ตำรวจ-ทหาร บุกเยี่ยมบ้านนักกิจกรรมใต้อย่างน้อย 10 ราย ทั้งในช่วงก่อน-หลัง ร.10 เสด็จมัสยิดกลางปัตตานี

จากกรณีเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2565 รัชกาลที่ 10 และพระราชินี เสด็จไปพระราชทานรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ระดับประเทศ ครั้งที่ 15 ประจำปี 2565 ณ มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี กำหนดการเสด็จครั้งนี้ส่งผลให้นักกิจกรรมในพื้นที่ภาคใต้ไม่น้อยกว่า 10 ราย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร บุกไปเยี่ยมเยียนถึงที่บ้านในช่วงก่อนการเสด็จ เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหว ทั้งที่หลายคนไม่เคยทราบว่าจะมีการเสด็จมาก่อน

.

“ตำรวจ ทหารพากันมาหาที่บ้าน บอกว่านายสั่งให้มาหา เพราะเดี๋ยว VIP จะมาปัตตานี”

“ลี” ซูกรีฟฟี ลาเตะ นักกิจกรรมในพื้นที่ปัตตานีและอดีตประธานกลุ่ม Permas เปิดเผยว่าในช่วงระหว่างวันที่ 7 – 8 ต.ค. 2565 มีตำรวจและทหารพรานจำนวนรวมกันประมาณ 10 – 12 นาย พร้อมด้วยอาวุธปืนทั้งขนาดสั้นและยาว มาหาเขาที่บ้าน โดยใช้ยานพาหนะคือรถกระบะสี่ประตู 2 คัน และรถมอเตอร์ไซค์อีก 2 คัน 

ลีเล่าว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่มาหา เขาออกไปทำธุระข้างนอกจึงไม่ได้เจอกับเจ้าหน้าที่โดยตรง และต่อมาในวันที่ 8 ต.ค. เจ้าหน้าที่กลับมาที่บ้านอีกครั้ง เขาจึงได้เข้าไปสอบถามถึงสาเหตุการมาในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นรองสารวัตรสอบสวน สภ.ยะหริ่ง แจ้งว่า “นาย” สั่งการให้มาหา เพราะเร็วๆ นี้ จะมี “VIP” มาที่จังหวัดปัตตานี 

นอกจากนี้ ลียังบอกอีกด้วยว่าในช่วงเวลาเดียวกัน ได้มีตำรวจไปที่บ้านเพื่อนของเขาซึ่งเป็นนักกิจกรรมอยู่ใน จ.นราธิวาส และวานนี้ (9 ต.ค. 2565) ที่หน้าบ้านของลีเองก็ยังคงปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งมาขับรถวนเวียนอยู่ คาดว่าเพื่อเฝ้าระวังและติดตามความเคลื่อนไหวของเขา

.

“ตำรวจบอกว่ามาเยี่ยม แต่ทุกคนพกปืน บ้างก็ปืนสั้น บ้างก็ปืนยาวแบบอาวุธสงคราม บางคนใส่หมวกไอ้โม่งด้วย”

อารีฟีน โสะ อดีตนักกิจกรรมกลุ่ม Permas วัย 29 ปี เปิดเผยว่าในวันที่ 7 ต.ค. 2565 มีตำรวจจาก สภ.ยะหริ่ง จำนวน 12 นาย มาหาที่บ้าน ทั้งหมดมาพร้อมกับอาวุธปืนทั้งขนาดสั้นและยาว โดยเจ้าหน้าที่บางคนสวมใส่เสื้อเกราะกันกระสุนมาด้วย ขณะที่บางคนก็สวมหมวกโม่งแบบคลุมทั้งศีรษะ 

ในวันดังกล่าวนั้น อารีฟีนเล่าว่าเขาไม่อยู่ที่บ้าน ดังนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่บ้านจึงได้เจอและพูดคุยกับพ่อของเขาอยู่ประมาณ 20 นาที โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามาเยี่ยมหา เพราะได้รับคำสั่งจาก “นาย” ให้มา 

โดยปกติแล้วพ่อของอารีฟีนจะคุ้นเคยกันกับตำรวจที่มาเยี่ยมบ้านในครั้งก่อนๆ แต่สำหรับครั้งนี้ เข้าใจว่าเป็นกลุ่มใหม่ที่อาจจะเพิ่งย้ายมาใหม่ และด้วยเหตุนี้ทำให้สมาชิกในบ้าน รวมถึงเพื่อนบ้านค่อนข้างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อารีฟีนให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นอกจากตัวเขาแล้ว ยังทราบว่ามีเพื่อนนักกิจกรรมอีกอย่างน้อย 4 ราย ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหาถึงที่บ้าน โดยเป็นบัณฑิตจบใหม่จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 2 ราย และเป็นนักกิจกรรมใน จ.ยะลา อีก 2 ราย

สำหรับสาเหตุของการถูกตำรวจมาหาหรือมาเยี่ยมบ้านคราวนี้ ทั้งอารีฟีนและเพื่อนๆ นักกิจกรรมต่างเข้าใจว่าเป็นผลมาจากการเสด็จมามัสยิดกลาง จ.ปัตตานี ของรัชกาลที่ 10 และพระราชินีในวันที่ 9 ต.ค. 2565 โดยเป็นการติดตามกลุ่มที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมือง อย่างกรณีของซูกรีฟฟีและอารีฟีนก็เป็นนักกิจกรรมที่ถูกดำเนินคดีจากการร่วมคาร์ม็อบในจังหวัดปัตตานีด้วย

นอกจากนี้ อารีฟีนยังบอกอีกว่าในวันนี้ (10 ต.ค. 2565) มีตำรวจไม่ทราบสังกัดไปถามหาแฟนสาวของเขาถึงที่บ้านในจังหวัดยะลา ซึ่งสำหรับกรณีนี้ก็ยังไม่ทราบว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ไปด้วยสาเหตุใด เพราะผ่านการเสด็จมาแล้ว

.

