2 นศ.-นักกิจกรรม ยืนยันต่อสู้คดีหมิ่นประมาทอธิการราชภัฏบุรีรัมย์ เหตุติด-โพสต์ป้ายวิจารณ์ ด้านอธิการยอมถอนฟ้องอีก 3 นศ. หลังได้รับการขอโทษ

19 ม.ค. 2565 – 4 นักศึกษาคณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ กฤตพรต สุพรรณนอก, สุนิชา บัวแก้ว, สิรีธร สีหานาม, อัมรา จานรัมย์ และอีก 1 นักกิจกรรมกลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอก จตุพร แซ่อึง เดินทางไปที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ในนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีที่ทั้ง 5 คน ถูกอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ให้ตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีป้ายประท้วงค่าเทอมและเรียกร้องอธิการบดีที่โปร่งใสถูกติดในมหาวิทยาลัย เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2564

ภาพจำเลยทั้ง 5 ราย ที่มี 3 รายในนี้ตัดสินใจขอโทษอธิการบดี เพื่อให้ยุติการดำเนินคดี

หลังจากในนัดที่แล้วเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2564 ทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่า สุนิชาและสิรีธร จําเลยที่ 2 และที่ 5 ประสงค์จะขอโทษมาลิณี จุโฑปะมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ซึ่งขอเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการ ส่วนจำเลยที่เหลือประสงค์จะต่อสู้คดี ด้านทนายโจทก์ร่วมแถลงว่า หากจําเลยทั้งสองขอโทษ โจทก์ร่วมก็จะถอนฟ้อง โดยทนายจำเลยขอให้โจทก์ร่วมมารับการขอโทษในห้องพิจารณา

เวลา 09.30 น. ก่อนศาลขึ้นพิจารณาคดีในนัดนี้ กฤตพรต จำเลยที่ 1 ก็ตัดสินใจที่จะขอโทษอธิการบดีด้วยเช่นกัน แต่ทั้ง 3 คน ต้องเดินทางไปพบอธิการบดีที่มหาวิทยาลัย เนื่องจากอธิการบดีแจ้งว่าติดประชุม ไม่สามารถมาพบนักศึกษาทั้งสามที่ศาลได้ เมื่อทั้งกฤตพรต, สุนิชา และสิรีธร เดินทางไปถึงห้องอธิการบดีพร้อม พ.ต.ท.อัครพงษ์ วรรณพงษ์ ทนายความเครือข่ายของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เจ้าหน้าที่แจ้งว่าอธิการบดีต้องการพูดคุยกับ 3 นักศึกษาเป็นการเฉพาะ และให้ทนายความพร้อมทั้งผู้สังเกตการณ์ออกจากห้อง การพูดคุยเสร็จสิ้นในราว 20 นาทีถัดมา ทั้งหมดจึงกลับไปที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนที่ทนายโจทก์ร่วมได้ยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์จำเลยทั้งสาม

ในห้องพิจารณาคดีที่ 12 วัฒนา ชินรัตน์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดบุรีรัมย์ มีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ร่วมถอนคำร้องทุกข์จำเลยที่ 1, 2 และ 5 ตามที่ขอ มีผลให้สิทธิในการนำคดีอาญาของโจทก์มาฟ้องจำเลยทั้งสามระงับไป จึงให้จำหน่ายคดีในส่วนของจำเลยทั้งสามนั้น

จากนั้นศาลสอบถาม จำเลยที่ 3 อัมรา จานรัมย์ และจำเลยที่ 4 จตุพร แซ่อึง อีกครั้งว่าจะให้การอย่างไร โดยทั้งสองยืนยันให้การปฏิเสธ ศาลจึงเริ่มกระบวนการตรวจพยานหลักฐาน โดยอัยการและทนายโจทก์ร่วมแถลงว่ามีพยานเอกสาร 8 ฉบับ พยานวัตถุเป็นแผ่นบันทึกภาพและเสียง 1 อัน และมีพยานบุคคลที่จะนำเข้าสืบจำนวน 6 ปาก ได้แก่ มาลิณี จุโฑปะมา โจทก์ร่วม, เสาวรส ผัดโพธิ์ ผู้รับมอบอำนาจของผู้เสียหายให้ดำเนินคดี, พยานผู้เห็นข้อความที่โจทก์ร่วมอ้างว่าจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 เป็นผู้โพสต์ลงโซเชียลมีเดียรวม 2 ปาก, ตำรวจชุดสืบสวน 1 ปาก และพนักงานสอบสวนอีก 1 ปาก

