รำลึก “สุรชัย แซ่ด่าน กับสหาย” ด้วยอาลัย แม้ก่อนหน้านี้ตำรวจไม่ให้ใช้พื้นที่ราชประสงค์

2 ก.พ. 62 ที่แยกราชประสงค์ ประชาชนราว 50 คน ร่วมจัดกิจกรรม “รำลึกสุรชัย แซ่ด่าน กับสหาย” สืบเนื่องจากมีการตรวจสอบว่า ผู้ลี้ภัยทางการเมืองในประเทศลาว 3 คน ได้หายตัวไป ในเวลาต่อมาพบว่า 2 ใน 3 คน คือผู้ติดตามสุรชัย (แซ่ด่าน) ด่านวัฒนานุสรณ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งก่อนหน้านี้ (1 ก.พ.62) ผู้กำกับการ สน.ลุมพินีในฐานะเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะไม่อนุญาตให้จัดชุมนุม เนื่องจากเห็นว่ากิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เชื่อมโยงทางการเมืองอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง ก่อให้เกิดความวุ่นวาย แต่ผู้จัดการชุมนุมได้ยืนยันสิทธิในการชุมนุมและเดินหน้าจัดกิจกรรมต่อ โดยวันนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 50 คน ท่ามกลางจับตาของเจ้าหน้าที่ตลอดการทำกิจกรรม

กั้นสกายวอร์ค วางดอกไม้ จุดเทียนและร้องเพลง

ตามกำหนดการที่ผู้แจ้งการชุมนุมได้แจ้งไป กิจกรรมจะเริ่มขึ้นในเวลา 17.30 – 19.00 น. ก่อนกิจกรรมจะเริ่มขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้วางกำลังบริเวณแยกราชประสงค์และสกายวอร์คเป็นราว 40 นาย โดยมีการกั้นพื้นที่บริเวณสกายวอร์คฝั่งที่มองเห็นแยกราชประสงค์ “กิจกรรมรำลึกสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์และสหาย” ซึ่งกิจกรรมสามารถดำเนินต่อไปตามนัดหมาย โดยผู้ร่วมกิจกรรมเริ่มวางดอกไม้รำลึก ด้านสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตนักโทษการเมือง ได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมด้วย และนำป้ายคำว่าแยกราชประสงค์ มาติดฝั่งฟุตบาท เนื่องจากก่อนหน้านี้ ป้ายนั้นได้หายไป

นอกจากนั้นในวันนี้ ปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ ภรรยาของสุรชัย ยังได้เข้าร่วมกิจกรรมรำลึกด้วยเช่นเดียวกัน โดยสวมชุดสีดำ ถือรูปภาพของสามี ท่ามกลางการทยอยเข้าร่วมวางดอกไม้ของผู้คนที่เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย

ในเวลา 18.45 น. ผู้ร่วมกิจกรรมได้ร่วมจุดเทียน แลัะร่วมร้องเพลง “เดือนเพ็ญ” อันเป็นบทเพลงที่ขึ้นโดย “นายผี” หรืออัศนี พลจันทร อดีตนักปฏิวัติในยุคสงครามประชาชนและต้องเสียชีวิตในประเทศลาว และผู้ชุมนุมได้ร่วมกันร้องเพลง “นักสู้ธุลีดิน” ปิดท้ายกิจกรรมในวันนี้ ซึ่งเป็นเพลงที่เขียนขึ้นโดยจิ้น กรรมาชน ศิลปินและนักแต่งเพลงที่เข้าร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงระหว่างปี 2552-2553 อันเป็นการชุมนุมที่สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ และคนสนิททั้งสองคนที่เสียชีวิตได้เข้าร่วมต่อสู้ด้วยเช่นกัน

การหายไปของสุรชัย และคนสนิท

สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ (สุรชัย แซ่ด่าน) นักเคลื่อนไหวทางการเมืองวัย 75 ปีซึ่งได้ลี้ภัยออกจากประเทศไทยหลังการรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 ได้หายตัวออกจากที่พักพร้อมกับเพื่อนผู้ลี้ภัยอีก 2 คนที่พักอาศัยอยู่ด้วย หลังจากที่มีการโทรศัพท์ติดต่อกับคนอื่นๆ ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2561

ขณะที่เพื่อนผู้ลี้ภัยยังมีความวิตกกังวลว่าสุรชัยอาจโดนอุ้มหายเหมือนกับกรณีของ ดีเจซุนโฮ (อิทธิพล สุขแป้น) หรือโกตี๋ (วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ) ล่าสุดยังไม่มีความคืบหน้าการหายตัวของสุรชัยแต่อย่างใด (อ่านเพิ่มเติมที่: ลืออุ้ม อ.สุรชัย ผู้ลี้ภัยหายจากที่พัก 12 วันแล้ว)

ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวประชาไท ได้รายงานว่า ข้อเท็จจริงที่ได้การยืนยันแน่ชัดแล้ว จากญาติผู้เสียชีวิตทั้งสองราย พบว่า ศพซึ่งลอยขึ้นบริเวณวัดหัวเวียงใกล้ตลาดนัดไทย-ลาว มีผลการตรวจสอบ DNA มีความเกี่ยวโยงทางสายเลือดกับบุตรชายของภูชนะ (คนสนิทสุรชัย) ส่วนศพซึ่งลอยขึ้นที่บริเวณริมน้ำตำบลอาจสามารถ มีผลการตรวจ DNA ซึ่งไม่ขัดแย้งกับ DNA ของบุตรชายของกาสะลอง (คนสนิทสุรชัยอีกคน)

ส่วนที่ยังเป็นประเด็นซึ่งยังไม่ชัดเจนคือ ศพที่ลอยขึ้นบริเวณบ้านท่าจำปา ยังมีความขัดแย้งกันในส่วนของวันที่พบศพ ทั้งนี้ ผู้จัดการออนไลน์ และ INNNews ได้รายงานยืนยันด้วยว่า มีการพบศพที่บ้านท่าศาลาในวันที่ 26 ธ.ค. 2561 โดยอ้างอิงการโพสต์เฟซบุ๊กของเจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ซึ่งได้โพสต์ภาพพร้อมระบุว่า พบศพชายไทยไม่ทราบสัญชาติ ลอยอืดโผล่ติดริมตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณตำบลท่าจำปา อำเภอท่าอุเทน (อ่านเพิ่มเติมที่: ‘ป้าน้อย’ เชื่อสุรชัยถูกฆ่าแล้ว-ศพถูกทำลายแล้ว ย้ำกรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมคืนสนอง)

X