บันทึกเยี่ยมเวหา: “ฝากความห่วงใยถึงเพื่อนผู้ต้องขังทางการเมือง” ก่อนสะท้อนสภาพความแออัด-ยากลำบากของเรือนจำ

12 พ.ค. 2565 ทนายความได้เข้าเยี่ยม “เวหา แสนชนชนะศึก” ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังถูกคุมขังในชั้นสอบสวน คดีมาตรา 112 กรณีแชร์โพสต์เพจเฟซบุ๊ก “เยาวชนปลดแอก” วิพากษ์วิจารณ์การจัดการวัคซีนของรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 และโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2565 วิพากษ์วิจารณ์ศาลและความอยุติธรรม โดยเวหาถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 2565 รวมเป็นระยะเวลา 2 เดือนกับอีก 3 วันแล้ว

ในการเข้าเยี่ยมครั้งนี้ ทนายไม่ได้มีโอกาสเห็นหน้าเวหา เพราะระบบการเข้าเยี่ยมของเรือนจำขณะนี้ อนุญาตให้เยี่ยมผ่านการโทรศัพท์พูดคุยเท่านั้น โดยไม่มีภาพของผู้ต้องขังแต่อย่างใด ทว่าน้ำเสียงปลายสายยังคงฟังดูเข้มแข็งและเป็นปกติ  

ก่อนที่จะเล่าถึงสภาพความเป็นอยู่และความยากลำบากที่พบเผชิญในเรือนจำ ประโยคแรกที่เวหาพูดกับทนายคือ “ผมขอฝากความห่วงใยถึงเพื่อน ๆ ที่ถูกส่งฝากขังในช่วงนี้ กลัวว่าจะปรับตัวยาก หากได้อยู่ในแดนที่มีคนรู้จักก็น่าจะช่วยได้มาก อยากรู้ว่าตอนนี้ใครอยู่แดนไหน หรืออยู่กับใครจะได้ฝากฝังให้ช่วยกันดูแล”  

เวหาได้เล่าให้ทนายฟังถึงสภาพทั่วไปในห้องขัง โดยแดนที่เขากินนอนอยู่คือ “แดน 3” เขาบอกว่าแดนนี้เป็นเหมือนแดนแรกรับ ผู้ต้องขังที่ผ่านการกักตัวโควิดแล้วจะถูกส่งมาที่แดนนี้ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการคัดแยกนักโทษไปแดนอื่น ๆ ทุกสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เวหาตั้งข้อสังเกตว่า เขาติดอยู่ที่แดนนี้มาสักพัก ตั้งแต่ก่อนสงกรานต์แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่ได้พาเขาไปแดนใหม่เหมือนนักโทษคนอื่น ๆ แต่อย่างใด  

“ห้องที่ผมอยู่มีคน 35 คน แออัดมาก มีห้องน้ำขนาด 1.5 x 1.5 เมตร แค่ห้องเดียว ที่ทั้ง 35 คน ต้องใช้ทั้งขับถ่าย ซักผ้า ล้างจาน และอาบน้ำ เนื่องจากผู้ต้องขังในแดน 3 จะได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องวันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 ชม. เท่านั้น แต่ช่วงเวลานั้นไม่สามารถจะจัดการธุระส่วนตัว เช่น การซักล้าง ได้ ทำให้ในห้องมีเหตุพิพาทเรื่องการใช้ห้องน้ำบ่อยมาก และห้องที่ผมอยู่ก็ไม่มีล็อกเกอร์ไว้เก็บของ ทำให้พื้นที่ในห้องยิ่งจำกัดและแออัดมากขึ้น”

“ส่วนตัวเป็นคนกินน้อย กินง่าย อยู่ง่าย วันนี้เป็นข้าวแกงส้มหน่อไม้ดองกับวิญญาณปลา” เวหาพูดอย่างติดตลก ก่อนจะเล่าถึงเพื่อนร่วมห้องขังต่ออย่างจริงจัง “มีผู้ร่วมห้องขังหลายคนกินอาหารเรือนจำไม่ได้ ท้องเสีย มีคนเข้าโรงพยาบาลเพราะอาหารเป็นพิษด้วย คนที่กินอาหารเรือนจำไม่ได้ต้องสั่งอาหารจากข้างนอกที่จะต้องสั่งล่วงหน้า 1 วัน และเรือนจำจะส่งให้วันละ 1 ครั้ง”

เวหาเล่าต่อว่า ตนเคยไปยื่นหนังสือเรื่องโภชนาการในเรือนจำต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกรรมาธิการ ซึ่งเรือนจำได้มีหนังสือชี้แจงว่า ได้ปรับปรุงด้านสุขอนามัยและโภชนาการในเรือนจำแล้ว แต่พอเวหากลับเข้าเรือนจำอีกครั้ง ก็พบว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โภชนาการแย่เหมือนเดิม ผู้ต้องขังจะได้กินของหวานอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง และมักจะเป็นถั่วเขียวต้มน้ำตาล ไม่มีผลไม้เลย

สุดท้ายก่อนจากลา เวหาขอให้ทนายโทรศัพท์หาแม่ให้หน่อย “บอกแม่ด้วยว่าเวหาสบายดี แม่มาเยี่ยมไม่ได้ แต่ช่วยบอกแม่ให้ฝากเงินให้ใช้หน่อย ตอนนี้ไม่มีเงินในบัญชีแล้ว”

.

วันที่ 12 พฤษภาคม 2565

เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

——————————-

อ่านเรื่องราวของเวหาเพิ่มเติม

ศาลอาญาไม่ให้ประกันตัว “เวหา” หลังถูกจับกุมคดี ม.112 แชร์โพสต์เพจ ‘เยาวชนปลดแอก’

X