คุกคามหนัก! ตร. ไปบ้าน “ป่าน ทะลุฟ้า” ที่ จ.น่าน ก่อนแสดง Blacklist นักกิจกรรม ให้ครอบครัวดู

ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งกรณีของกตัญญู หมื่นคำเรือง หรือ “ป่าน ทะลุฟ้า” หนึ่งในทีมงานสื่อของกลุ่มทะลุฟ้า ถูกตำรวจสันติบาลคุกคามถึงที่บ้านพักในจังหวัดน่าน ในขณะที่ตนเองไม่ได้อยู่ที่จังหวัดน่าน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่ป่านได้เข้าร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองกับกลุ่มทะลุฟ้าหลายครั้ง

ตร. แสดง หมายเรียก-Blacklist นักกิจกรรม ก่อนพูดข่มขู่ให้ไปมอบตัว

ป่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 64 ช่วงเวลากลางวัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลมาหาครอบครัวของเธอที่บ้านพักอาศัยในจังหวัดน่าน ซึ่งในระหว่างนั้น มีแม่ของป่านที่อยู่ในบ้านพักเพียงลำพัง

“ตอนตำรวจมาหา ป่านไม่ได้อยู่ที่บ้าน แต่อยู่ในกรุงเทพ รู้เรื่องอีกทีก็ตอนที่แม่โทรมาหา” ป่านเปิดเผยว่าในวันเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจใส่ชุดในเครื่องแบบหลายนายมาเยี่ยม โดยยืนออกันอยู่ในบริเวณบ้านของเธอ ก่อนที่กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวจะพูดกับแม่ของป่านในลักษณะข่มขู่คุกคาม พร้อมทั้งแสดงรายชื่อ “บัญชีดำ” (Blacklist) นักกิจกรรมที่ปรากฏว่ามีชื่อของป่านอยู่ในนั้นด้วย

“ตำรวจส่งรูปภาพเราที่แปะอยู่ในบัญชี Blacklist นักกิจกรรมให้ที่บ้านดู มันมีทั้งชื่อเราและก็เลขหมายเรียกจาก บก.ปอท. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) ทั้งๆ ที่เรายังไม่เคยเห็นหมายเรียกนี้มาก่อน แล้วแม่ก็ตกใจและกังวลมาก เพราะมันมีทั้ง Blacklist, หมายเรียก, รูปภาพ และภาพถ่ายของเรา รวมถึงคำพูดของตำรวจที่บอกประมาณว่า ‘เดี๋ยวก็มีหมายเรียกมาอีกนะ ตอนนี้กำลังเช็คอยู่’”

ป่านระบุเพิ่มเติมอีกว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ครอบครัวถูกตำรวจคุกคามในลักษณะนี้ ก่อนหน้านี้หลายครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเอาหมายเรียกส่งไปให้ครอบครัวป่านถึงบ้าน พร้อมกับพูดจาข่มขู่ว่าจะมีการดำเนินคดีและบอกให้ป่านไปมอบตัวด้วย

“ปกติตำรวจจะใช้วิธีการส่งหมายเรียกมาให้ทางไปรษณีย์ หมายเรียกส่งมาหาเราเยอะมาก และมาเรื่อยๆ คือเราได้รับแล้วนะ แต่ตำรวจก็ยังจะส่งหมายเรียกไปให้ที่บ้านอีกรอบ ทางบ้านมีพ่อกับแม่เราที่อยู่ แต่ส่วนใหญ่แม่จะอยู่คนเดียว พอตำรวจมาถึงก็พูดประมาณว่า ‘มีอะไรก็รีบไปรับสารภาพ ปรึกษาตำรวจ ปรึกษาทนาย เดี๋ยวจะโดนจับนะ ถ้าไม่ไป’ ‘ทำไมลูกได้หมายเรียกเยอะจัง’ ‘นี่รู้ไหม ลูกทำอย่างนั้นอย่างนี้!‘ และก็บอกว่า ‘คนข้างบน เขาฝากมาบอกแบบนี้นะ’ ซึ่งเรารู้สึกไม่โอเคมากๆ”

หลังจากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเยี่ยมบ้าน ป่านเล่าว่า แม้พ่อแม่จะบอกว่าไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก เพราะเห็นว่าตำรวจมาตามหน้าที่ แต่การกระทำและคำพูดของเจ้าหน้าที่ได้สร้างความลำบากใจและไม่พอใจให้ป่านเป็นอย่างมาก

“รู้สึกไม่โอเคที่ตำรวจมาหาที่บ้าน เราบรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่ควรให้พ่อแม่ต้องมารู้สึกหวาดกลัว หรือรับรู้เรื่องแบบนี้ คือเขารับรู้ได้ เราไม่ติดเรื่องเขารับรู้ในสิ่งที่เราทำ แต่ว่าเราบรรลุนิติภาวะแล้ว การกระทำของเราถูกตัดสินใจด้วยเรา ไม่ใช่ที่บ้าน เราไม่โอเคที่ที่บ้านต้องมาแบกรับเรื่องพวกนี้ หรือมาหวาดวิตกกับเรื่องพวกนี้ มันเป็นการสร้างความหวาดกลัวให้ที่บ้าน มันรุนแรงในด้านความรู้สึกของเรา”

ทั้งนี้ จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ป่านถูกดำเนินคดีจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองไปแล้วทั้งหมด 10 คดี โดยล่าสุดเพิ่งถูกกล่าวหาถึง 6 คดี เหตุจากเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การชุมนุม #ทะลุแก๊ส ที่บริเวณดินแดง ซึ่งเธอถูกกล่าวหาในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไล่ไปตามวันที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าพบเห็นไปไลฟ์สดในที่ชุมนุม

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 64 ป่านยังเคยเดินทางเข้าตรวจสอบหมายจับที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท) เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งติดต่อทางโทรศัพท์ถึง 2 ครั้ง อ้างว่าเธอมีหมายจับในคดีที่ บก.ปอท. โดยป่านได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าได้มาแสดงตัวแล้ว แม้ว่าจะไม่มีการดำเนินคดีใดๆ ก็ตาม

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

“สายป่าน” ทะลุฟ้าเข้าแสดงตัวที่ ปอท. หลัง ตร.อ้างว่ามีหมายจับ แต่กลับไม่มีหมายใดๆ

‘ป่าน ทะลุฟ้า’ ถูก ตร.ดินแดง แจ้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีก 3 คดีรวด ส่วนทีมงานเพจกระเทยแม่ลูกอ่อนก็โดน 2 คดี เหตุพบอยู่ที่ชุมนุมทะลุแก๊ซ