ศาลอาญากรุงเทพใต้ให้เบิกตัว “บุ้ง-ใบปอ” มาศาลพรุ่งนี้ หลังร้องขอหารือประเด็นสู้คดี เหตุไม่สามารถพบหารือทนายเป็นการเฉพาะตัว

วันที่ 8 มิ.ย. 2565 ทนายความได้ยื่นคำร้องทางระบบออนไลน์ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ขอให้เบิกตัว “บุ้ง” เนติพร และ “ใบปอ” สองสมาชิกกลุ่มทะลุวัง ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง มาที่ศาลในวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) เพื่อปรึกษาหารือในการเตรียมนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน ในคดีที่ทั้งคู่ถูกกล่าวหาในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากกรณีร่วมทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จที่บริเวณห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 ต่อมาศาลมีคำสั่งอนุญาตให้เบิกความทั้งสองคนมาศาลได้

ในคดีนี้พนักงานอัยการได้สั่งฟ้องจำเลย 8 คน ต่อศาลไปเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา โดยมีบุ้งและใบปอถูกศาลสั่งถอนการประกันตัวในชั้นสอบสวนมาตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 2565 แม้จะยื่นประกันตัวใหม่มาแล้ว 3 ครั้ง โดยที่ครั้งล่าสุด แม้อัยการจะสั่งฟ้องโดยที่ไม่ได้ระบุคัดค้านการประกันตัว แต่ศาลก็ยังคงไม่อนุญาตให้ประกันตัว

>> ยื่นฟ้อง “ม.112 – ม.116” 8 นักกิจกรรม – สื่ออิสระ แล้ว กรณีทำ “โพลขบวนเสด็จ” ที่พารากอน ก่อนศาลต่อประกัน 6 ราย โดยติด EM แต่ยังไม่ให้ประกัน “ใบปอ – บุ้ง” จากกลุ่มทะลุวัง

การยื่นคำร้องในวันนี้ ระบุโดยสรุปว่าแม้จำเลยยังไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว แต่ทั้งสองคนยังมีสิทธิในการต่อสู้คดีอย่างที่ แต่เนื่องจากการถูกคุมขังเอาไว้ ทำให้จำเลยทั้งสองไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว โดยทั้งสองถูกคุมขังไว้ร่วมกับผู้ต้องขังอื่นที่คดีถึงที่สุดแล้ว ไม่สามารถพบปะปรึกษาหารือกับทนายความได้เป็นการเฉพาะตัว เพราะระเบีบบการเยี่ยมของทัณฑสถานหญิงกลางกำหนดให้ทนายความเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น ทำให้เกิดข้อจำกัดมากมาย ทั้งด้านสัญญาณอินเทอร์เน็ต เสียงแทรกระหว่างการสนทนา เนื่องจากผู้ต้องขังรายอื่นๆ ก็มีการเยี่ยมผ่านระบบนี้เช่นกัน

นอกจากนั้นการสื่อสารระหว่างทนายความกับจำเลยทั้งสองยังถูกรับฟัง ถูกบันทึกภาพหรือเสียงระหว่างสนทนาไว้โดยเจ้าพนักงานเรือนจำ และในระหว่างการปรึกษาหารือ จะมีเจ้าพนักงานเรือนจำร่วมอยู่กับทั้งสองอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถปรึกษาหารือกับทนายความได้เป็นการเฉพาะตัว ทำให้จำเลยทั้งสองเสียสิทธิในการต่อสู้คดี และเป็นการละเมิดบทบัญญัติของกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาอย่างชัดเจน

เนื่องจากศาลได้นัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานในคดีของจำเลยทั้งสองในวันที่ 18 ก.ค. 2565 จึงมีเหตุจำเป็นที่จำเลยทั้งสองและทนายความต้องปรึกษาหารือแนวทางการต่อสู้คดี รวมทั้งตรวจสอบพยานหลักฐานของฝ่ายจำเลย จึงขอให้ศาลมีคำสั่งเบิกตัวจำเลยทั้งสองมาปรึกษาหารือกับทนายความเป็นการเฉพาะตัว และได้มีโอกาสในการตรวจสอบพยานหลักฐาน พยานวัตถุ และตระเตรียมพยานบุคคลในวันที่ 9 มิ.ย. 2565 โดยขอให้ศาลจัดห้องสำหรับปรึกษาคดีอย่างเป็นการเฉพาะตัวไว้ด้วย

ต่อมาในช่วงเย็น ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้มีคำสั่งอนุญาตให้เบิกตัวจำเลยทั้งสองมาศาลตามคำร้อง ในช่วงเวลาตั้งแต่ 9.30 – 16.00 น.

ขณะนี้ทั้งบุ้งและใบปอ ยังได้เริ่มอดอาหารภายในเรือนจำมาตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. 2565 รวมเป็นระยะเวลา 7 วันแล้ว โดยดื่มเพียงน้ำ น้ำผลไม้ หรือน้ำเกลือแร่ ในวันนี้บุ้งระบุว่าไม่มีอาการวูบหรือเพลียเท่าวันก่อนหน้านี้ อาจเพราะไม่ได้ออกแรงมาก ส่วนใหญ่นอนอ่านหนังสืออย่างเดียว ขณะที่ใบปอระบุว่าอาการโดยรวมยังสู้ไหว และความดันยังเป็นปกติ

อ่านบันทึกเยี่ยมทนายความเยี่ยมทั้งสองคนวานนี้

“แค่อยู่เฉยๆ ก็จะเป็นลมแล้ว” อดอาหารวันที่ 6 บุ้ง-ใบปอน้ำหนักลด มือเริ่มสั่น-อ่อนเพลีย-หน้ามืด

อ่านแถลงการณ์ของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเมื่อปี 2564 กรณีพบว่าเจ้าหน้าที่มีการดักฟังการสนทนาระหว่างทนายความกับลูกความ

การดักฟังการสนทนาระหว่างทนายความกับลูกความภายในเรือนจำ เป็นการละเมิดสิทธิอย่างร้ายแรง