“ตำรวจมาหาที่บ้าน 2 ครั้ง เขาบอกมาเยี่ยมเพราะคิดถึง ไม่ยอมบอกว่าจะมีคนสำคัญมาในพื้นที่”

“ฟี” อดีตนักกิจกรรมกลุ่มสลาตัน ให้ข้อมูลว่า ในวันที่ 7 – 8 ต.ค. 2565 มีตำรวจนอกเครื่องแบบ 5 นาย จาก สภ.ยะรัง มาหาที่บ้าน โดยตำรวจนายหนึ่งถือปืน M16 ที่เป็นอาวุธสงครามมาด้วย ขณะที่อีก 4 นายก็มีปืนพกขนาดสั้นเหน็บอยู่ที่เอว และมีนายหนึ่งสวมเสื้อเกราะกันกระสุน  

ตำรวจกลุ่มนี้ได้มาที่บ้านของฟี 2 ครั้ง ครั้งแรกมาเมื่อวันที่ 7 ต.ค. เวลาประมาณบ่ายสามโมง และมาอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 8 ต.ค. เวลาประมาณบ่ายสองโมง

ฟีเล่าว่าตำรวจมาที่บ้านเขาครั้งแรกในวันที่ 7 ต.ค. 2565 เวลาประมาณบ่ายสามโมง ซึ่งตอนนั้นเขาไม่อยู่บ้าน ตำรวจจึงมาสอบถามกับพ่อว่า ฟีอยู่บ้านหรือไม่ และตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งพ่อของฟีถามกลับไปว่ามีเรื่องอะไร ทำไมต้องมาถามหา ทางตำรวจก็ตอบกลับมาเพียงว่า มาเยี่ยมเพราะ “คิดถึง” ทั้งนี้ ฟีระบุว่าทั้งพ่อและตัวเขาเองรู้จักกันกับนายตำรวจคนดังกล่าวอยู่แล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็พากันกลับไป โดยบอกด้วยว่าจะมาอีกครั้งในตอนเช้าของวันพรุ่งนี้

ต่อมาในวันที่ 8 ต.ค. 2565 เวลาประมาณบ่ายสองโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเดิมได้กลับมาที่บ้านของฟีอีกครั้ง และเมื่อพูดคุยกันทางตำรวจก็บอกกับฟีอย่างเดียวกับที่บอกพ่อของเขาว่า มาเยี่ยมหาเพราะ “คิดถึง” 

ก่อนที่ฟีจะไล่สอบถามไปจนได้ความว่า ที่ตำรวจมาหาที่บ้านเพราะในวันที่ 9 ต.ค. 2565 จะมีการเสด็จของรัชกาลที่ 10 และพระราชินี มายังมัสยิดกลาง จ.ปัตตานี ทั้งยังมีการลงพื้นที่ของ ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ที่โรงเรียนใกล้บ้านของฟีในวันเดียวกันด้วย โดยเขาไม่เคยทราบกำหนดดังกล่าวมาก่อน หากเจ้าหน้าที่ไม่แจ้ง

อย่างไรก็ดี ฟีกล่าวว่าโดยส่วนใหญ่แล้วการที่ตำรวจ และโดยเฉพาะทหาร ไปเยี่ยมบ้านนักกิจกรรมพร้อมอาวุธครบมือนั้นเรียกว่าเป็นเรื่องปกติของพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ เพราะมีข้อกฎหมายที่รองรับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้อำนาจในลักษณะดังกล่าวได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด

สำหรับกรณีของเขาในครั้งนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ข่มขู่หรือใช้ความรุนแรง เพียงแต่มาบอกไม่ให้ทำกิจกรรมใดๆ ในวันที่จะมีบุคคลสำคัญลงพื้นที่ 

ทั้งนี้ ฟียังบอกอีกว่ารูปแบบการไปหาหรือไปเยี่ยมบ้านที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงมักเลือกใช้กับนักกิจกรรมก็จะมีตั้งแต่การขอร้อง การข่มขู่ ตลอดจนการเรียกหรือพาตัวไปสอบในค่ายทหาร

และสำหรับการถูกเยี่ยมบ้านในคราวนี้ ฟีเผยว่านอกจากตัวเขาแล้วยังมีนักกิจกรรมใน อ.ยะรัง อีก 2 รายที่โดนเช่นเดียวกัน เพียงแต่ทั้งสองไม่อยู่บ้าน จึงไม่ได้เจอกับเจ้าหน้าที่โดยตรง 

.
อย่างไรก็ดี อาเต็ฟ โซ๊ะโก ประธานองค์กร The Patani ที่เป็นภาคประชาสังคมในพื้นที่ โพสต์รายงานสถานการณ์การคุกคามนักกิจกรรมภาคใต้ในช่วงก่อนการเสด็จ จ.ปัตตานี ว่าทราบข้อมูลว่ามีนักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวเรื่องประชาธิปไตย มากกว่า 10 ราย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหาที่บ้าน ทั้งที่บางคนยังไม่รู้ด้วยว่าจะมีในการเสด็จในครั้งนี้ด้วย

.

X