ปิติภัทรชนากร รอง ผกก.สส.ภ.จว.บุรีรัมย์ รับมอบอํานาจจากเนวิน ชิดชอบ แจ้งความให้ดำเนินคดีจตุพรจากการแชร์และโพสต์เฟซบุ๊กรวม 2 โพสต์ ดังนี้

 1. เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 จตุพรแชร์โพสต์เฟซบุ๊ก เพจ KTUK-คนไทยยูเค  มีข้อความว่า 

“ประเทศบุรีรัมย์ของพ่อหลวงเนวินได้วัคซีนไฟเซอร์ไปเรียบร้อย! เจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกข่าวประกาศเองเลย…. 

ขโมยโควต้าไปไม่รู้เท่าไหร่ ข่าวไม่ได้ระบุจํานวน แต่ที่แน่ๆ บุรีรัมย์ไม่เคยพลาดเรื่องวัคซีน! ทั้งการที่จังหวัดมี วัคซีนตลอดปี ไม่เคยขาด ทั้งการได้ไฟเซอร์ไป พ่อหลวงเนวินบริหารประเทศบุรีรัมย์ได้เก่งจริงๆ 

สมแล้วที่เป็นนายทุนใหญ่แห่งพรรคภูมิใจไทย อนุทินทํางานรับใช้ให้อย่างสมพระเกียรติ สรุปแล้วผลงานของประเทศบุรีรัมย์ 1.ได้ฉีดแอสตร้าเข็มสามให้คนที่ไม่ใช่หมอ 2.ร่วมกับคมนาคม ให้น้องชาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ จัดรถไฟ ส่งผู้ป่วยกลับบ้าน 3.ได้เปิดโรงพยาบาลสนาม 4.ล่าสุดได้ไฟเซอร์ไปก่อนจังหวัดอื่นๆ ปังมาก 

ใครมันจะยังกระแดะเลือกพรรคนี้อีกในอนาคต ทั้งโกงกิน เล่นพรรคเล่นพวก คอร์รัปชั่นหน้าด้านๆ อนุทิน ศักดิ์สยาม เนวิน เล่นการเมืองบนชีวิตคนแบบไม่มีปิดบัง เหี้ยที่สุด” 

โพสต์ดังกล่าวมีภาพประกอบ จํานวน 1 ภาพ โดย มีภาพของเนวิน ชิดชอบ และอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พื้นหลังเป็นภาพขวดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยี่ห้อไฟเซอร์ มีตัวอักษรสีขาว พื้นสีดํา คําว่า “ประเทศ บุรีรัมย์ ปังอีกแล้ว!!” ด้านล่างมีตัวอักษรสีขาว กรอบสีแดง ข้อความว่า ไม่เกินคาด! วัคซีนไฟเซอร์ ไปบุรีรัมย์แล้ว แม้จะไม่ใช่พื้นที่สีแดงเข้ม แต่วัคซีนไม่เคยขาด อนุทินไม่เคยพลาด ขยันเล่นการเมืองบนชีวิตคน 

พนักงานสอบสวนตีความว่า ข้อความดังกล่าวหมายถึง เนวิน ชิดชอบ ลักหรือแอบเอาวัคซีนที่มีการกําหนดปริมาณ วางเป็นกฎเกณฑ์ไว้สําหรับผู้อื่น หรือสําหรับที่อื่นนอกจากจังหวัดบุรีรัมย์ มาให้กับจังหวัดบุรีรัมย์ รวมทั้งการได้วัคซีนไฟเซอร์มาให้กับจังหวัดบุรีรัมย์ โดยได้มาก่อนจังหวัดอื่น ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นความเท็จ ทําให้เนวินได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

ข้อความที่กล่าวหาว่า “ทั้งโกงกิน เล่นพรรคเล่นพวก คอร์รัปชั่นหน้าด้านๆ อนุทิน, ศักดิ์สยาม, เนวิน เล่น การเมืองบนชีวิตคนแบบไม่มีปิดบัง เหี้ยที่สุด” เป็นการกล่าวหา พรรคภูมิใจไทย, อนุทิน, ศักดิ์สยาม และเนวิน ผู้กล่าวหา ว่า โกงกิน เล่นพรรคเล่นพวก คอร์รัปชั่นหน้าด้านๆ เล่นการเมืองบนชีวิตคน ทําให้ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ได้รับความเสียหาย

การแชร์โพสต์ดังกล่าวของผู้ต้องหา ทําให้โพสต์กระจายไปในวงกว้างเพิ่มขึ้น ทําให้ผู้ที่พบเห็นโพสต์ดังกล่าว รู้สึกดูหมิ่นเกลียดชังเนวิน ทําให้ได้รับความเสียหาย  ตามข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา

2. เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 เช่นกัน จตุพรโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ดังนี้ 

“ใช่จ้า กูคนบุรีรัมย์ กูนี่เขินทุกครั้งที่เห็นคนในจังหวัดอวย ดีใจที่ได้วัคซีนก่อนชาวบ้านชาวช่องเขา แถมยังมีแนวคิดว่า “เขาจะเป็นยังไงก็เป็นไป แค่เขาหาวัคซีนมาฉีดให้ในจังหวัดก็พอ” อายจ้าที่พวกคุณเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้ ที่พวกคุณเลือกที่จะอิกนอร์ไม่สนหีสนแตดอะไร เพราะคุณคิดว่าคุณได้ผลประโยชน์จากการดูแลจัดหาวัคซีนในจังหวัด คุณแค่คิดว่าเรารอดก็พอ แต่พวกคุณไม่รู้หรอกว่าวัคซีนที่เขาเอามาฉีดให้พวกคุณไร้ประสิทธิภาพขนาดไหน” 

โพสต์ดังกล่าวได้นําภาพประกอบจากโพสต์ของเพจ KTUK – คนไทยยูเค ที่มีภาพของเนวิน ชิดชอบ และอนุทิน ชาญวีรกูล  และข้อความที่อยู่ในภาพ มาประกอบด้วย 

พนักงานสอบสวนตีความข้อความที่ว่า “เขาจะเป็นยังไงก็เป็นไป แค่เขาหาวัคซีนมาฉีดให้ในจังหวัดก็พอ” หมายถึงเนวิน, อนุทิน  และพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้สนใจชีวิตประชาชนในท้องที่อื่น จังหวัดอื่น เอาวัคซีนมาใช้ในจังหวัดบุรีรัมย์เท่านั้นพอ ซึ่งจะทําให้ผู้อื่นที่ไม่รู้ความจริง หรือคนที่อยู่ในท้องที่อื่น จังหวัดอื่น เกิดความดูหมิ่นเกลียดชังเนวิน, อนุทิน และ พรรคภูมิใจไทยได้ 

ข้อความที่ว่า “อายจ้าที่พวกคุณเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้ ที่พวกคุณเลือกที่จะอิกนอร์ไม่สนหีสนแตดอะไร” พนักงานสอบสวนอ้างว่าหมายถึง เนวิน ,อนุทิน และพรรคภูมิใจไทย เป็นคนเห็นแก่ตัว กล่าวหาว่าเนวินและพวกเพิกเฉย ไม่สนใจอะไร ซึ่งคําว่า “อิกนอร์”ในภาษาอังกฤษแปลว่าเพิกเฉย ไม่สนใจ ละเลย ส่วนคําว่า “ไม่สนหีสนแตด” เป็นคําพูดที่เกี่ยวกับ อวัยวะเพศหญิง เป็นการนํามาเปรียบเทียบที่ไม่สมควร ถือว่าเป็นการดูหมิ่นเนวินด้วย ทําให้ได้รับความเสียหาย

ข้อความที่ว่า “เพราะคุณคิดว่าคุณได้ผลประโยชน์จากการดูแลจัดหาวัคซีนในจังหวัด” ซึ่งคําว่าผลประโยชน์ในความหมายนี้หมายถึง ประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย อาจหมายถึงการทุจริต คอรัปชั่น ถ้อยคําดังกล่าวย่อมทําให้ผู้พบเห็นที่ได้อ่านข้อความ จะมีความดูหมิ่น เกลียดชังผู้แจ้ง ทําให้ได้รับความเสียหาย

พนักงานสอบสวนระบุอีกว่า ยังมีข้อความที่มีภาพเนวิน และอนุทิน อยู่ในโพสต์ดังกล่าวด้วย  แสดงให้เห็นว่า ถ้อยคําทั้งหมดที่จตุพรกล่าวในโพสต์ หมายถึงเนวิน, อนุทิน และพรรคภูมิใจไทย จึงทําให้เนวิน ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ได้รับความเสียหาย อันเป็นความผิดในข้อหา หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา 

อย่างไรก็ตาม เมื่อจตุพรได้รับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้ว เธอให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยพนักงานสอบสวนนัดรายงานตัวอีกครั้งวันที่ 15 ตุลาคม 2564

หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหา นิว จตุพร สะท้อนความรู้สึกว่าที่วิจารณ์และที่แชร์โพสต์อันเป็นต้นเหตุของคดีเพราะอยากรู้ว่าการได้วัคซีนไฟเซอร์ของจังหวัดบุรีรัมย์ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่สีแดง มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ส่วนตัวที่โพสต์ไม่ได้ระบุถึงเนวิน ชิดชอบ แต่พูดถึงคนทั้งจังหวัดว่าเราควรภูมิใจกับสิ่งที่ได้รับมาโดยไม่ชอบธรรมหรือไม่   และอีกประเด็นโพสต์ดังกล่าวของเพจคนไทยยูเคมีคนแชร์ในหลักหมื่นคน แต่มีเธอเพียงคนเดียวที่ถูกดำเนินคดี จตุพรกล่าวด้วยว่า “อดตั้งคำถามว่าไม่ได้ว่าคนที่เรามองว่าเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งในจังหวัดถึงเลือกใช้วิธีแจ้งข้อกล่าวหา โดยไม่มีการมาเจรจาหรือชี้แจงว่าสิ่งที่เราโพสต์นั้นไม่ใช่เรื่องจริง”

คดีนี้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนมีข้อสังเกตถึง พ.ต.ท.ภูวดิท ปิติภัทรชนากร รอง ผกก.สส.ภ.จว.บุรีรัมย์ รับมอบอํานาจจากเนวิน ชิดชอบ  โดยปกติกรณีประชาชนร้องทุกข์ให้ตำรวจดำเนินคดี หากไม่ดำเนินการเอง ก็จะมอบอำนาจให้ทนายความไปดำเนินการแทน แต่กรณีนี้ เนวิน ซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงในจังหวัดบุรีรัมย์ มอบอำนาจให้นายตำรวจมาดำเนินการแจ้งความ นอกจากจะเป็นที่ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการทำงานของข้าราชการตำรวจแล้ว ยังอาจส่งผลต่อความเป็นธรรมในการต่อสู้คดีของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นเพียงประชาชนธรรมดาเท่านั้น 

นอกจากคดีนี้ในบุรีรัมย์ นิว จตุพร ยังถูกดำเนินคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หลังถูกรักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ แจ้งความ จากกรณีโพสต์ภาพป้ายประท้วงค่าเทอมและเรียกร้องอธิการบดีที่โปร่งใสซึ่งถูกติดในมหาวิทยาลัยดังกล่าว เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2564 ซึ่งมีนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์อีก 4 รายถูกดำเนินคดีด้วย คดีอยู่ระหว่างนัดฟังคำสั่งอัยการในวันที่ 20 กันยายน 2564

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ยังมีคดีที่ประชาชนจำนวนหนึ่งถูก ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแจ้งความดำเนินคดีจากการวิจารณ์ศักดิ์สยามในช่วงโควิดแพร่ระบาดโยงกับสถานบันเทิงในช่วงเดือนเมษายน 2564 ดังนี้

ซี (นามสมมติ) พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครถูกกล่าวหาว่าใช้ทวิตเตอร์โพสต์ภาพชายคนหนึ่งขณะเที่ยวสถานบันเทิง พร้อมข้อความที่เชื่อมโยงศักดิ์สยาม โดยซีถูกพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 ก่อนอัยการบุรีรัมย์จะยื่นฟ้อง ศาลจังหวัดบุรีรัมย์นัดคุ้มครองสิทธิและตรวจพยานหลักฐานวันที่ 9 ธันวาคม 2564

ก็อต (นามมสมมติ) กราฟิกดีไซน์เนอร์ของบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หลังจากที่แชร์โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงถึงศักดิ์สยามกับสถานบันเทิง หลังอัยการมีคำสั่งฟ้อง ก็อตจะต้องเดินทางไปขึ้นศาลจังหวัดบุรีรัมย์นัดคุ้มครองสิทธิและตรวจพยานหลักฐานวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564

ชาคริต เพ็งปาน พ่อเลี้ยงเดี่ยวอายุ 45 ปี เดินทางจากอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ไปที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ หลังถูกแจ้งข้อหา ดูหมิ่นผู้อื่นด้วยการโฆษณา จากกรณีชาคริตไปแสดงความเห็นในโพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่โพสต์ภาพและข้อความเชื่อมโยงศักดิ์สยามกับสถานบันเทิงที่เป็นคลัสเตอร์ของการแพร่ระบาดโควิด-19 หลังตัดสินใจรับสารภาพ คดีของชาคริตอยู่ระหว่างนัดไกล่เกลี่ยสมานฉันท์ที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์เช่นกัน  

X