เป็นเวลา 31 วันแล้ว ที่ คทาธร หรือ “ต๊ะ” วัย 26 ปี และ คงเพชร หรือ “เพชร” วัย 18 ปี ต้องถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทั้งสองคนถูกจับกุมขณะกำลังเดินทางจากย่านดินแดงไปยังแยกราชประสงค์ เพื่อร่วมงานรำลึก 12 ปี การสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง 10 เมษา 2553 #ยุติธรรมไม่มี12ปีเราไม่ลืม เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2565 ในข้อหาหลักมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง ก่อนจะถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา ในวันที่ 11 เม.ย. 2565 และไม่ได้รับการอนุญาตให้ประกันตัว แม้ว่าจะมีการยื่นประกันตัวมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ศาลก็ได้ยกคำร้องมาโดยตลอด
11 พ.ค. 2565 ทนายความได้เข้าเยี่ยมทั้งคู่ แต่ไม่ได้มีโอกาสเห็นหน้าตาแต่อย่างใด เนื่องจากระบบการเยี่ยมของเรือนจำในตอนนี้ อนุญาตให้ทนายความเยี่ยมผ่านการโทรศัพท์พูดคุย โดยไม่มีภาพของผู้ต้องขัง จึงเป็นการสนทนาที่ได้ยินเพียงเสียงของพวกเขาเท่านั้น
ทั้ง ต๊ะและเพชร เล่าให้ทนายฟังว่า การเข้ามาอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กว่า 3-4 อาทิตย์ นั้นต้องปรับตัวเยอะมาก มาแรกๆ ก็ปลอบใจกัน พวกเขารู้สึกดีที่ยังมีเพื่อนให้ได้พูดคุยปรับทุกข์ ต๊ะกล่าวว่าที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครมาเยี่ยม แม้จะแจ้งครอบครัวไปแล้วก็ตาม ตนอยากให้มีคนเข้ามาเยี่ยมบ้าง ขณะที่เพชรได้พูดคุยกับพี่สาวผ่านการเยี่ยมทางไลน์ 1 ครั้ง ในช่วงที่ผ่านมา
ต๊ะและเพชร เห็นตรงกันว่าสิ่งที่ต้องปรับตัวอย่างมากคือเรื่องอาหาร “อาหารทานไม่ค่อยได้ กับข้าวไม่ได้คุณภาพ” ต๊ะกล่าวว่าตนมักท้องเสียอยู่บ่อยครั้ง โดยตอนที่มาถึงในวันแรกๆ มีอาการนอนไม่ค่อยหลับ เครียด กังวล ส่วนเพชรบอกว่า “เรื่องอาหารการกิน ไม่มีคุณภาพ ทั้งข้าวและกับข้าว ไม่สามารถอธิบายรสชาติได้ ทุกครั้งที่กินข้าวเรือนจำเข้าไปเยอะๆ จะท้องเสียตลอด”
เพชรยังเล่าให้ทนายฟังเพิ่มเติมว่า ตนเป็นคนแพ้ฝุ่นและแพ้อากาศ “ผ้าห่ม 3 ผืนที่ได้รับมาเป็นผ้าที่ไม่ค่อยสะอาด มีไรฝุ่น เมื่อมาเจอสภาพแวดล้อมที่นี้ ภูมิแพ้ก็กำเริบ เวลานอนจะหายใจไม่ออก แต่ไม่ค่อยกล้าขอยาแก้แพ้จากเจ้าหน้าที่เรือนจำ”
นอกจากนี้เขายังรู้สึกว่าสภาพในเรือนจำแย่มาก “พวกเขา (ผู้ดูแลเรือนจำ) ทำให้ดีกว่านี้ได้ เช่น มีพื้นที่ออกกำลังกาย เตะบอล เพื่อลดความแออัด ความเครียด แต่ก็ไม่มีพื้นที่ให้ได้ทำกิจกรรมอะไรเลย นอกจากอยู่บนเรือนนอน”
ปัจจุบันทั้งคู่ถูกย้ายไปอยู่ที่แดน 8 เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา ภายหลังต้องถูกกักตัวอยู่ในแดน 2 ซึ่งเป็นแดนกักโรคจนครบกำหนดแล้ว
“บางครั้งก็จะมีรุ่นพี่ในเรือนจำ เขาบอกว่าเป็นเพื่อนกับพี่ไมค์ ระยอง เขาบอกว่า พี่ไมค์ฝากดูแลผู้ต้องขังทางการเมืองให้หน่อย พี่เขาก็จะแบ่งของใช้และของกินให้เราบ้าง” ต๊ะเล่าถึงการพบเจอนักโทษที่เอื้อเฟื้อกับผู้ต้องขังทางการเมือง ส่วนเพชรบอกว่า “เคยได้เจอพี่เอกชัยในเรือนจำและได้พูดคุยถามสารทุกสุขดิบเล็กน้อย”
สิ่งที่ทั้งคู่อยากทราบมากที่สุดคือความเคลื่อนไหวของสังคมภายนอกห้องขัง โดยอยากทราบข่าวสารความเป็นไปของบ้านเมืองและความคืบหน้าในคดีของตัวเองรวมถึงโอกาส ความเป็นไปได้ที่จะได้รับการประกันตัว
เมื่อทนายถามว่ามีอะไรที่อยากจะฝากถึงครอบครัวบ้าง ต๊ะได้ฝากถึงกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า “สามารถจองเยี่ยมทางไลน์ได้ และไม่ต้องห่วงเพราะตอนนี้เริ่มอยู่ได้แล้ว”
ส่วนเพชรบอกคุณแม่ว่า “อย่าร้องไห้เยอะ ไม่ต้องห่วงอะไร อยู่ได้แล้ว แม่รอหน่อยนะ รอวันที่จะได้ออกไป เราจะได้เจอกัน”
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
ศาลยังไม่ให้ประกัน “ปฏิมา-คทาธร-คงเพชร” ส่วน “เอกชัย-สมบัติ” รอส่งศาลสูงพิจารณาคำร้อง
จับ 2 วัยรุ่นระหว่างเดินทางไปร่วมงาน #ยุติธรรมไม่มี12ปีเราไม่ลืม เหตุมีระเบิดในครอบครอง ก่อนศาลไม่ให้ประกันตัว