ไม่ให้ประกัน “ใบปอ-บุ้ง” แม้ยกเหตุผล ใบปอจะพ้นสภาพ นศ. หากขาดสอบ ศาลระบุ หากปล่อยไปเกรงจะก่อเหตุอันตรายประการอื่นอีก

20 พ.ค. 2565 เวลา 10.15 น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว “ใบปอ” (นามสมมติ) และ “บุ้ง” เนติพร (สงวนนามสกุล) สมาชิกกลุ่ม “ทะลุวัง” ผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112 กรณีทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จที่บริเวณห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 ซึ่งถูกขังระหว่างการสอบสวนอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลางมาแล้ว 18 วัน หลังถูกศาลเพิกถอนประกันเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา 

.

เปิดเหตุผลขอปล่อยตัวชั่วคราว “ผู้ต้องหามีหน้าที่ด้านการศึกษาและต้องรับผิดชอบช่วยเหลือครอบครัว ระบุพร้อมยินดีทำตามเงื่อนไขศาลทุกประการ”

คำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวใบปอมีใจความโดยสรุปว่า ในขณะนี้ผู้ต้องหาเป็นนักศึกษาคณะวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ้งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 ซึ่งอยู่ในช่วงสอบปลายภาคของภาคเรียน ผู้ต้องหาลงทะเบียนเรียนไว้ 5 วิชา และได้ขาดสอบไปแล้ว 1 วิชา เนื่องจากถูกคุมขังอยู่ในเรือนจําตามหมายขังของศาล ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 2565 เป็นต้นมา 

หากผู้ต้องหาไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อเข้าสอบในวันที่ 20-21 พ.ค. นี้ จะส่งผลให้ผู้ต้องหาขาดสอบรวมกันทั้งสิ้น 4 วิชา ซึ่งจะทําให้คะแนนเฉลี่ยของผู้ต้องหาต่ํากว่าเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกําหนด และต้องพ้นสภาพนักศึกษา ตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อันจะเป็นการทําลายอนาคตและลิดรอนสิทธิของผู้ต้องหาเกินสมควรในคดีที่ยังไม่มีการตัดสินว่าการกระทําของผู้ต้องหาเป็นความผิด หากต่อไปพิสูจน์ได้ว่าผู้ต้องหามิได้กระทําความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ก็ไม่สามารถเยียวยาความเสียหายเกี่ยวกับสิทธิและโอกาสทางการศึกษาของผู้ต้องหาได้ อันเป็นการทําให้ผู้ต้องหาได้รับผลร้ายเกินสมควรแก่กรณี 

คำร้องยังระบุว่า หากศาลกําหนดเงื่อนไขใดที่เป็นประโยชน์ต่อการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา เช่น กําหนดให้ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) ผู้ต้องหาก็พร้อมปฏิบัติตามคําสั่งศาล และขอเสนอให้ศาลแต่งตั้งให้อาจารย์ประจําคณะวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ้งภากรณ์ ซึ่งเป็นอาจารย์ของผู้ต้องหาและผู้ต้องหาให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่งเป็นผู้กํากับดูแล 

ส่วนคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวเนติพรระบุโดยสรุปว่า ผู้ต้องหาเป็นเพียงบุคคลธรรมดา ซึ่งต้องประกอบอาชีพสอนวิชาภาษาอังกฤษผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อหาเลี้ยงตนเอง อีกทั้งมารดาและบิดาของผู้ต้องหาแยกทางกัน มารดาป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงและโรคหัวใจซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง จึงมีเพียงผู้ต้องหาและพี่สาวของผู้ต้องหาเท่านั้นที่รับภาระค่าใช้จ่าย ค่ารักษาพยาบาลของมารดา การที่ผู้ต้องหาถูกคุมขังอยู่ มีผลกระทบต่อการหารายได้เพื่อนํามาเป็นค่ารักษาพยาบาลของมารดาผู้ต้องหาอย่างมาก  

นอกจากนี้ ผู้ต้องหาเคยเข้ารับการตรวจโรคที่โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยแพทย์วินิจฉัยว่ามีความเสี่ยงจะเป็นก้อนเนื้อที่มดลูก และต้องรับประทานยาเพื่อปรับฮอร์โมน การที่ต้องถูกคุมขังในระหว่างสอบสวนจะทําให้ผู้ต้องหาได้รับความลําบากในการปรึกษาแพทย์เพื่อป้องการความเสี่ยงที่จะเกิดก้อนเนื้อในมดลูก

