ฟ้อง 112 ‘ธนกร-ณัฐ’ ร่วมกิจกรรม #ใครๆก็ใส่ครอปท็อป เดินพารากอน เป็นคดีเยาวชนแสดงออกทางการเมืองคดีที่ 9

26 พ.ย. 2564 ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 ยื่นฟ้องธนกร (สงวนนามสกุล) และ ณัฐ (นามสมมติ) 2 เยาวชน ในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา จากกิจกรรม #ใครๆก็ใส่ครอปท็อป ไปเดินสยามพารากอน เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2563 นับเป็นการฟ้องคดีเยาวชนที่แสดงออกทางการเมืองคดีที่ 9 โดยเป็นการฟ้องด้วยมาตรา 112 คดีที่ 4 ทั้งยังเป็นคดีที่ธนกรถูกฟ้องด้วยมาตรา 112 คดีที่ 2 

หลังศาลเยาวชนฯ รับฟ้องได้ให้ประกันตัวทั้งสอง โดยให้วางหลักประกันเป็นเงินสดคนละ 20,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ โดยศาลได้นัดถามคำให้การอีกครั้งในวันที่ 7 ก.พ. 2565 เวลา 8.30 น.

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2564 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ได้ยื่นฟ้อง “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์, “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก, เบนจา อะปัญ และ “ป๊อกกี้” ภวัต หิรัณย์ภณ ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” จากกิจกรรมเดียวกันนี้

>> สั่งฟ้อง 5 นักกิจกรรม คดี “ม.112” จากกิจกรรม #ใครๆก็ใส่ครอปท็อป เดินพารากอน ก่อนศาลให้ประกัน 2 แสน พร้อมเงื่อนไข “ห้ามทำกิจกรรมเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ”

เปิดคำฟ้อง ชี้ใส่ “ครอปท็อป” เจตนาล้อเลียนกษัตริย์ ก่อนให้ประกัน 2 แสน พร้อมเงื่อนไข

พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 เป็นผู้ฟ้องคดีณัฐและธนกร ในฐานความผิด หมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112 คำฟ้องโดยสรุประบุว่า 

วันที่ 19 ธ.ค. 2563 เจ้าหน้าที่ตํารวจฝ่ายสืบสวนสถานีตํารวจนครบาลปทุมวัน กองบัญชาการตํารวจนครบาล และกองบัญชาการตํารวจสันติบาลได้สืบสวนหาข่าว พบว่าเพจเฟซบุ๊กชื่อ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม – United Front of Thammasat and Demonstration”, บัญชีทวิตเตอร์ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” และเพจเฟซบุ๊ก “เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ ParitChiwarak” ได้โพสต์ข้อความประกาศเชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม ร่วมกันใส่ชุด Crop Top (ครอปท็อป หรือชุดเสื้อกล้ามเอวลอย) เดินที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ในวันที่ 20 ธ.ค. 2563 โดยจําเลยทั้งสอง กับพวกอีก 5 คน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แยกสํานวนดําเนินคดีต่างหาก เป็นแกนนําจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในครั้งนี้ 

ต่อมาวันที่ 20 ธ.ค. 2563 จําเลยทั้งสอง กับพวกอีก 5 คน ได้ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี ตามที่ได้เตรียมการและนัดหมายกันไว้ล่วงหน้า เพื่อแสดงกิจกรรมล้อเลียน ดูหมิ่น และต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์และรัชกาลที่ 10 โดยการ แต่งกายใส่ชุดครอปท็อป, เขียนถ้อยคําหรือข้อความตามเนื้อตัวร่างกาย, ร่วมกันกล่าวคําพูดหรือถ้อยคํา แสดงบทบาท แสดงกิริยาอาการทางร่างกาย ใบหน้า และวิธีอื่นใดในทํานองเดียวกัน แล้วเดินวนเวียนไปมาที่บริเวณห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน 

