อย่าลืม 4 พล (เมือง) ดินแดง : “วัชรพล” นักศึกษา ปวส. ผู้ดิ้นรนเลี้ยงชีพเป็นไรเดอร์ และดาว Tiktok

#อย่าลืมฉัน

อาร์ม — วัชรพล นักกิจกรรมจากกลุ่มฟันเฟืองประชาธิปไตย อายุ 20 ปี ยังคงถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 2565 หลัง เข้าร่วมชุมนุม #ราษฎรเดินไล่ตู่  ที่บริเวณดินแดง ในวันที่ 11 มิ.ย. 2565 และถูกกล่าวหาว่าวางเพลิงจากเหตุที่มีรถยนต์กระบะตำรวจเกิดเพลิงไหม้ และทำให้อาร์มถูกคุมขังเป็นระยะเวลานานกว่า 4 เดือนแล้ว

ในวันที่ 13 มิ.ย. 2565 อาร์มได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง ก่อนที่ตำรวจจะขอเปลี่ยนสถานที่รับมอบตัว โดยนำตัวอาร์มไปที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)  ทั้งนี้อาร์มได้ทราบเรื่องหมายจับจากพี่ชายซึ่งเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บ้าน เขาจึงเดินทางมาเข้ามอบตัวด้วยความบริสุทธิ์ใจ และถูกควบคุมตัวอยู่ 1 คืน ก่อนที่จะถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาในวันที่ 14 มิ.ย. 2565 และศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวเรื่อยมา

ก่อนจะมาเป็นผู้ต้องขังทางการเมือง อาร์มมีพื้นเพเป็นคนจังหวัดมหาสารคาม จบการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนจะเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯ เคยประกอบอาชีพเป็นพนักงานติดรถส่งหลอดไฟ มีรายได้เฉลี่ย เดือนละ 10,000 บาท แต่ด้วยรายได้ที่กระเบียดกระเสียดไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ทั้งยังไม่มีสวัสดิการมากพอที่จะจุนเจือคนในครอบครัวได้ อาร์มตัดสินใจออกมาทำงานเป็นผู้ช่วยช่างเกี่ยวกับฝากระป๋อง ซึ่งมีรายได้ 14,000 บาท ต่อเดือน แต่ก็ทำได้เพียงสองเดือนเท่านั้นก็ต้องลาออก 

เขาบอกว่า “ผมลาออกเพราะถูกฝากระป๋องบาดมือ ตลอดที่ทำงานโดยบาดประมาณ 3 รอบได้ ผมกลัวว่าจะเกิดอันตรายอีก ก็เลยลาออกครับ” สุดท้าย ก่อนถูกดำเนินคดีนี้ เขากำลังทำงานเป็นไรเดอร์ส่งอาหาร

เนื่องจากเขาติดคุกมาเป็นระยะเวลานานแล้ว อาร์มได้เล่าผ่านทนายว่าตนเองมีรถยนต์อยู่คันหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ได้ตัดสินใจฝากพ่อขายไปเรียบร้อยแล้ว และเงินที่ขายรถได้เขาก็ให้พ่อกับแม่เก็บไว้ใช้ “แต่ถ้าได้กลับออกไปก็คงไปกลับไปขับแกร็บ หาเงินคืนพ่อแม่ เพราะทั้งสองคนต้องซื้อของมาส่งให้ตลอด ผมเกรงใจเขามากเลย”

“ตั้งแต่เล็ก พ่อกับแม่ชอบสอนให้แบ่งปันคนขอทาน คนไม่มีบ้าน ผมเห็นแม่เอาตังค์ไปให้เขาตลอดเลย พอโตขึ้น ผมเห็นคนไม่มีบ้าน ก็จะให้ตังค์ตลอด หรืออย่างเห็นคนขายของตามสี่แยกไฟแดง ถ้าผมเห็นว่าเค้าดูขายไม่ได้เลย ผมก็จะช่วยซื้อของ บางทีราคา 30-40 ผมก็ให้เค้าไป 100 เลย ก็จะบอกเค้าว่าช่วยๆ กัน ผมไม่ชอบเห็นคนลำบาก” 

นอกจากนี้ อาร์มยังได้คอยบริจาคสิ่งของ เสื้อผ้าที่เขาไม่ได้ใส่แล้วให้กับเด็กๆ น้องๆ แถวบ้านอยู่เป็นประจำ เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เขาพอจะทำได้บ้าง ถ้าให้ได้ช่วยเหลือคนอื่น เขาก็รู้สึกดีมากแล้ว

อยู่ข้างนอกก็เกือบจะได้เป็น ‘ดาว TikTok’

การใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำทำให้อาร์มคิดถึงการเล่นโซเชียลมีเดียอยู่พอสมควร เขาเล่าว่า “ตอนนี้ผมอยากเล่น อยากดู TikTok มาก คิดถึงมาก ผมมีผู้ติดตามเป็นหมื่นเลยนะ แฟนคลับเคยโอนเงินให้ผมด้วยนะ ผมเคยไลฟ์สดครั้งหนึ่งได้สูงสุด 5,000 บาท ผมก็คุยเล่น ว่าทำอะไรอยู่ คุยไปเรื่อยๆ คือมันเพลิน เล่นไปไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีเที่ยงคืนละ เล่นเฟซ จะมีแค่เพื่อนที่เห็น แต่ TikTok คนทั่วประเทศจะเห็น เขาก็จะเข้ามาคุยด้วย มีคลิปเกี่ยวกับการม็อบ ลงคลิปโดนแก๊ซน้ำตา มีคนกดหัวใจสองแสนคนเลยนะ ผมก็ดังขึ้นจากคลิปนี้แหละ”

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังเขาในวันที่ 13 มิ.ย. 2565 อาร์มเป็นคนเดียวที่ถูกฝากขังและต้องเข้าเรือนจำอย่างโดดเดี่ยวในวันนั้น เมื่อเพื่อนๆ ทยอยถูกคุมตัวเข้ามาแล้วเกิดเหตุการณ์ใช้ฝาปลากระป๋องกรีดแขนตัวเองประท้วงเพื่อทวงคืนสิทธิประกันตัว อาร์มเล่าว่ากลุ่มผู้ต้องขังทะลุแก๊สก็ได้ถูกเพ่งเล็งมากขึ้นจากทั้งผู้คุมและผู้ต้องขังคนอื่นๆ

อาร์มยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องการเรียน ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งสมัครเรียน ปวส. ที่วิทยาลัยฐานเทคโนโลยีบางบอน แต่ยังไม่ได้ทำการชำระค่าเทอมเลย กลัวว่าจะไม่มีสิทธิ์ได้เข้าเรียนตามความตั้งใจไว้ และกังวลเรื่องภาระหนี้สินของครอบครัว ซึ่งจะไปตกอยู่ที่พ่อกับแม่

ด้านความเป็นอยู่อื่นๆ ในช่วงแรกนั้นเขาเล่าว่า ห้องขังที่ 12 เมื่อมองผ่านหน้าต่างออกไปจะเห็นรถไฟฟ้าวิ่งผ่านอยู่ตลอดเวลา ทำให้เขายิ่งว้าวุ่นใจ บางวันจึงมีอาการนอนไม่หลับ โดยมักจะหลับตาลงได้หลังเวลาเที่ยงคืนเสมอ นอกจากนี้ปัญหาสำคัญที่อาร์มพบเจอในเรือนจำก็คือ น้ำดื่มไม่สะอาด เข้าใจว่าเป็นน้ำที่เรือนจำจัดไว้ให้เป็นถัง แต่ไม่นานมานี้ทุกคนเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า ในถังน้ำดื่มมี ‘ลูกน้ำยุง’ และก้นถังยังมีตะกอนจำนวนมากอีกด้วย ซึ่งพวกเขาได้เททิ้งไปแล้ว

เขายังมีประจำตัวเป็น ‘โรคหอบ’ อีกด้วย ซึ่งหากติดโควิดในเรือนจำขึ้นมาอาจมีภาวะความรุนแรงมากกว่าคนอื่นๆ

นอกจากนี้ ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา หิน อัครพล ซึ่งได้รับการประกันตัวออกไปแล้ว เคยเล่าไว้ว่านักกิจกรรมทะลุแก๊สที่ยังอยู่ในเรือนจำถูกเจ้าหน้าที่เรือนจำมาถ่ายรูปตอนที่พวกเขาทำกิจกรรมต่างๆ ในเรือนจำด้วย และไม่รู้ว่าเขาถ่ายไปเพื่อวัตถุประสงค์ใดกันแน่

อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันนี้ ศาลก็ยังคงคำสั่งเดิมและยังไม่คืนสิทธิประกันตัวให้อาร์ม โดยเขาได้บอกผ่านทนายความว่า “ผมอยากจะให้เขียนในอุทธรณ์ยื่นไปเลยว่า ศาลรู้ได้ไงว่าพวกผมทำจริง  ถึงได้มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวพวกผม  เหตุผลที่ไม่ให้ประกันก็คือกลัวพวกผมจะหนี  คือผมอยากจะถามว่า ศาลมั่นใจได้ไงว่าผมทำ  การที่ศาลทำขังพวกผมไว้อย่างนี้เท่ากับเป็นการตัดสินแล้วมั้ยอะ  มันกักขังกันเกินไป  มันเกินเวลามาเยอะแล้ว  เหตุผลที่ให้มาก็ติ๊งติ่งมาก  รู้ได้ไงว่าพวกผมจะหลบหนี”

นับจากวันที่ 13 มิ.ย. 2565 จนถึงปัจจุบันอาร์ม วัชรพล ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาเป็นระยะเวลาร่วม 100 กว่าวันแล้ว

.

X