เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รับรายงานจาก “ฟ้า — อภิชญา” สมาชิกเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช คุกคามถึงบ้านที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ ซึ่งตัวเธอไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยมานานแล้ว
ฟ้าเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่เคยเข้าร่วมในการชุมนุมคณะราษฎรอีสาน เพื่อรอการชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2563 ทำให้เธอถูกจับกุมดำเนินคดีไปด้วย พร้อมกับกลุ่มผู้ชุมนุมราว 20 คน โดยเป็นคดีเดียวที่เธอถูกกล่าวหา
นอกจากนี้ ยังมีกรณีของนักกิจกรรมเยาวชน 2 ราย “อันนา” เยาวชนอายุ 16 ปี และ “พิงค์” เด็กหญิงอายุ 13 ปี ที่เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 101 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา ของสมเด็จพระพันปีหลวง ราชินีในรัชกาลที่ 9 ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมและลากตัวออกนอกพื้นที่จัดกิจกรรมอีกด้วย
.
นักกิจกรรมจากเครือข่ายรามคำแหงฯ ถูกคุกคามถึงบ้านต่างจังหวัด ที่มีเพียงผู้สูงอายุอาศัยอยู่
เมื่อเวลา 21.04 น. เฟซบุ๊กเพจ เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2565 ตำรวจจาก สภ.ร่อนพิบูลย์ ได้เดินทางไปที่บ้านของ “ฟ้า” อภิชญา สมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มซึ่งอยู่ที่ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช โดยเป็นบ้านที่มีเพียงผู้สูงอายุ คือยายของฟ้าอาศัยอยู่เท่านั้น โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามขอเบอร์โทรศัพท์ของฟ้าจากยาย และเมื่อไม่ได้ก็พูดจาข่มขู่ทำนองว่า “หลานจะมีอนาคตไม่ดี” และ “เดี๋ยวจะไม่มีงานทำ”
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ต่อว่ายายของฟ้าด้วยอีกว่า “ไม่สั่งสอนหลาน” รวมทั้งกล่าวหาฟ้ากับยายด้วยว่ามีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของสถาบันฯ
สาเหตุการเข้าสอบถามและคุกคามดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ยังไม่ทราบแน่ชัด นอกจากนั้นช่วงที่ผ่านมา เธอไม่ได้แสดงออกที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ แต่อย่างใด
ทางเพจได้ระบุด้วยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมิใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2563 ภายหลังจากฟ้าได้รับการปล่อยตัวจากทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองและถูกจับในวันที่ 13 ต.ค. 2563 นั้น ปรากฏว่ามีตำรวจไปที่บ้านยายของฟ้าหลายครั้ง รวมทั้งมีการข่มขู่ยายของฟ้าด้วย
.
อันนา — พิงค์ นักกิจกรรมเยาวชนเข้าร่วมพิธีถวายพระพร ที่ท้องสนามหลวง ตำรวจแจ้งเป็นกิจกรรมเฉพาะ VIP ก่อนถูกควบคุมตัวออกจากพื้นที่
เวลาประมาณ 07.00 น. อันนา และ พิงค์ นักกิจกรรมเยาวชนได้เดินทางเข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 101 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 ปี สมเด็จพระพันปีหลวง
ทั้งนี้ ในพิธีดังกล่าวประกอบไปด้วย นายกรัฐมนตรีและภริยาพร้อมคณะองคมนตรี (ครม.) คณะรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา และข้าราชการระดับสูง โดยนักกิจกรรมทั้งสองได้เดินทางไปเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทำบุญดังกล่าว และขอเข้าพบประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา
ต่อมา อันนาได้เจรจาเพื่อขอเข้าพื้นที่ โดยบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าอยากเข้าร่วมทำบุญกับคณะรัฐบาล แต่ได้รับแจ้งจากตำรวจในงานพิธีว่าไม่สามารถให้เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวได้ เนื่องจากตอนนี้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมเฉพาะกลุ่ม VIP เท่านั้น ตลอดจนได้คอยติดตามและจับตาความเคลื่อนไหวของทั้งสองตลอดเวลา แม้พวกเธอจะไม่ได้แสดงพฤติกรรมการแสดงออกหรือสร้างความวุ่นวายแต่อย่างใด ในขณะที่อยู่บริเวณดังกล่าว
หลังการเจรจาไม่สำเร็จ และอันนายืนยันที่จะอยู่ในบริเวณพิธีการต่อไป ตำรวจจาก สน.ชนะสงครามจึงได้ควบคุมตัวโดยการลากเธอให้ออกจากพื้นที่ ก่อนจะนำตัวขึ้นรถตำรวจและพาออกไปจากสนามหลวง
อันนาได้เปิดเผยว่าในระหว่างที่ถูกกันออกจากบริเวณพิธีการนั้น เธอถูกตำรวจยึดโทรศัพท์ไปในขณะที่ไลฟ์สดอยู่ ก่อนจะคืนโทรศัพท์เธอในภายหลังที่ได้ออกจากพื้นที่แล้ว ซึ่งอันนาระบุว่า การยึดโทรศัพท์ของเธอไม่มีหมายค้นและไม่ทราบสาเหตุอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม อันนา และ พิงค์เป็นนักกิจกรรมเยาวชนซึ่งอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิทางการเมืองและสิทธิของนักเรียนอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยทั้งสองเป็นหนึ่งในนักกิจกรรมที่มีรายชื่อติดอยู่ใน ‘บุคคลเฝ้าระวังพิเศษ’ และเป็นภัยความมั่นคงของรัฐฯ ตลอดจนเป็นนักกิจกรรมที่เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบและตำรวจติดตามคุกคามมากที่สุดในรอบปีที่ผ่านมานี้ อีกด้วย
.
อ่านเรื่องราวของอันนา นักเรียนเลว >>> ‘อันนา นักเรียนเลว’ เยาวชนหญิง วัย 16 ปี กับการตระหนักรู้ทางสิทธิและเสรีภาพของนักเรียนไทย
อ่านเรื่องราวของพิงค์ เด็กหญิงอายุ 13 >>> ‘พิงค์’ เด็กหญิงวัย 13 ปี ผู้เป็นภัยความมั่นคง กับความฝันที่อยากเห็นคนเท่ากันในสังคมไทย