ยกฟ้องคดี 2 ประชาชนถูกกล่าวหาร่วม “คาร์ม็อบสัญจร ยื่นหนังสือทะลุโลก” ศาลชี้พยานหลักฐานไม่เพียงพอเชื่อได้ว่าจำเลยไปชุมนุม

วันที่ 5 ก.ย. 2565 ที่ศาลแขวงดุสิต เวลา 09.30 น. ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีของ ธารา (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี และ เสรัฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี สองจำเลยซึ่งถูกฟ้องในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ หลังการร่วมชุมนุมทำกิจกรรม “คาร์ม็อบสัญจร ยื่นหนังสือทะลุโลก” ของกลุ่มทะลุฟ้า โดยการขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นกลุ่มประมาณ 20 คัน เร่งเครื่องยนต์ส่งเสียงดัง ขว้างปาสิ่งของ และทุบทำลายป้อมตำรวจ ในวันที่ 20 ส.ค. 2564 บริเวณแยกเกียกกายหน้ารัฐสภา ซึ่งในขณะนั้นเป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

ย้อนอ่านเหตุการณ์การจับกุมเพิ่มเติม >>> จับแล้วจับอีก! #ม็อบ20สิงหา จับเด็กและเยาวชน 19 ราย ผู้ใหญ่อีก 7 จากหลายจุด เด็ก 2 คน ถูกยิงด้วยกระสุนยาง ยังรักษาตัวอยู่ รพ. 

ในคดีนี้ ในวันเกิดเหตุ ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมจำเลยทั้ง 2 ได้มีการจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งเป็นเยาวชน จำนวน 5 คน ซึ่งตำรวจระบุว่าได้ขับรถจักรยานยนต์มาบริเวณแยกเกียกกาย และลงจากรถมาขว้างปาสิ่งของใส่กล้องจราจร โดยการยิงหนังสติ๊กและลูกแก้วใส่กล้องจราจร ตำรวจได้ควบคุมตัวเยาวชนทั้ง 5 ไปที่ สน.บางโพ หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง จำเลยทั้ง 2 จึงจะขับรถจักรยานยนต์มาติดที่สี่แยกไฟแดง บริเวณแยกเกียกกาย โดยจำเลยที่ 1 หรือธารา เป็นผู้ซ้อน และมีจำเลยที่ 2 หรือเสรัฐ เป็นผู้ขับ ซึ่งถูกติดตามควบคุมตัวไปที่ สน.บางโพ ด้วย

ภายหลังผู้ต้องหาทั้งหมด ถูกนำตัวไปที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) โดยทั้ง 7 คน ถูกแจ้งข้อหาว่าร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลรวมกันมากกว่า 5 คน และร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

.

ศาลพิพากษายกฟ้อง ชี้พยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์ไม่น่าเชื่อถือ และไม่เข้าข่ายการรวมกลุ่มทำกิจกรรมเกินกว่า 5 คน

ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 408 เวลา 10.23 น. ผู้พิพากษาอ่านคำพิพากษายกฟ้อง มีใจความโดยสรุปว่า จากพยานหลักฐานของตำรวจ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยทั้ง 2 มีความเกี่ยวข้องกับเยาวชนทั้ง 5 ที่ถูกจับไปก่อนหน้าบริเวณแยกเกียกกาย 

พยานโจทก์ไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าการแต่งกายของจำเลยทั้ง 2 สอดคล้องกับการแต่งกายของกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่าจำเลยที่ 2 ถูกยิงโดยกระสุนยางจากการสลายการชุมนุม ไม่ปรากฏภาพถ่ายของจำเลยทั้ง 2 ในที่ชุมนุมหรืออยู่ในกลุ่มที่ชุมนุมกับเยาวชนทั้ง 5 และพวก

อีกทั้ง ฝ่ายโจทก์จึงไม่มีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่าจำเลยทั้ง 2 ร่วมกันชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมขว้างปาสิ่งของหรือทำลายทรัพย์สินที่ป้อมตำรวจและทรัพย์สินอื่นที่แยกเกียกกาย จึงยังไม่อาจพิจารณาว่าจำเลยทั้ง 2 ได้ทำกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่กระจายโรค กรณีนี้ไม่มีความจำเป็นต้องวินิจฉัยในประเด็นอื่น พิพากษายกฟ้อง

คดีนี้นับเป็นคดีที่ 25 แล้ว ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในคดีจากการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ช่วงปี 2563 เป็นต้นมา และเป็นคดีคาร์ม็อบคดีที่ 11 ที่ถูกยกฟ้อง (เท่าที่ทราบข้อมูล : ดู สถิติคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ศาลยกฟ้อง-อัยการสั่งไม่ฟ้อง)

.

X