ตร.ล้อมบ้านนักกิจกรรม Korat Movement ทั้งคืนทั้งวันก่อนพระเทพฯ เสด็จ ทั้งไปสั่งแม่ห้ามนักกิจกรรมออกจากบ้าน อ้างกลัวก่อเหตุเผาซุ้ม-ทำลายขบวนเสด็จ

เมื่อคืนวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับรายงานว่า เวลาราว 23.00 น. มีตำรวจนอกเครื่องแบบจากตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาราว 20-30 นาย ขับรถวนรอบบ้านกลุ่มนักกิจกรรม Korat Movement ในตัวเมืองนครราชสีมา นอกจากนี้ตำรวจยังมีการดักอยู่ตามซอยทางเข้าออกบ้านหลังดังกล่าว และขอตรวจค้นรถทุกคันที่ออกจากบ้านของนักกิจกรรม โดยทางกลุ่มนักกิจกรรมพยายามถามถึงสาเหตุการมาของตำรวจ แต่ไม่ว่าจะถามอะไรไป ตำรวจก็ไม่ตอบกลับมา

ฟ้า (นามสมมติ) เยาวชนอายุ 18 ปี หนึ่งในสมาชิก Korat Movement เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนที่เขาจะกลับบ้านช่วงเที่ยงคืน มีตำรวจขับรถยนต์ตามหลัง จึงตัดสินใจขับรถมอเตอร์ไซค์ไปจอดอยู่ตรงลานย่าโม รถคันดังกล่าวจึงขับหนี ฟ้าจึงได้ขับกลับบ้าน กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่ฟ้าออกจากบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาคุยกับแม่ของฟ้าที่บ้าน โดยสั่งแม่ให้ห้ามฟ้าออกจากบ้าน อ้างเหตุผลว่า กลัวว่าฟ้าจะไปเผาทำลายซุ้มพระบรมฉายาลักษณ์และทำลายขบวนเสด็จพระเทพฯ ที่จะเสด็จมาโคราชในวันนั้น

วรัญญู คงสถิตย์ธรรม หรือบุ๊ค อีกหนึ่งสมาชิก Korat Movement กล่าวถึงคืนวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่มีตำรวจล้อมบ้านของกลุ่มว่า คืนนั้นเขากลับบ้านไปในช่วง 03.00 น. โดยมีตำรวจขับรถยนต์ตามไปตรวจสอบในลักษณะว่า เขาได้ขับรถกลับไปบ้านจริงหรือไม่

ช่วงบ่ายวันต่อมา บุ๊คเดินทางไปบริเวณลานย่าโมเพื่อไปดูขบวนเสด็จ โดยบุ๊คนั่งอยู่บริเวณเก้าอี้ สักพักมีตำรวจเดินมาบอกให้บุ๊คนั่งลงที่พื้น และเมื่อพระเทพฯ เสด็จผ่านให้ยกมือไหว้ บุ๊คจึงถามตำรวจว่า หากไม่ทำตามจะผิดกฎหมายหรือไม่ หรือถ้าผิดกฎหมายข้อไหนก็ให้แจ้งความมา สุดท้ายตำรวจตอบไม่ได้ บอกเพียงว่าไม่เหมาะสม และให้บุ๊คออกจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวไปก่อน

เมื่อเห็นว่าบุ๊คไม่ยอมลงนั่งที่พื้น ก่อนพระเทพฯ จะเสด็จผ่านจุดนั้นราว 10 นาที เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ 3 นาย จึงบังคับควบคุมตัวในลักษณะกึ่งอุ้มกึ่งหิ้วตัวบุ๊คออกไปที่ลานชั้นล่างธนาคารแห่งหนึ่ง หลังลานย่าโม บุ๊คตั้งคำถามเจ้าหน้าที่ว่า “พี่ทำไมต้องใช้ความรุนแรง” เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “มันไม่ทันแล้ว”

จากนั้นตำรวจหนึ่งนายมาคุย บุ๊คกล่าวยืนยันว่าวันนี้ไม่ได้มาทำกิจกรรมอะไร แค่มานั่งเฉยๆ อยากรู้ว่า ขบวนเสด็จครั้งหนึ่งจะมีอะไรบ้าง และบอกตำรวจไปว่า การขอความร่วมมือของตำรวจคือการบังคับกลายๆ “เพราะตอนที่ผมไม่ได้นั่งลงกับพื้น เขาก็เอาตัวผมออกไป ใครไม่ยอมทำตามก็ใช้กำลัง” ทั้งนี้ ในเหตุการณ์ชุลมุนซึ่งบุ๊คถูกหิ้วตัวขณะไลฟ์สดอยู่ด้วย ทำให้โทรศัพท์ของบุ๊คได้รับความเสียหาย ตำรวจจึงอ้างเหตุผลว่า พาบุ๊คไปซ่อมโทรศัพท์ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และอยู่ที่ห้างจนได้รับรายงานว่า พระเทพฯ เสด็จกลับแล้ว บุ๊คจึงเดินทางกลับได้

บุ๊คให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทางกลุ่มทราบว่าจะมีการเสด็จของพระเทพฯ ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว และไม่ได้มีแผนจะทำกิจกรรมอะไร การที่ตำรวจมาวางกำลังรอบบ้านของพวกเขา คาดว่ากลัวทางกลุ่มจะทำกิจกรรมระหว่างพระเทพฯ เสด็จ ทั้งนี้ ตำรวจเฝ้าบริเวณรอบบ้าน Korat Movement ตั้งแต่คืนวันที่ 22 พฤศจิกายน กระทั่งพระเทพฯ เสด็จกลับในช่วงบ่ายของวันที่ 23 พฤศจิกายน ตำรวจจึงถอนกำลังออกไป

สำหรับการติดตามนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ที่แสดงออกทางการเมืองเกิดขึ้นเป็นประจำในจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการเสด็จของพระบรมวงศานุวงศ์ โดยเจ้าหน้าที่มักให้เหตุผลเมื่อถูกตั้งคำถามว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง สะท้อนกรอบคิดของเจ้าหน้าที่และรัฐที่ไม่ได้มองการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพที่มีตามรัฐธรรมนูญ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

นร.-นศ.-นักกิจกรรมร้อยเอ็ด 9 คน “ถูกปรามจัดกิจกรรม-ห้ามออกนอกบ้าน” ก่อนพระเทพฯ เสด็จเปิดหอโหวด 101

ทหาร-ตำรวจขอนแก่น ติดตาม-เฝ้าบ้าน 3 นักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อม กลัวไปยื่นฎีกากับพระเทพฯ ระหว่างเสด็จ

ตำรวจไปบ้านนักกิจกรรม บุรีรัมย์-สุรินทร์ 4 ราย หวั่นชูป้าย-ยื่นฎีกาช่วงพระเทพฯ เสด็จส่วนพระองค์ กำชับเชิงขู่ “ระวังมือที่สามจะทำร้าย”

นอกเครื่องแบบติดตามประชาชนในสกลนคร 4 ราย อ้างเป็น “บุคคลเฝ้าระวัง” ถือวิสาสะเข้าบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต