ปรับ 6 นักกิจกรรม-เยาวชน Korat Movement คนละ 1,000 หลังพ่นสี “ปล่อยเพื่อนเรา” กลางดึก

22 ธ.ค. 2564 เวลาประมาณ 23.30 น. นักกิจกรรม Korat Movement รวม 6 ราย เป็นเยาวชน 3 ราย ถูกตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา นำโดย พ.ต.อ. ประสิทธิ์ เปรมกมล ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมา เข้าจับกุมบริเวณสวนภูมิรักษ์ 2 ข้างคูเมืองโคราช ขณะทำกิจกรรมพ่นสีข้อความ “ปล่อยเพื่อนเรา” “ยกเลิก112” เรียกร้องปล่อยผู้ต้องขังคดี 112 และผู้ต้องขังทางการเมือง

หลังการจับกุม นักกิจกรรมทั้ง 6 ขอขี่มอเตอร์ไซค์ไปที่ สภ.เมืองฯ เอง เมื่อไปถึง ตำรวจชุดจับกุมระบุว่า จะแจ้งข้อหาผิด พ.ร.บ.ความสะอาดฯ และทั้งหกจะต้องเสียค่าปรับ เมื่อ “บุ๊ค” วรัญญู คงสถิตย์ธรรม หนึ่งในผู้ถูกจับกุม สอบถามว่า ปรับคนละเท่าไหร่ ชุดจับกุมตอบว่า หลักร้อย

จากนั้น ตำรวจจะถ่ายรูปและทำประวัติบุ๊คและเพื่อน รวมทั้งเยาวชน แต่ทั้งหมดปฏิเสธ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการทำบันทึกการจับกุมตามกระบวนการ

การทำบันทึกจับกุมเป็นไปอย่างล่าช้า โดยตำรวจอ้างว่า รอผู้กำกับ เป็นเวลานานกว่าผู้กำกับจะกลับมา รวมทั้งมีปลัดจังหวัด และเจ้าหน้าที่เทศบาล มาที่ สภ.เมืองฯ ด้วย ขณะที่เยาวชน 2 ราย เริ่มมีอาการปวดท้อง

ราว 02.30 น. ตำรวจจึงทำบันทึกจับกุมเสร็จ มีเนื้อหาว่า ด้วยเจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีกลุ่มเคลื่อนไหวความเห็นต่างทางการเมืองจะแสดงออกทางสัญลักษณ์ จึงได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์มาโดยตลอด จนกระทั่งมาถึงบริเวณสวนสาธารณะ (สวนภูมิรักษ์ 2) จึงพบผู้ต้องหาทั้ง 6 คน กําลังใช้สีสเปรย์พ่นลงบนพื้นถนนและผนังฝั่งคูน้ำ โดยมีสีสเปรย์ 4 กระป๋อง พร้อมแผ่นพลาสติกแกะรูปภาพที่ใช้ในการพ่นสีจํานวน 3 แผ่น จึงได้เชิญตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาที่ สภ.เมืองนครราชสีมา

เจ้าหน้าที่ตํารวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “กระทําการ ขีดเขียน พ่นสีหรือทําให้ปรากฏด้วยประการใดๆ ซึ่งข้อความภาพหรือรูปรอยใดๆ ที่กําแพงที่ติดกับถนน ที่ต้นไม้ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารที่ติดอยู่กับถนนหรืออยู่ในที่สาธารณะฯ” ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 12 ซึ่งมีเพียงโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงเริ่มสอบปากคำโดยไม่มีทนายความเข้าร่วม ทั้งหมดให้การรับสารภาพ เนื่องจากอยากให้กระบวนการจบโดยเร็ว โดยขณะนั้นเยาวชนรายหนึ่งปวดท้องอย่างหนักจนต้องฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ถึงตอนนี้พนักงานสอบสวนแจ้งว่าจะเปรียบเทียบปรับคนละ 1,000 บาท จากนั้นจะดำเนินคดีข้อหาทำให้เสียทรัพย์ และจะนำตัวไปฝากขังในตอนเช้า

บุ๊ครู้สึกว่าตำรวจเริ่มดำเนินการต่างจากที่แจ้งไว้ตอนต้น จึงโทรศัพท์ปรึกษาทนายความ โดยทนายความได้พูดคุยกับพนักงานสอบสวนทางโทรศัพท์ ให้เปรียบเทียบปรับฐานผิด พ.ร.บ.ความสะอาดฯ และหากจะดำเนินคดีข้อหาอื่นอีก ขอให้ออกหมายเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาในภายหลัง ไม่จำเป็นต้องนำตัวไปฝากขัง แต่พนักงานสอบสวนยืนยันว่า ต้องนำตัวไปฝากขัง ระบุว่าเป็นนโยบายของผู้บังคับบัญชา

