“เซียงเมี่ยง-คิว” 2 นักกิจกรรมทะลุฟ้า เข้ามอบตัว หลังถูกกล่าวหา ชิงตัวผู้ต้องขังใน #ม็อบ3กันยา ก่อนศาลให้ประกัน ตั้งเงื่อนไขห้ามออกนอกเคหสถาน

วันนี้ (17 ก.ย. 64) ที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไท “เซียงเมี่ยง” ธนาดล จันทราช และ “คิว” ณัชพล ไพรลิน 2 สมาชิกกลุ่ม “ทะลุฟ้า” เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน หลังทราบว่าถูกออกหมายจับในคดี #ม็อบ3กันยา จากกรณีถูกกล่าวหาว่าชิงตัวผู้ต้องขังกลุ่มทะลุฟ้าในค่ำวันที่ 3 ก.ย. 64

มูลเหตุคดีนี้สืบเนื่องจาก วันที่ 3 ก.ย. 64 หลังการยุติของกิจกรรม “ราษฎรไม่ไว้วางใจมึง” ที่แยกราชประสงค์ จัดโดยกลุ่ม “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” และกลุ่ม “ทะลุฟ้า” เวลาประมาณ 20.24 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบได้เข้าตรวจสอบรถเครื่องเสียงของกลุ่ม “ทะลุฟ้า” ด้วยการขับขี่รถปาดหน้ารถและทุบรถของกลุ่มทะลุฟ้า พร้อมทั้งล็อคคอบังคับผู้ที่อยู่ในรถให้ลงมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบจะเข้ามาสมทบและเข้าจับกุม นายทวี เที่ยงวิเศษ และนายธนาดล จันทราช ในลักษณะกระชากตัวออกไป โดยไม่มีการแสดงหมายจับแต่อย่างใด  ทำให้กลุ่มทะลุฟ้าสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าใช้อำนาจใดเข้าจับกุม และพยายามไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมทั้งสอง 

คลิปขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม 

ในคดีเดียวกันนี้มีถูกออกหมายจับอีก 2 ราย คือ ทวี เที่ยงวิเศษ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มทะลุฟ้า ถูกจับกุมขณะรับทราบข้อกล่าวหา ในคดีรวมตัวให้กำลังใจ #Saveมิลลิ ที่สน.นางเลิ้ง ส่วนอีกราย ใบบุญ (สงวนนามสกุล) ถูกจับกุมที่หน้าบ้านพักของตนเอง เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 64 เวลาประมาณ 23.00 น. ต่อมาทั้งสองถูกพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอฝากขัง และศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว 

วันนี้ ธนาดลและณัชพลได้เดินทางมามอบตัวตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1501/2564 และ 1503/2564 ลงวันที่ 13 ก.ย. 64 หลังถูกกล่าวหาชิงตัวผู้ต้องขังกลุ่มทะลุฟ้าในค่ำวันที่ 3 ก.ย. 64 โดยพนักงานสอบสวนได้บรรยายพฤติการณ์โดยสรุปว่า 

ก่อนเกิดเหตุ เพจเฟซบุ๊ก “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” และเพจเฟซบุ๊กกลุ่ม “ทะลุฟ้า” ได้โพสต์ข้อความเชิญชวนบุคคลทั่วไปให้ไปร่วมชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ในวันที่ 3 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 16.00 น.

ต่อมาในวันดังกล่าว พ.ต.ต.ไพบูลย์ สอโส ผู้กล่าวหา ได้พบรถกระบะสีดำ ในพื้นที่ชุมนุม และใช้เครื่องขยายเสียง หลังยุติการชุมนุม มีชายวัยรุ่น 4 รายขับและโดยสารอยู่ภายในรถยนต์ โดยรถยนต์ได้ติดตั้งเครื่องเสียง ซึ่งใช้ในการกระทำผิดต่อกฎหมาย

