บันทึกเยี่ยมบุ้ง-ใบปอ: “ไม่ควรใช้มาตรา 112 เป็นเครื่องมือปิดปากใคร ไม่ว่านักการเมืองหรือประชาชน”

วานนี้ (17 มิ.ย. 2565) เราแจ้งบุ้งและใบปอว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวทั้งสองคนอีกครั้ง โดยมีคำสั่งว่า “พิเคราะห์คำร้องประกอบแล้วยังไม่มีพฤติการณ์ใหม่ที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงให้ยกคำร้อง” ทั้งสองมองหน้ากันเพราะคาดเดาอยู่ว่าศาลจะมีคำสั่งว่าอย่างไร

นอกจากนั้นเราได้พูดคุยถึงกรณีที่ทั้งสองไปพบแพทย์ของสถานพยาบาล และแพทย์ได้กล่าววาจาคุกคาม เสียดสีใบปอ จนทั้งสองคนได้ทำบันทึกแจ้งทางเรือนจำว่าจะปฏิเสธการรักษาและเรียกร้องความรับผิดชอบจากแพทย์และทางเรือนจำ

ทั้งสองคนแจ้งว่าในวันถัดมานั้น บุ้งยังไม่ทราบว่ามีการดำเนินการใดๆ หรือไม่ เพียงแต่ปกติจากเดิมที่พยาบาลจะมาตรวจร่างกายพวกเธอในช่วงเช้า แต่ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนที่ทนายความได้เข้าเยี่ยมช่วงบ่าย ยังไม่มีพยาบาลเข้ามาตรวจร่างกายตามปกติ มีเพียงการชั่งน้ำหนักเพียงอย่างเดียวอย่างไรก็ตามทั้งสองยังยืนยันว่าจะไม่รับการรักษาใดๆ จนกว่าทางแพทย์หรือเรือนจำจะดำเนินการใดๆ เพื่อรับผิดชอบในเรื่องนี้

ส่วนอาการของทั้งสองคนในวันนี้ยังมีอาการทรงๆ แต่พอไม่ได้ทานยาแล้ว บุ้งก็มีอาการปวดท้องมากขึ้น เพราะบุ้งเองทานแต่น้ำเปล่ามาตั้งแต่วันอาทิตย์แล้ว เนื่องจากไม่สามารถทานนมหรือน้ำหวานได้ บุ้งจึงแสบท้องอยู่ตลอดเวลา พยายามนอน มีอาการตาพร่า หากมองระยะไกลจะไม่เห็นว่าเป็นอะไรแล้ว บุ้งยังตั้งข้อสังเกตว่า เธอปัสสาวะเป็นสีน้ำตาลเข้มคล้ายซุปไก่สกัดมาสองถึงสามวันแล้ว บุ้งยังขอให้หาข้อมูลว่าหากทานน้ำเพียงอย่างเดียวโดยทั่วไปมนุษย์จะมีชีวิตได้นานเท่าไหร่

ด้านใบปอยังมีอาการเพลีย น้ำหนักลด และเริ่มเห็นกระดูก “แต่พี่บุ้งซูบลงมาก” ใบปอยังกลับไปพูดถึงอาการของเพื่อน นอกจากนี้ใบปอยังมีอาการเหงือกบวมตรงที่เคยผ่าฟันคุด และตอนแปรงฟันก็ยังคงมีเลือดออกอยู่บ้าง

บุ้งและใบปอยังกังวลว่าในสัปดาห์หน้า “ครบกำหนดอยู่ในแดนแรกรับ จะต้องย้ายไปอีกแดนซึ่งจะอยู่แออัด และอาจจะใช้ชีวิตยากขึ้นเพราะต้องวิ่ง ต้องซักผ้า ถึงแม้เราจะเจอเรื่องยากในเรือนจำ แต่เรา 2 คนยังมั่นคงเหมือนเดิม เลิกคุมขังเรา เราต้องการออกไปสู้คดี”

หลังจากนั้นเรายังอัพเดทสถานการณ์ว่า ตอนนี้มีเวหา แสนชนชนะศึก ผู้ต้องหาคดี 112 ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพิ่มอีกหนึ่งคน ส่วนคดี Lazada ได้ประกันตัวทั้งสามคน ขณะที่ อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล ได้รับหมายเรียกมาตรา 112 และยังมีการดำเนิคดีกับทะลุแก๊ซเพิ่มอีก

ทั้งบุ้งและใบปอเป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและฝากข้อความมาว่า

“จากที่เราทราบว่ามีการดำเนินคดี อ.ปิยบุตร และเคส Lazada เราเป็นห่วงทุกคนมาก ไม่อยากให้ใครต้องเข้ามาในเรือนจำอีก การโดนมาตรา 112 สร้างภาระ ความเหนื่อยทั้งร่างกายและจิตใจ เสียเงิน เสียเวลาเดินทางไปศาล ค่าเสียโอกาส ไม่ควรใช้มาตรา 112 เป็นเครื่องมือปิดปากใคร ไม่ว่านักการเมืองหรือประชาชน อยากให้พรรคการเมืองพูดถึงมาตรา 112 ให้มากขึ้น เพราะนักการเมืองก็ถูกดำเนินคดี 112 ธนาธร ปิยบุตรก็โดน ”

“อยากพูดถึงทะลุแก็ซ ทะลุแก๊ซเขาแสงน้อย พอทราบว่าเขาถูกดำเนินคดีและเข้ามาในเรือนจำอีก 1 คน ก็เป็นห่วง ขอให้เข้มแข็ง ถ้าได้ออกไปก็จะพยายามช่วยให้เขาได้ออกเช่นกัน”

ย้อนอ่านสถานการณ์ของบุ้งและใบปอก่อนหน้านี้

บุ้ง-ใบปอ ประกาศปฏิเสธการรักษาจากทางเรือนจำ ขณะแม่ส่งจม.ถึงลูก “แม่รอพี่บุ้งทุกครั้งที่มีการขอประกัน”