ด้านภัทรพงษ์ วรรณพงษ์ อีกหนึ่งทนายความเครือขายศูนย์ทนายฯ แถลงศาลว่า จะสืบพยานทั้งสิ้น 8 ปาก โดยยังไม่ระบุรายชื่อบุคคล ศาลนัดวันสืบพยานโจทก์ 1 นัด พยานจำเลย 1 นัด ในวันที่ 26 – 27 ก.ค. 2565

หลังเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณาคดี สิรีธรเปิดเผยว่า บรรยากาศในห้องอธิการบดีขณะเข้าไปทำการขอโทษ พวกเธอแทบไม่ได้พูดอะไร ส่วนใหญ่เป็นอธิการบดีพูดในลักษณะอบรม และบอกเพียงแต่ว่าให้นำความจริงมาพูดกัน ทั้งยังพยายามสอบถามถึงผู้อยู่เบื้องหลังในการติดป้ายวิจารณ์อธิการบดีในครั้งนั้น

กฤตพรตเสริมด้วยว่า ที่ตัดสินใจเข้าขอโทษอธิการบดีเป็นเพราะพวกเขาทั้งสามคนไม่ปฏิเสธว่าได้ไปติดป้ายจริงๆ และคิดว่าถ้าพวกเขาต่อสู้คดีไป หากศาลพิพากษาว่าพวกเขาผิดและลงโทษอาจมีผลต่อการสอบเข้ารับราชการครูในอนาคต และอยากให้อัมราที่เป็นเพื่อนนักศึกษาได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ เพราะอัมราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ขณะมีการติดป้ายข้อความจริงๆ และพวกตนจะมาเป็นพยานเพื่อยืนยันว่า อัมราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ตามที่ถูกกล่าวหา

ภาพอัมรา ขณะไปพบรองอธิการบดีเพื่อเจรจาเกี่ยวกับเหตุในคดี

ส่วนอัมราพูดถึงความรู้สึกว่า เป็นห่วงเพื่อนทั้ง 3 คนที่เข้าไปพบอธิการบดีในห้องโดยไม่มีบุคคลอื่นอยู่ด้วย ทั้งที่จริงๆ แล้วอธิการบดีควรมาปรากฏตัวที่ศาล กระบวนการจะได้อยู่ในสายตาของบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดี ทั้งผู้พิพากษา อัยการ และทนายความ ส่วนตัวเธอก็จะเดินหน้าสู้คดีต่อไป เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำหรือเขียนป้ายข้อความเหล่านั้น ซึ่งเธอมีพยานที่จะยืนยันได้ว่า วันที่เกิดเหตุเธออยู่ในห้องสอบจริงๆ และเชื่อว่าฝ่ายโจทก์ก็คงไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดเธอได้ อัมราทิ้งท้ายด้วยว่า ฝ่ายโจทก์น่าจะรอบคอบกว่านี้หากจะเอาผิดใครสักคน

ทั้งนี้ เมื่อเดือนกันยายน 2564 อัมราทำหนังสือขอความเป็นธรรมไปถึงนายกสภามหาวิทยาลัยและประธานสภานักศึกษาระบุว่า เธอถูกอธิการบดีแจ้งความข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา โดยร่วมกันติดป้ายที่มีข้อความหมิ่นประมาท ซึ่งเธอไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำดังกล่าว ส่งผลให้เธอเสียชื่อเสียง อับอายแก่ผู้คน รวมทั้งมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานในอนาคต เนื่องจากเธอเป็นนักศึกษาคณะครุศาสตร์ ซึ่งจะต้องรักษาภาพลักษณ์ของการเป็นครูที่ดีในอนาคต หลังจากยื่นหนังสือไป รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาได้เรียกเธอพบเพื่อชี้แจง แต่การพูดคุยครั้งนั้นไม่เป็นผล หนำซ้ำเธอกลับถูกตั้งคำถามว่า ที่อ้างว่าเสียชื่อเสียงนั้น “เธอมีชื่อเสียงระดับไหน?”

