“พรพจน์” ถูกขังจนติดวัณโรค พี่สาวหวั่นร่างกายน้องไม่ไหว 2 เดือนก่อนเพิ่งหายโควิดหลังติดในเรือนจำ

เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทนายความได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า “พรพจน์” หนึ่งในผู้ต้องขังทางการเมือง มีอาการป่วยและไอผิดปกติ และถูกส่งตัวไปตรวจอาการยังโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก่อนผลตรวจออกมาว่าพรพจน์ติดเชื้อ “วัณโรค” และอยู่ในระยะแพร่เชื้อรุนแรง จากนั้นจึงถูกนำตัวกลับมารักษายังแดนพยาบาล ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยแพทย์ให้การรักษาด้วยการให้รับประทานยาฆ่าเชื้อ ซึ่งคาดว่าอาการจะดีขึ้นใน 10-15 วัน  

พรพจน์ แจ้งกระจ่าง หรือ “เพชร” วัย 50 ปี จำเลยในคดีถูกกล่าวหาว่าร่วมยิงพลุและปาประทัด ใน #ม็อบ18ตุลา64 บริเวณดินแดง เขาถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. 2564 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเวลานานกว่า 115 วันแล้ว โดยยังไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวจากศาลอาญา

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2565 ทนายความได้รับแจ้งจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า พรพจน์มีอาการไอ เจ็บหน้าอก มีไข้ และอ่อนเพลีย จึงถูกส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์

ต่อมา เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 ทนายความได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อติดต่อขอเยี่ยมพรพจน์ โดยเจ้าหน้าที่ปฏิเสธการให้เข้าเยี่ยม เนื่องจากในขณะนั้นอยู่ระหว่างรอทราบผลตรวจอาการ พรพจน์จึงต้องถูกกักตัวอยู่ในห้องปลอดเชื้อ จึงไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้

วันที่ 3 ก.พ. 2565 โรงพยาบาลแจ้งผลตรวจจากตัวอย่างเสมหะของพรพจน์พบว่า เขาติดเชื้อวัณโรค และมีอาการอยู่ในระยะแพร่เชื้อรุนแรง สามารถแพร่เชื้อให้กับคนรอบข้างได้ จากนั้นเขาถูกส่งตัวกลับไปรักษาต่อยังแดนพยาบาลของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยพรพจน์ต้องถูกแยกตัวไปรักษาในห้องกระจกปลอดเชื้อ จนกว่าจะหายดีเป็นปกติ 

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ระบุว่า วัณโรคเป็นโรคที่ผู้ต้องขังป่วยเป็นจำนวนมาก แต่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการทานยาฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง จึงไม่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ 

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ระบุอีกว่า พรพจน์จะถูกรักษาตัวอยู่ที่แดนพยาบาลไปอีกประมาณ 10-15 วัน โดยจะได้รับยาทานแบบเม็ดเพื่อฆ่าเชื้อวัณโรค เมื่อเขาอาการดีขึ้นแล้วจึงจะประเมินอีกครั้งว่าจะสามารถให้ทนายความเข้าเยี่ยมได้หรือไม่ 

ทำให้ตั้งแต่พรพจน์เข้ารับการตรวจหาวัณโรคที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์จนถึงขณะนี้ ทนายความยังไม่สามารถเข้าเยี่ยมเพื่อพูดคุยและสอบถามถึงอาการป่วยของเขาได้ จึงไม่ทราบเลยว่า เขามีอาการอย่างไรบ้างและได้รับการรักษาที่ดีพอหรือไม่

พี่สาวหวั่นวัณโรคซ้ำเติมร่างกายอ่อนแอจนถึงชีวิต เหตุเคยติดโควิดในเรือนจำแล้ว 1 ครั้ง เมื่อ 3 เดือนก่อน 

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2564 พรพจน์เคยติดเชื้อโควิด-19 ขณะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ก่อนถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติในเวลาเดือนเศษ 

ทนายความได้เปิดเผยว่า แทบทุกครั้งที่ทนายไปเข้าเยี่ยมที่พรพจน์ เขามักจะพูดถึงสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ และความแออัดในเรือนจำ โดยเขาได้พูดกับทนายในทำนองว่า 