คำฟ้องอัยการอ้างว่าการกระทำดังกล่าว มีเจตนาแสดงออกและสื่อความหมายให้ประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นบุคคลที่สามเข้าใจว่า กลุ่มจําเลยทั้งสองกับพวกได้ร่วมกันแสดงตนหรือบทบาทล้อเลียนดูหมิ่นรัชกาลที่ 10, พระราชินี และสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้ประชาชนเสื่อมความเคารพ ความศรัทธาต่อองค์พระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์ 

อัยการบรรยายฟ้องระบุว่า ณัฐได้แต่งกายชุดครอปท็อป เช่นเดียวกันกับพริษฐ์, ปนัสยา, เบนจา และภาณุพงศ์ ขณะที่ธนกรได้ร่วมกันทํากิจกรรมกับณัฐและพวกที่ถูกฟ้องไปก่อนหน้านี้ ชูป้ายกระดาษมีข้อความว่า “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” และ “ยกเลิก ม.116, ม.112” ตลอดเวลาขณะทํากิจกรรมได้แสดงออกในลักษณะเป็นพวกเดียวกันและมีการร่วมกันชูมือ 3 นิ้ว และร่วมกันถ่ายรูปต่อหน้าสื่อมวลชน อันเป็นการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ในทางการเมือง 


ทั้งนี้ อัยการไม่ได้คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวทั้งสองระหว่างพิจารณาคดี แต่กรณีของธนกร อัยการขอให้นับโทษหรือระยะเวลาฝึกอบรมในคดีนี้ต่อจากโทษหรือระยะเวลาฝึกอบรมในคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ เหตุร่วม #ม็อบ1พฤศจิกา แยกอุดมสุข / บางนา และคดี 112 จากการปราศรัย #ม็อบ6ธันวา วงเวียนใหญ่

อ่านข้อมูลคดีนี้>> คดี 112 กิจกรรม #ใครๆก็ใส่ครอปท็อป เดินพารากอน 20 ธันวา


9 คดีเยาวชนถึงชั้นศาลแล้ว เป็นคดี 112 ถึง 4 คดี เหตุ “ใส่ครอปท็อป-พ่นสีบนรูป ร. 10 – ปราศรัยในที่ชุมนุม”

จากการติดตามข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตั้งแต่เริ่มการชุมนุมของ “เยาวชนปลดแอก” เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 จนถึงวันที่ 30 พ.ย. 2564 มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกและชุมนุมทางการเมือง แล้วทั้งสิ้นอย่างน้อย 267 ราย ใน 182 คดี ในจำนวนนี้เป็นคดีที่อัยการยื่นต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลางแล้วรวม 8 คดี โดยเป็นคดีมาตรา 112 ถึง 4 คดี รายละเอียดโดยย่อดังนี้


ช่วงต้นปีที่ผ่านมา (28 ม.ค. 2564) พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเด็กและเยาวชน 3 มีความเห็นสั่งฟ้อง 3 เยาวชนนักกิจกรรม ได้แก่ “มิน” ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ, “พลอย” เบญจมาภรณ์ นิวาส และ “ภูมิ” (สงวนชื่อและนามสกุล) หลังทั้งสามเดินทางเข้าฟังคำสั่งของพนักงานอัยการ ในคดีที่ถูกกล่าวหาในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกรณีการเข้าร่วมปราศรัยในการชุมนุม #15ตุลาไปราชประสงค์ แม้ก่อนหน้านั้นทั้งสามคนได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการ ขอให้สั่งไม่ฟ้องคดี

ปัจจุบันคดีนี้ยังไม่มีการกำหนดนัดเพิ่มเติม เนื่องจากในนัดที่ผ่านมามีจำเลยติดโควิด

>>>สั่งฟ้องคดี 3 แกนนำนร. เยาวชนชี้อัยการไม่ได้พิจารณาประเด็นขอความเป็นธรรมที่ร้องไป

วันเดียวกัน พนักงานอัยการคดีเยาวชนยังได้ยื่นฟ้อง ธนกร (สงวนนามสกุล) หรือ “เพชร” อายุ 18 ปี นักกิจกรรมเยาวชน ในความผิดฐาน ฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ, กีดขวางจราจร, กีดขวางทางสาธารณะ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการเข้าร่วม #ม็อบ1พฤศจิกา หรือการชุมนุมแบบไร้แกนนำที่บริเวณแยกอุดมสุข – บางนา เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2563 ปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดนัดเพิ่มเติม