ทั้งนี้ หากศาลกําหนดเงื่อนไขใดที่เป็นประโยชน์ต่อการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา เช่น กําหนดให้ผู้ต้องหาติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) ผู้ต้องหาก็พร้อมปฏิบัติตามคําสั่งศาล รวมถึงขอเสนอให้ศาลแต่งตั้งให้พี่สาวของผู้ต้องหาซึ่งประกอบอาชีพทนายความเป็นผู้กํากับดูแลผู้ต้องหาให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาล

อนึ่ง ในคำร้องของผู้ต้องหาทั้งสอง ได้ขอวางเงินเป็นหลักประกันจำนวน 200,000 บาท รวมถึงมีการหยิบยกเอากติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) และปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ที่ว่า “บุคคลทุกคนซึ่งต้องหาว่ากระทําผิดอาญาต้องมีสิทธิได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ตามกฎหมายได้ว่ามีความผิด” เพื่อให้ศาลใช้ประกอบการพิจารณาให้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว

อีกทั้งผู้ต้องหาไม่ได้กระทําความผิดตามที่ถูกกล่าวหา และคดีมีหนทางจะต่อสู้คดีได้ทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ต้องหาเป็นเพียงบุคคลธรรมดา ไม่ได้มีอิทธิพลเพื่อที่จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือไปก่อเหตุภยันตรายประการอื่นใด และไม่อาจก่ออุปสรรคหรือความเสียหายต่อการดำเนินคดีในชั้นศาล 

ทัายคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวทั้งสองยังระบุด้วยว่า หากศาลมองว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องยังไม่เพียงพอ ขอให้ศ่าลไต่สวนผู้ต้องหาทั้งสองประกอบการพิจารณาด้วย

.

ศาลไม่ให้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวชี้ “ผู้ต้องหากระทำผิดเงื่่อนไขซ้ำ หากปล่อยตัวเกรงจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น” 

หลังทนายความรอฟังคำสั่งกว่า 5 ชั่วโมง เวลา 16.00 น. มนัส ภักดิ์ภูวดล รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวใบปอและเนติพรโดยไม่ได้เบิกตัวทั้งสองมาไต่สวน ให้เหตุผลว่า พิเคราะห์แล้วผู้ต้องหาทั้งสองเคยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวโดยมีเงื่อนไขที่ผู้ต้องหายอมรับต่อศาล แต่กลับไม่ใส่ใจต่อเงื่อนไขและกระทำผิดเงื่อนไขจนถูกเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว เกรงว่าหากได้รับการปล่อยตัว จะกลับไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นอีก จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ยกคำร้อง

จากคำสั่งไม่ให้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวดังกล่าว ทำให้ใบปอและเนติพรต้องถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป 

ทั้งนี้ เหตุในการถอนประกันใบปอและเนติพร จนทำให้ทั้งสองถูกคุมขังครั้งนี้ มาจากการที่กลุ่มทะลุวังได้ทำโพลสำรวจความเห็นประชาชนในวันที่ 13 มี.ค. และ 31 มี.ค. 2565 หลังได้รับการประกันตัวในคดีนี้ โดยศาลอ้างว่า จากการที่กลุ่มผู้ต้องหาโพสต์ข้อความชักชวนให้เข้าร่วมเหตุชุมนุม มีลักษณะและวิธีการในทำนองเดียวกันกับการกระทำที่พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอฝากขังมาแล้ว อันอาจทำให้มีผู้ร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองได้ ทั้งยังถือได้ว่า ผู้ต้องหาเข้าร่วมชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง อันเป็นการละเมิดเงื่อนไขข้อห้ามตามที่ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน จนถึงวันที่ 9 พ.ค. 2565 ยังมีผู้ถูกคุมขังระหว่างการต่อสู้คดีอันเกี่ยวเนื่องกับการแสดงออกทางการเมือง หรือมีมูลเหตุเกี่ยวข้องกับการเมือง อย่างน้อย 11 คน

ฐานข้อมูลคดี คดี 112-116 นักกิจกรรม-เยาวชน 9 ราย หลังทำโพลล์สำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จ

.

X