ประมาณ 03.30 น. พนักงานสอบสวนบอกกับบุ๊คและเพื่อนอีกครั้งว่า ให้ชำระเงินค่าปรับจากนั้นจะปล่อยตัวกลับ บุ๊คจึงรีบจ่ายค่าปรับของทั้ง 6 คน รวมจำนวน 6,000 บาท ซึ่งขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์ เนื่องจากพวกเขามีเงินไม่พอจ่าย หลังพนักงานสอบสวนออกใบเสร็จค่าปรับ ทั้งหมดจึงได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับออกจาก สภ.เมืองนครราชสีมา ในเวลาประมาณ 04.30 น.

บุ๊คเล่าเหตุการณ์ในภายหลังว่า เขาและน้องๆ 3 – 4 คน ถูกตำรวจไปตามหาที่บ้านตั้งแต่เช้า แต่ไม่มีใครอยู่บ้าน เขาคาดว่า คงเป็นเพราะในวันนั้นมีราชวงศ์เสด็จมาที่อำเภอปากช่องด้วย

ต่อมา ราว 5 ทุ่ม พวกเขาจึงออกไปทำกิจกรรมที่เตรียมกันไว้ โดยการพ่นสีข้อความ “ปล่อยเพื่อนเรา” “ยกเลิก 112” รวมถึงรูปใบหน้าของผู้ต้องขังทางการเมืองที่ไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว ลงบนถนน เพื่อเรียกร้องสิทธิในการประกันตัวให้นักกิจกรรมเหล่านั้น ก่อนศาลมีคำสั่งในวันที่ 24 ธ.ค. 2564 ขณะกำลังพ่นสี ผู้กำกับ สภ.เมืองฯ ก็เข้ามา เหมือนกับว่า เขาสแตนบายรออยู่แถวนั้นอยู่แล้ว และบอกกับบุ๊คว่า คุยกันสักแป๊บนึง จากนั้นสักพักก็เชิญพวกเขาขึ้นรถตำรวจไปที่โรงพัก แต่บุ๊คและน้องๆ ขอขี่รถมอเตอร์ไซค์ตามไปเอง

ช่วงเวลา 4-5 ชั่วโมง ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา บุ๊คเล่าว่า สิ่งที่ตำรวจกล่าวกับพวกเขาเน้นไปในเรื่องว่าจะดำเนินคดีอาญา และโดยเฉพาะช่วงหลังๆ บอกว่าจะมีการฝากขังด้วย ซึ่งก็ทำให้น้องๆ ซึ่งยังเป็นเยาวชนอายุ 15 – 17 ปี ใจแป้วลงนิดนึง ส่วนปลัดจังหวัดเดินมาบอกว่า จะแจ้งความเรื่องทำให้เสียทรัพย์ด้วย แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจก็คือกระบวนการของตำรวจที่ล่าช้า จนทำให้น้องเยาวชนซึ่งปวดท้องกว่าจะได้กลับไปพักผ่อนก็เกือบเช้า

กลุ่ม Korat Movement ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่เป็นเยาวชนและคนรุ่นใหม่ รวมตัวกันเคลื่อนไหวในประเด็นสิทธิ เสรีภาพ ประชาธิปไตย ตลอดจนประเด็นทางสังคมอื่นๆ ในจังหวัด ที่ผ่านมา นอกจากจะถูกจับตาและคุกคามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว การจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวเพื่อยืนยันข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ของฝ่ายประชาธิปไตย คือ ประยุทธ์ต้องลาออก, แก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ รวมถึงเรียกร้องวัคซีนคุณภาพ ยังทำให้สมาชิกกลุ่มถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้วถึง 3 คดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตร.โคราชป่วน ไปบ้านเยาวชนกลุ่ม Korat Movement 3 ราย อ้างพบการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ เยาวชนยืนยันไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น

ตร.ล้อมบ้านนักกิจกรรม Korat Movement ทั้งคืนทั้งวันก่อนพระเทพฯ เสด็จ ทั้งไปสั่งแม่ห้ามนักกิจกรรมออกจากบ้าน อ้างกลัวก่อเหตุเผาซุ้ม-ทำลายขบวนเสด็จ

นักกิจกรรมโคราชสาดสีก่อนเข้าปฏิเสธ 3 คดี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยืนยันขับเคลื่อนด้วยความฝัน ความต้องการมีชีวิตที่ดี