กำลังใจของ “ไมค์” ภาณุพงศ์ ในทุกวันที่สูญเสียอิสรภาพ 

“เราพักกันบ้างได้ไหม”

“ทำไมลูก”

“หู บิดหมดแล้ว”

“ไปก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหูมันก็บิดกลับมาเอง”   

คำพูดของ ‘ยิหวา’ หลานสาวของ “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก จากคำบอกเล่าของยุพิน แม่ของไมค์ ที่บอกเล่าให้ฉันฟัง เมื่อวันที่ฉันเข้าตีเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์  ฉันมองไปที่หน้ากากอนามัยที่ยิหวาสวมใส่อยู่มีลายการ์ตูนน่ารักสดใส ตรงข้ามกับดวงตาที่ปราศจากรอยยิ้ม เธอมาส่งยายพบน้าไมค์ตั้งแต่เช้าตรู่ และวันนั้นก็ล่วงเลยเข้าบ่ายแก่ๆ แล้ว กว่าทนายความและญาติจะเข้าเยี่ยมน้าไมค์ของเธอได้ 

  ‘ยิหวาเหนื่อย ฉันรู้’ 

ภารกิจการเยี่ยมเพื่อนผู้ต้องขังทางการเมืองทางฝั่งโรงพยาบาลราชทัณฑ์เมื่อต้นเดือนกันยายน กว่าจะเสร็จ เวลาก็ล่วงเลยถึงประมาณบ่ายสาม ที่โรงพยาบาลฯ ซึ่งขณะนั้นเป็นที่คุมขัง “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก, “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ และ “บอย” ชายชาติ แกดำ จากคดี #ม็อบ2สิงหา เรียกร้องให้ปล่อยเพื่อนเรา บริเวณด้านหน้า บก.ตชด. ภาค 1 ส่วน “ไผ่” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ถูกคุมขังจากคดีสาดสีหน้า สน.ทุ่งสองห้อง 

ในวันนั้นทั้งหมดกำลังใจดี และฝากความเป็นห่วงถึงคนข้างนอกที่ร่วมกันสู้เพื่อพวกเขาและส่วนรวม ทั้ง 4 ยังส่งให้กำลังใจให้ทุกคนปลอดภัยเพราะคนข้างในเอง ก็ทราบเช่นกันว่าคนข้างนอก สู้กันแบบไต่ระดับความรุนแรงมาตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม ทั้งหมดรู้สึกว่าการถูกควบคุมตัวนั้น ขังได้แต่เพียงกาย แต่จิตวิญญาณของพวกเขายังโลดแล่น-เดินทาง 

  ‘พวกเขาพร้อมสู้ไปกับคนที่อยู่ข้างนอก’

หลังจากเข้าเยี่ยมเสร็จ ฉันขอติดรถญาติไมค์ออกมาจากเขตเรือนจำ

ยิหวาถือตุ๊กตาใส่เสื้อคลุมสีแดงรออยู่ในรถ เธอถอดหน้ากากออกแล้ว เปิดยิ้มกว้างให้ตอนฉันก้าวขึ้นรถ 

“น้องเขาน่ารักไหมค่ะ หนูได้มาจากปั๊มน้ำมันค่ะ” เธอพูดไป ยิ้มไป พลางหันตุ๊กตาหมีมาทางฉัน รอยยิ้มยิหวาสดใสแข่งกับน้องเป็ดน้อยสีเหลืองที่ติดอยู่กับกิ๊บบนหัวของเธอ  

แววตา ความขี้เล่น รอยยิ้มของเธอ ช่างห่างไกลจากน้องยิหวาตอนนั่งอยู่ทางเดินหน้าโถงเยี่ยมญาติ บริเวณโรงพยาบาลราชทัณฑ์  

ฉันโบกมือลาเธอหน้าเรือนจำและบอกเธอว่าพรุ่งนี้เจอกันใหม่ ฉันจะมาเยี่ยมเพื่อนอีกวัน

5 วันถัดมา วันที่ 15 ก.ย. 64 ศาลอุทธรณ์ภาค 1 อนุญาตให้ประกันตัวไมค์และเพื่อนอีก 4 คน ฉันดีใจที่คำขอของยิหวาเป็นจริงขึ้นมาแล้ว ใบหูของเธอไม่ต้องบิดจากการใส่หน้ากากอนามัยมาเฝ้าหน้าโรงพยาบาลทุกวันอีก เธอไม่ต้องตื่นเช้ามารอเยี่ยมน้าไมค์พร้อมแม่ สนามเด็กเล่นของเธอจะเปลี่ยนจากลานโล่ง ใต้เต้นท์ชั่วคราวที่กางหน้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หรือโถงหน้าห้องเยี่ยมญาติเป็นสถานที่อื่นที่เหมาะกับเธอ ที่สำคัญ ยิหวาไม่ต้องซ่อนรอยยิ้มไว้ใต้หน้ากากอีกต่อไป 

ฉันเห็นภาพยิหวาได้กอดน้าไมค์หน้าเรือนจำอำเภอธัญบุรี เย็นวันเรือนจำปล่อย “ไมค์” , “ฟ้า” พรหมศร, “บอย” ชายชาติ และณัฐชนน ไพโรจน์ หลังพวกเขาถูกคุมขังเป็นเวลารวมทั้งสิ้น 38 วัน นับตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. 64 จากการฝากขังของพนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า และศาลจังหวัดธัญบุรีมีคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัวเรื่อยมา โดยพวกเขาต้องใช้ความพยายามในการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวรวม 4 ครั้ง และยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันต่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 อีก 4 ครั้ง กว่าพวกเขาจะได้รับการประกันตัว  

ทว่า อีกเพียง 8 วันถัดมา วันที่ 24 ก.ย. 64 กระบวนการยุติธรรมก็พรากอิสรภาพของไมค์อีกคราว เมื่อรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวไมค์ระหว่างการพิจารณาคดี ในคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กรณีการโพสต์จดหมายถึงกษัตริย์ในกิจกรรม “ราษฎรสาส์น” เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 63 ซึ่งเป็นวันที่เขาเดินทางเข้าไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก และในวันเดียวกันโดยไม่คาดคิด พนักงานอัยการก็สั่งฟ้องคดีนี้ทันทีในวันเดียวกัน ทำให้ไมค์ถูกควบคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทันที 

ไมค์ตะโกนบอกแม่ “ขอโทษนะ ไม่ได้กลับบ้านด้วย” 

ยุพินกลับบ้านไปโดยลำพัง ก่อนพบหลานสาวถามหาน้าของเธอ

“น้าไมค์ไปไหน ยาย”

“โดนจับอีกแล้วลูก”

“เพิ่งออกมาเอง หนูบอกให้น้าไมค์นอนอยู่ที่บ้าน ทำไมต้องไปให้เขาจับ”

ยิหวากล่าวพาซื่อว่าน้าของเธอเดินไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนโดนจับอีกครั้ง 

.

X