>>>ฟ้อง “ธนกร” นักกิจกรรม “เยาวชน” อีกราย ฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ เหตุร่วม #ม็อบ1พฤศจิกา แยกอุดมสุข / บางนา

24 พ.ค. 2564 ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ธนกรเดินทางเข้ารายงานตัวตามนัด ในคดีที่ถูกกล่าวหาในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามมาตรา 112 กรณีการปราศรัยในการชุมนุม #ม็อบ6ธันวา บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ก่อนพบว่าอัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2564 นัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งวันที่ 20 ธ.ค. 2564 เวลา 9.00 น.

>>>เยาวชนคนแรกที่ถูกฟ้องคดี 112 – อัยการสั่งฟ้อง “ธนกร” คดีปราศรัย #ม็อบ6ธันวา วงเวียนใหญ่

7 ต.ค. 2564 อัยการคดีเยาวชนยื่นฟ้อง มีมี่’ นักกิจกรรมเยาวชน ในคดีที่สืบเนื่องจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2563 ที่แยกราชประสงค์ กล่าวหาว่า ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมฯ, พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ และกีดขวางทางสาธารณะและการจราจร ศาลนัดสอบถามอีกครั้งวันที่ 14 ธ.ค. 2564

วันเดียวกัน ‘ภูมิ’ นักกิจกรรมเยาวชนอีกราย ถูกอัยการยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ในคดีจากการชุมนุมวันที่ 16 ต.ค. 2563 ที่แยกปทุมวัน ในข้อหา ฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามมาตรา 9 และ 11 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, มั่วสุม 5 คนขึ้นไป, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้าย และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน 


ภูมิยังถูกฟ้องอีกคดี เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2564 เหตุจากการร่วมชุมนุม #ตามหานาย เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2563 ที่ด้านหน้ากองพันทหารม้าที่ 4 กองพลที่ 1ฯ ถูกกล่าวหาว่าไม่แจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ, ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำให้ของโสโครกเปรอะเปื้อนทรัพย์ และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 

>>> อัยการสั่งฟ้อง “ภูมิและมีมี่”  2 เยาวชน ใน 3 คดี 

20 ต.ค. 2564 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัวยื่นฟ้องคดีตามมาตรา 112 สายน้ำ (นามสมมติ) เยาวชนอายุ 17 ปี กล่าวหาว่าแปะกระดาษ-พ่นสีสเปรย์บนรูปรัชกาลที่ 10 ในชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2564 โดยไม่ได้นัดหมายสายน้ำไปศาล เพราะคดีนี้เขาถูกปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นฝากขัง ถือว่าอยู่ในอำนาจของศาลแล้ว โดยหลังศาลได้นัดอีกครั้งวันที่ 1 ก.พ. 2565 เวลา 08.30 น.   

29 ต.ค. 2564 ในคดีที่สายน้ำมีนัดฟังคำสั่งอัยการ อัยการได้มีคำสั่งฟ้องอีกคดี และยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนฯ กล่าวหาว่า สายน้ำกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการแต่งเสื้อครอปท็อป (เสื้อกล้ามเอวลอย) เข้าร่วมเดินแฟชั่นโชว์ และเขียนข้อความบนร่างกาย ในการชุมนุม #ภาษีกู เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2563 ที่บริเวณด้านหน้าของวัดแขกบนถนนสีลม โดยคดีนี้ยังไม่มีการกำหนดนัดเพิ่มเติม


>>>“สายน้ำ” เยาวชนถูกฟ้องคดี 112 – 2 คดีรวด คดีใส่ชุดครอปท็อปเดินแฟชั่นสีลม-คดีแปะกระดาษพ่นสีสเปรย์รูป ร. 10


ล่าสุดคดีที่ 9 คือคดีที่อัยการฟ้อง ธนกรและณัฐ ในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามมาตรา 112 จากกิจกรรม #ใครๆก็ใส่ครอปท็อป ไปเดินสยามพารากอน เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2563

X