>>นศ.ราชภัฏบุรีรัมย์ ถูกเรียกพบ หลังขอความเป็นธรรมสภามหาลัย เหตุเสียชื่อเสียง กรณีอธิการฯ แจ้งหมิ่นประมาท กลับถูกถาม “มีชื่อเสียงระดับไหน?”

อัมรายังเคยให้ความเห็นต่อกรณีที่เธอและเพื่อนถูกดำเนินคดีโดยอธิการบดีมหาวิทยาลัยว่า “ปัจจุบันหนูเป็นนักศึกษาครู หนูตั้งใจเข้ามาเรียนในสถาบันแห่งนี้ เพื่อศึกษา ฟูมฟักความเป็นครูที่ดีสู่สังคมในอนาคต ซึ่งหนูได้รับการปลูกฝังความเป็นครูจากที่นี่มาอย่างดี หากเด็กของหนูทำผิดจริง หนูจะใช้ความรักความเมตตาอบรมสั่งสอนศิษย์ ดีกว่าการใช้กฎหมายในการสั่งสอนและปิดปากผู้อื่น ซึ่งไม่มีใครเขาทำกัน”

สำหรับเหตุในคดี กฤตพรต เคยเปิดเผยถึงเรื่องที่พวกเขาต้องการอธิการบดีที่โปร่งใส สั่งสมมาตั้งแต่ปีการศึกษา 2563 ที่เคยทวงถามเรื่องการคืนค่าเทอมนักศึกษาปี 1 และอยากให้มหาวิทยาลัยออกประกาศหรือชี้แจงเรื่องที่เคยถามเกี่ยวกับเงินค่าบำรุงการพัฒนาการเรียนการสอนที่เขาเสียไปตั้งแต่ปี 2562 นั้นถูกนำไปใช้อย่างไรบ้าง

และอีกส่วนอยากเรียกร้องให้นักศึกษาปี 1 ที่จ่ายค่าเทอมแรกเข้าพร้อมค่าบำรุงการพัฒนาการเรียนการสอนรวมเป็นเงิน 9,900 บาท โดยช่วงโควิด -19 ที่มีการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์สลับกับเรียนในห้อง ทางมหาวิทยาลัยได้ประกาศเมื่อเดือนมิถุนายน 2563 ว่างดเว้นค่าบำรุงการพัฒนาการเรียนการสอนที่ปกติต้องจ่าย 1,000 บาท แต่ยังไม่เห็นว่า ทางมหาวิทยาลัยได้จัดการคืนค่าเทอมส่วนนั้นให้นักศึกษาปี 1 แต่อย่างใด การติดป้ายครั้งนั้นจึงเป็นการสะท้อนปัญหาและเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นมากกว่าเจตนาอื่น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องแล้ว! 5 นศ.-นักกิจกรรม ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เหตุป้ายวิจารณ์อธิการฯ โผล่ใน มรภ.บุรีรัมย์ นศ.แนะครูควรใช้ความรัก ดีกว่าใช้กฎหมายปิดปาก

นศ.-นักกิจกรรม อีก 3 ราย รับทราบข้อหา “หมิ่นประมาทฯ” หลังอธิการบดี มรภ.บุรีรัมย์ แจ้งความ ปรากฏ 1 รายไม่เกี่ยวข้อง เรียกร้องมหาลัยรับผิดชอบ

อธิการบดี ม.ราชภัฏบุรีรัมย์ แจ้งความ 4 นักศึกษา ฐาน “หมิ่นประมาทฯ” หลังปรากฏป้ายหน้า ม. ‘ต้องการอธิการที่โปร่งใส’