นักกิจกรรมพิจิตรปลดแอก ถูกตร.คุกคามเฝ้าหน้าบ้านต่อเนื่อง 3 วัน ช่วง ‘ประวิตร’ ลงพื้นที่บึงสีไฟ

จากกรณีเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2565 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการในจังหวัดพิจิตร โดยมีการเดินทางไปติดตามโครงการฟื้นฟูบึงสีไฟ

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับรายงานว่ามีนักกิจกรรมและผู้มีบทบาทในทางการเมืองในจังหวัดพิจิตรถูกตำรวจคุกคามและไปพบที่บ้านไม่ต่ำกว่า 3 ราย โดยนักกิจกรรมรายหนึ่งถูกตำรวจเฝ้าหน้าบ้านต่อเนื่อง 3 วันติดต่อกัน เจ้าตัวระบุถูกทำเหมือนเป็น “อาชญากร”

“แชมป์” ประกอบอาชีพเป็นช่างสัก และเคยร่วมทำกิจกรรมกับกลุ่มพิจิตรปลดแอก เปิดเผยข้อมูลว่าในช่วงที่ผ่านมา เมื่อมีบุคคลสำคัญมาลงพื้นที่ทั้งในจังหวัดพิจิตรหรือจังหวัดใกล้เคียง เขามักถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสอบถาม ทั้งมาพบหรือโทรศัพท์มาหาข้อมูลความเคลื่อนไหว

แต่เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา นับได้ว่าเป็นการถูกติดตามสอดแนมที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา โดยในช่วงอาทิตย์ก่อน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะลงพื้นที่ ได้เริ่มมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบเเข้ามาสอบถามข้อมูลของเขาจากคนที่บ้าน

จนในช่วงสามวัน ประมาณวันที่ 2-4 เม.ย. 2565 ที่ พล.อ.ประวิตร จะลงพื้นที่ เขาได้ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบมานั่งเฝ้าที่หน้าบ้านต่อเนื่องแทบตลอดทั้งวัน โดยมีการเข้ามาคุยกับแม่ของเขาเป็นระยะ พยายามแจ้งให้แม่บอกให้เขาออกมาพบเจ้าหน้าที่ เพื่อขอถ่ายรูปด้วย ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่เขาปฏิเสธไม่ยอมออกไปพบ โดยแม่บอกว่ามีตำรวจไม่น่าจะต่ำกว่า 4 ชุด ชุดละประมาณ 5 นาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเฝ้า พร้อมถ่ายรูปบ้านเขาเป็นระยะ

เมื่อเขาออกจากบ้านไปไหน ก็พบว่าเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่เฝ้าอยู่ จะคอยตามถ่ายรูปรถ และวอรายงานความเคลื่อนไหวกันเป็นระยะด้วย

นอกจากนั้น ตำรวจยังพยายามโทรศัพท์ติดต่อเขา มีทั้งที่โทรมาแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อสอบถามว่าเขาจะไปไหนหรือไม่ในช่วง 2-3 วันนี้ และสอบถามว่า พล.อ.ประวิตร จะมาในจังหวัด จะทำอะไรหรือไม่ โดยขอไม่ให้เขาไปไหนในช่วงนี้ ซึ่งเขาก็ไม่ทราบเรื่องการลงพื้นนี้มาก่อน รวมทั้งมีกรณีบุคคลที่น่าจะเป็นตำรวจพยายามโทรมาแจ้งว่าจะขอสัก เพื่อพบตัวเขา แต่เขาปฏิเสธ

ในวันที่ 4 เม.ย. 2565 เขาได้ลองขับรถออกจากบ้าน ไปทางบึงสีไฟ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร มาลงพื้นที่ พบว่ามีเจ้าหน้าที่บริเวณนั้นวอเรียกกัน พยายามเข้าดักไม่ให้เขาเข้าไป ในลักษณะเหมือนพร้อมจะรวบตัว ทำให้เขาขับรถวนกลับ

แชมป์ระบุว่า แม้เขารู้สึกเฉยๆ ต่อการถูกคุกคามเช่นนี้ แต่ในช่วงนั้นก็รู้สึกหงุดหงิดเพราะมีการรบกวนเวลานอน เนื่องจากตำรวจอ้างมาขอพบแต่เช้า และยังละเมิดความเป็นส่วนตัว รวมทั้งการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ยังทำเหมือนกับเขาเป็นอาชญากร-ผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจเพ็งเล็งด้วย แต่ที่ตลกคือ เนื่องจากหน้าบ้านเขาเป็นร้านข้าวแกงเมื่อตำรวจผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมานั่งเฝ้า ทำให้อาหารเกิดขายดีขึ้นมาในช่วง 2-3 วันดังกล่าวด้วย จากนั้นก็เงียบเหมือนเดิม

สถานการณ์ที่เจ้าหน้าที่เข้าคุกคามประชาชนและนักกิจกรรมในจังหวัดต่างๆ ในช่วงที่มีขบวนเสด็จหรือบุคคลในรัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่นั้น ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหลายกรณีเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจโดยมิชอบ เกินขอบเขตเรื่องการติดตามข้อมูลการข่าว โดยคุกคามและละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนอีกด้วย

อ่านรายงาน >> 2 เดือน ผู้ถูกคุกคามโดยจนท.รัฐ เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 66 ราย เหตุจากมีขบวนเสด็จยังเป็นปัจจัยสำคัญ