เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2565 ทนายความได้เดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าเยี่ยม พรชัย ยวนยี หรือ “แซม ทะลุฟ้า” ที่ยังคงถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นเวลานานเกือบ 3 เดือนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค. 2565 โดยถูกกล่าวหาในข้อหาตามมาตรา 112 ว่าเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติ บริเวณหน้าโรงเรียนราชวินิตมัธยม ระหว่างการชุมนุมครบรอบ 15 ปี รัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2564
เนื่องในวันครบรอบเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เหตุการณ์ประวัติการณ์ทางการเมืองที่มีนักศึกษาและประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก จากการสังหารและปราบปรามอย่างทารุณของของกำลังกึ่งทหารและขบวนการฝ่ายขวา ที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และท้องสนามหลวง
แซมได้ฝากข้อความและบทกวีถึง ‘พี่’ วีรชน 6 ตุลาฯ ในฐานะ ‘น้อง’ ที่ได้รับความอยุติธรรมจากมรดกของเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ และถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำนานเกือบ 2 เดือนแล้ว และ ‘น้อง’ ที่ได้รับถ่ายทอดสำนึก ‘คนเท่ากัน’ อย่างเข้มข้มข้ามกาลเวลามาจนเป็นแซมทะลุฟ้าอย่างทุกวันนี้
_________________________________
46 ปีแล้วนะครับพี่ จากรุ่งสางเช้าวันนั้น
วันที่มนุษย์กระทำการป่าเถื่อน โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง ทารุณกรรม เข่นฆ่า สังหาร ด้วยเลือดเย็น หลักฐานภาพถ่ายพิสูจน์ได้ว่าผู้กระทำไม่ใช่มนุษย์ กระทั่งวันนี้พุทธศักราช 2565 แล้ว ฟ้าก็ยังมืดมิดดั่งเช่นเดิม ฟ้ายังคงเหลื่อมล้ำทุกข์ทั่วหัวระแหงเช่นเดิม
หนักเข้า คือ พุ่งขึ้นอันดับ 1 ของโลกครับพี่ ยังคงกดขี่คนยากจนเช่นเดิม ประชาธิปไตยหายสาบสูญเช่นเดิม เหล่านี้ยังคงเป็นเครือข่ายอำนาจเผด็จการกลุ่มเดิมที่เข่นฆ่าพี่ในวันนั้น พวกมันอ้วนพีเติบใหญ่ ได้ยศถาบรรดาศักดิ์กันทั่วหน้า ประวัติศาสตร์บ้านเรายังคงเป็นประวัติศาสตร์ความรุนแรงที่กระทำต่อผู้แสวงหาความเท่าเทียมเช่นเดิม ทั้งเข่นฆ่า สังหาร อุ้มหาย ซ้อมทรมาน หรือสั่งขัง โดยใช้กระบวนการยุติธรรมเล่นงาน
โดยไม่เคยเห็นพวกมันเหล่านี้ต้องรับโทษ ถูกขึ้นศาลพิจารณาเลยสักคนเลยครับพี่ มีแต่พวกเราที่ถูกขึ้นศาลพิจารณาลงโทษด้วยกฎหมายที่พวกมันบรรจงเขียนเพื่อทำลายล้างพวกเรา ดั่งเช่นประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ถูกพวกมันแก้ไขบทลงโทษให้หนักขึ้น หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 ผ่านไปไม่นาน โดยรัฐบาลที่เผด็จการแต่งตั้ง โดยถูกใช้กับเพื่อนๆ ของพี่ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่อย่าง “อยุติธรรม”
พวกมันคงอยากฆ่าพวกเราให้หมดเสียจริงๆ เพราะกระทั่งปัจจุบันแล้ว มรดกของพวกมันอย่างมาตรา 112 ยังคงถูกเอามาใช้กับเพื่อนคนรุ่นใหม่เช่นเดิม มีคนถูกฟ้องเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์
พี่ๆ ครับ ถึงแม้น้องคนนี้จะไม่เคยรู้จักพี่เป็นการส่วนตัว แต่อุดมการณ์ของพี่ๆ ที่ใฝ่ฝันอยากเห็นคนเท่ากันก็ยังคงตราตรึงอยู่ในห้วงสำนึกของน้องคนนี้เสมอมา รวมถึงหลายคน หลายกลุ่ม หลายขบวนการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม ทั้งในอดีตกระทั่งจวบจนปัจจุบัน
การกระทำของพี่ๆ เป็นเส้นทางหนึ่งที่ทอดยาวให้คนรุ่นหลังอย่างผมและขบวนการต่อสู้คนรุ่นใหม่ก้าวเดินต่อไป เคลื่นไหวเรียกร้อง ต่อสู้กับเผด็จการต่อไป มันต้องมีสักวันที่เป็นของเราใช่มั้ยครับพี่…
ปีนี้ไม่มีดอกไม้ พวงหรีดไปมอบให้เหมือนปีก่อนๆ นะครับ เพราะติดคุกอยู่ด้วยน้ำมือเผด็จการ แต่คงมีเพื่อนๆ ของพี่ๆ ป้าๆ ลุงๆ เพื่อน พี่ น้องของผม คนรุ่นใหม่และคนรักความเป็นธรรม รักประชาธิปไตยไปมอบให้พี่ๆ เฉกเช่นทุกปีนะครับ
ด้วยรักและเคารพ
เพิ่มเติม: หลังเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ได้เพียงไม่กี่วัน คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินได้แก้ไขกฎหมายประมวลอาญา มาตรา 112 โดยเปลี่ยนแปลงโทษที่จากเดิมระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี เป็นระวางโทษจำคุก 3-15 ปี อาจเรียกได้ว่านี่คือมรดกจากเหตุการณ์ 6 ตุลาที่ยังคงตกมาถึงคนในยุคสมัยนี้ก็ว่าได้
เรื่องที่เกี่ยวข้อง