แจ้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 8 นักกิจกรรม “ทะลุฟ้า” เหตุร่วมให้กำลังใจ #saveมิลลิ ขณะที่นักกิจกรรม 7 ราย โดนหลายข้อหา หลังร่วม #ม็อบ18กรกฎา

วานนี้ (15 ก.ย. 64) ที่สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง เวลา 10.30 น. นักกิจกรรมกลุ่มทะลุฟ้ารวม 8 ราย พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ในฐานความผิดร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ เหตุร่วมให้กำลังใจ #Saveมิลลิ นักร้องและแรปเปอร์ ที่ สน.นางเลิ้ง เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 64

ในคดีนี้ มีผู้ถูกออกหมายเรียกทั้งหมด 10 ราย ได้แก่ “ไผ่” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, นวพล ต้นงาม, จิตริน พลาก้านตง, ทวี เที่ยงวิเศษ, ชาติชาย ไพรลิน, พรชัย ยวนยี, มิณราญาพร สำนองคำ, พรหมศร วีระธรรมจารี หรือ “ฟ้า” จากกลุ่มราษฎรมูเตลู, ธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือ “ปูน” เยาวชน อายุ 18 ปี และ “แซน” (นามสมมติ) เยาวชน อายุ 16 ปี

อย่างไรก็ตาม ผู้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในช่วงเช้าของวานนี้ มีทั้งหมด 8 ราย เนื่องจากจตุภัทร์ยังถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง จากเหตุ 3 คดี ได้แก่ คดีสาดสีหน้า สน.ทุ่งสองห้อง, คดีสาดสีหน้าพรรคภูมิใจไทย และคดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ส่วนด้านพรหมศรเพิ่งจะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำอำเภอธัญบุรีในช่วงเย็น หลังจากถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. 64 จากเหตุร่วมชุมนุม #ม็อบ2สิงหา

ในวันเดียวกันที่ สน.นางเลิ้ง นักกิจกรรมรวมทั้งหมด 7 ราย ได้แก่ “ลูกเกด” หรือ ชลธิชา แจ้งเร็ว และกรกช แสงเย็นพัทธ์ จากกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย, ปิยรัฐ จงเทพ แกนนำมวลชนอาสา We Volunteer หรือวีโว่, ใบบุญ (สงวนนามสกุล), ธนกร (สงวนนามสกุล), ชาญชัย ปุสรังสี และ “ภูมิ” (นามสมมติ) นักกิจกรรมเยาวชน พร้อมทนายความ เดินทางรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก เหตุร่วมชุมนุม #ม็อบ18กรกฎา เพื่อขับไล่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ตร.แจ้ง “ทะลุฟ้า” 2 ข้อหา เหตุใช้เครื่องขยายเสียง-แปะป้ายผ้า “พักก่อนประยุทธ์”

ในส่วนคดีแรกนั้น มี พ.ต.ต.ศรีสวัสดิ์ บ้านเกาะ สว.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง ได้แจ้งข้อกล่าวหาและพฤติการณ์ให้แก่ผู้ต้องหา 8 ราย

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 64 ดนุภา คณาธีรกุล หรือ “มิลลิ” นักร้องและแรปเปอร์ มาพบพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อรับทราบข้อหากล่าวหาที่อภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี และทนายความของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ให้ดําเนินคดีกับดนุภา ที่แต่งเพลงเสียดสี นายกฯ ในข้อหา “ดูหมิ่นโดยการโฆษณา”

กระทั่งต่อมา เวลาประมาณ 10.00 น. ของวันเดียวกัน ผู้ต้องหาพร้อมกับกลุ่มผู้ชุมนุมอีก 30 คน ได้เดินทางมาให้กำลังใจดนุภา โดยทางกลุ่มผู้ต้องหาได้มีการใช้เครื่องขยายเสียง และป้ายผ้าระบุข้อความ “พักก่อนประยุทธ์” “พักก่อนตํารวจ” “Saveมิลลิ” ทําให้เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้น

จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.40 น. เจ้าหน้าที่ตํารวจสามารถปลดป้ายลงได้

พนักงานสอบสวนจึงแจ้ง 2 ข้อกล่าวหา ต่อผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย ได้แก่ “ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดและประกาศ ออกความในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ” และ “ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกําลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ

หลังจากแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวให้ทราบแล้ว ผู้ต้องหาให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะยื่นคำให้การภายในวันที่ 5 ต.ค. 64

ตร.แจ้ง “ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ – มาตรา215” เหตุร่วมชุมนุมปราศรัยและแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