“การถูกขังอยู่ในนั้น ทำให้เขาเสี่ยงกับโรคมากมาย โดยเฉพาะโควิด เขาคิดว่าการอยู่ข้างนอกยังปลอดภัยกว่านี้หลายสิบเท่า ในคุกมีคนติดโควิดทุกวัน หลายคนที่ติดเชื้อกว่าจะได้รับการพาตัวไปโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็ผ่านไปนานหลายคืนแล้ว คนรอบข้างติดโควิดกันแทบทุกคน เขาเฝ้าคิดทุกวันว่าเมื่อไหร่ตัวเองจะติด เพราะในคุกไม่มีที่ไหนปลอดภัยเลย ซึ่งสุดท้ายเขาก็พบว่าตนเองติดโควิดจริงๆ”  

ทั้งนี้ พรพจน์ได้เน้นย้ำกับทนายเสมอเมื่อเจอกันว่า

“ช่วยประกันผมด้วย ผมอยากออกไปแล้ว อยู่ข้างในนี้อีกไม่นาน ผมคงต้องตาย”

จากการป่วยในเรือนจำถึงสองครั้ง พี่สาวของพรพจน์ได้แสดงความกังวลถึงความปลอดภัยและสุขภาพของน้องชายว่า 

“เดิมทีพรพจน์ติดโควิดในเรือนจำ ร่างกายของเขาก็ย่ำแย่และอ่อนแอลงพอสมควรแล้ว ตอนนี้พบว่าติดวัณโรคอีก ร่างกายของเขาคงจะอ่อนแอลงไปกว่าเดิมมากๆ ไม่แน่ว่าอาการอาจจะรุนแรงถึงชีวิตได้ เนื่องจากทั้ง 2 อาการป่วยนี้กระทบต่ออวัยวะสำคัญอย่าง ‘ปอด’ โดยตรง” 

ครอบครัวของพรพจน์จึงแสดงความกังวลและร้องขอต่อศาลและผู้พิพากษาว่า “ขอให้ปล่อยเขาออกจากที่คุกในเร็ววัน เพื่อให้พรพจน์ได้ออกมารักษาตัวในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการรักษา ไม่เช่นนั้นเกรงว่าความแออัดและไม่ถูกสุขลักษณะในเรือนจำจะยิ่งทำให้อาการป่วยของเขาย่ำแย่ลงไปอีก จนถึงแก่ความตายได้”

ข้อมูลจากเว็บไซต์พบแพทย์ ระบุว่า วัณโรค เป็นโรคติดต่อ ซึ่งสามารถติดต่อกันผ่านทางอากาศได้ด้วยการหายใจ การจาม การไอ หรือการอยู่ร่วมกับผู้ป่วยวัณโรคติดต่อกันเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้มีร่างกายอ่อนแอ ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมแออัดยิ่งมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้สูงมาก

อาการทั่วไปของโรคนี้ ผู้ป่วยจะมีอาการไอเรื้อรัง ไอเป็นเลือด เจ็บหน้าอกเวลาไอ อ่อนเพลีย มีไข้ และหนาวสั่น ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่ล่าช้าหรือไม่ต่อเนื่อง อาจเกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงถึงชีวิตได้ แต่ทั้งนี้สามารถรักษาให้หายได้หากผู้ป่วยรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กองวัณโรค ระบุว่า ปี 2564 ซึ่งมีผู้ต้องขังจำนวน 285,843 ราย จากเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ 142 แห่ง พบผู้ป่วยวัณโรคขึ้นทะเบียนรักษาทั้งหมด 3,364 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยรายใหม่ 2,641 ราย และผู้ป่วยกลับมาเป็นซ้ำ 291 ราย เป็นชาย 3,154 หญิง 175 ราย

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

จับผู้ชุมนุมดินแดงอีก 2 ราย ตามหมายจับ รายหนึ่งเป็นเยาวชน 16 ปี เหตุปาวัตถุคล้ายระเบิด-วางเพลิงตู้จราจร

บันทึกโควิดในเรือนจำ: พบ 30 ผู้ต้องขังคดีการเมืองติดเชื้อท่ามกลางการรักษาอันยากลำบาก

X