ในส่วนของคดีที่สอง พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รอง ผกก. (สอบสวน) สน.นางเลิ้ง เป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาและพฤติการณ์แก่ผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 64 กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด 7 ราย ได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีการทยอยขนอุปกรณ์ในการชุมนม เช่น หุ่นรูปศพ ป้ายภาพ ไพ่คิงที่มีรูปศีรษะ พล.อ.ประยุทธ์ในร่างสุนัข อยู่บริเวณด้านล่างป้าย ฯลฯ โดยมีมวลชนประมาณ 400 คน รถกระบะและรถยนต์หลายคันจอดเป็นแถว ตั้งแต่แยกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จนถึงแยกคอกวัว

ต่อมาเวลาประมาณ 15.35 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนมาอยู่บริเวณหน้าแนวลวดหนามบริเวณแยกผ่านฟ้า ผู้กํากับการ สน.นางเลิ้ง ได้ประกาศข้อกฎหมายและชี้แจง พ.ร.บ.การชุมนุมฯ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และแจ้งว่าเป็นการชุมนุมผิดกฎหมาย แต่ผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตามแจ้งประกาศ และยังได้ร่วมกันตัดลวดหนาม เผาหุ่น และใช้ก้อนอิฐ ก้อนหิน ลูกแก้ว ขว้างและยิงใส่เจ้าหน้าที่ตํารวจ และยังมีกลุ่มมวลชนบางคนได้ใช้สีพ่นสเปรย์ตามฝาผนัง ใต้ฐานซุ้มพระ บรมฉายาลักษณ์ และมีกลุ่มมวลชลบางคนจุดไฟเผาผ้าพระบรมฉายาลักษณ์

ต่อมา กลุ่มมวลชนได้เคลื่อนพลได้ไปตามถนนนคสวรรค์จนถึงบริเวณแยกเทวกรรม ในระหว่างนั้นกลุ่มมวลชนได้ยิงหนังสติ๊กลูกแก้ว หัวน็อต ขว้างปาประทัด วัตถุคล้ายระเบิด ไม้ ก้อนหิน และ เหล็กใส่เจ้าหน้าที่ตํารวจจนได้รับบาดเจ็บ และได้พ่นสีสเปรย์ตามพื้นและราวสะพาน ด้วยข้อความอันมิบังควร และยังมีกลุ่มมวลชนพ่นข้อความบนพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและได้จุดไฟเผาผ้าประดับพระบรมฉายาลักษณ์ได้รับความเสียหายบริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระนคร

ต่อมา กลุ่มมวลชนได้เคลื่อนพลไปบริเวณแยกนางเลิ้งและได้มีการตั้งเวทีปราศรัยบนรถยนต์ กลุ่มผู้ชุมนุมได้พ่นข้อความบนรั้วสมาคมราชตฤณมัยเดิม และยังได้ขว้างปาประทัด วัตถุคล้ายระเบิด ก้อนหิน ก้อนอิฐ ไม้ ใส่เจ้าหน้าที่ตํารวจ

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตํารวจได้เข้ากระชับพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมเลิกจากการชุมนุม แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมเลิก และได้เคลื่อนขบวนไปบริเวณแยกยมราช ขว้างปาประทัด วัตถุคล้ายระเบิด ก้อนหินก้อนอิฐ ไม้ ใส่เจ้าหน้าที่ตํารวจได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปทางแยกอุรุพงษ์ โดยการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าว ทําให้การจราจรติดขัดและไม่สามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ

พนักงานสอบสวนจึงแจ้ง 6 ข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ได้แก่ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวาย โดยคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกมั่วสุมแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง, มาตรา 216, ร่วมกันกีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรฯ, ร่วมกันกองวัตถุใดๆ บนพื้นถนน ตาม พ.ร.บ.ความสะอาดฯ และร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ในขณะที่ปิยรัฐถูกแจ้งข้อหาในลักษณะเดียวกัน แต่ในข้อหามั่วสุมก่อความวุ่นวายนั้น ปิยรัฐถูกแจ้งว่า เป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่ในการสั่งการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 วรรคสาม อีกด้วย

หลังจากแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวให้ทราบแล้ว ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเพิ่มเติมภายในวันที่ 15 ต.ค. 64 โดยพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัว ไม่ได้ควบคุมตัวไว้

คดีนี้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกผู้ต้องหาภายหลังการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 64 ทั้งหมด 14 ราย มีบางราย เข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปแล้ว และบางรายยังไม่ได้รับทราบข้อกล่าวหา ได้แก่ ชาติชาย แกดำ และพรหมศร วีระธรรมจารี ซึ่งเพิ่งได้รับการประกันตัวออกจากเรือนจำอำเภอธัญบุรีในเย็นวานนี้