แต่มีกลุ่มมวลชนพยายามดึงตัวนายทวี ไปจากผู้กล่าวหา ทำให้มีการกระชากผู้ถูกจับกุม จนเกิดเหตุชุลมุน โดยมีมวลชนหลายคนได้เข้ามาล็อคคอผู้กล่าวหา ทำให้ผู้กล่าวหาล้มลงกับพื้น และมีชายไม่ทราบชื่อจำนวนหลายคน และนายทวี ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้กล่าวหา โดยใช้เท้าเตะที่หลังและลำตัว และต่อยที่บริเวณใบหน้า ผู้กล่าวหาได้พยายามป้องกันตัว แต่เนื่องจากกลุ่มมวลชนที่มีจำนวนมาก จึงไม่สามารถควบคุมตัวผู้ถูกจับกุมไว้ได้ จากนั้นกลุ่มมวลชนได้พาผู้ถูกจับกุมหลบหนีไปได้

จากนั้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแตกต่างกันแก่ทั้งสอง ดังนี้ 

นายณัชพลถูกแจ้งข้อหาเพียง 1 ข้อหา ได้แก่  “ร่วมกันกระทําด้วยประการใดให้ผู้ถูกคุมขังตามอํานาจของเจ้าพนักงานผู้มีอํานาจสืบสวนคดีอาญาหลุดพ้นจากการคุมขังไป” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 191

ส่วนนายธนาดลถูกแจ้งข้อหาทั้งหมด 4 ข้อหา ได้แก่ 

  1. “ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กําลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย โดยร่วมกระทําความผิดด้วยกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 ประกอบมาตรา 140 
  2. “ร่วมกันกระทําด้วยประการใดให้ผู้ถูกคุมขังตามอํานาจของเจ้าพนักงานผู้มีอํานาจสืบสวนคดีอาญาหลุดพ้นจากการคุมขังไป” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 191
  3. “หลบหนีไประหว่างถูกคุมขังตามอำนาจของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 190
  4. ฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ “ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด” 

ทั้งสองได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และปฎิเสธลงลายมือในบันทึกจับกุม แต่เขียนว่า “ประยุทธ์ออกไป” แทนการลงลายชื่อ  และจะให้การเป็นหนังสือเพิ่มเติมภายใน 30 วัน

หลังเสร็จสิ้นกระบวนการ พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอฝากขังทั้งสองต่อศาลอาญารัชดา ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ อีกทั้งพนักกงานสอบสวนยังคัดค้านการขอประกันตัว ระบุ เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ทั้งพฤติการณ์ในการกระทำผิดของผู้ต้องหานั้นไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองและยังกระทำลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง เกรงว่าหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาจะไปก่ออันตรายประการอื่นอีก ด้านทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยวางเงินสดจำนวนคนละ 20,000 บาท เป็นหลักประกัน

ต่อมา ศาลมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวทั้งสอง  โดยวางเงื่อนไขห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่ 15.00 น.-05.00 น. ของวันถัดไป ส่วนณัชพลถูกเพิ่มอีกเงื่อนไข คือ ให้ติดกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ (EM)   พร้อมกับให้วางหลักทรัพย์ประกันคนละ 20,000 บาท

ศาลกำหนดนัดรายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 4 พ.ย. 64

เวลาประมาณ 18.10 น. หลังได้รับการปล่อยตัว ทั้งสองเปิดใจสั้นๆ ผ่านไลฟ์เพจกลุ่มทะลุฟ้า โดยธนาดลกล่าวว่า วันนี้มามอบตัวทำตามกลไกกฎหมาย รู้สึกโล่งใจที่ได้รับการประกันตัว ขณะเดียวกันก็รู้สึกห่วงเพื่อนที่ยังอยู่ในเรือนจำ ส่วนณัชพลกล่าวว่า คดีก็ดำเนินการไปตามกระบวนการไป แต่ตนรู้สึกติดใจเนื่องจากคดีนี้ได้หมายจับเลย มิใช่หมายเรียกตามกระบวนการ ส่วนเงื่อนไขของศาลวันนี้ตนไม่ได้กังวลใจเท่าไหร่

ย้อนอ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกรณี #ม็อบ3กันยา

‘อาทิตย์ ทะลุฟ้า’ ถูกตร.แสดงหมายจับคดี #ม็อบ3กันยา ทั้งที่ไม่เคยได้หมายเรียก ก่อนรีบขอฝากขัง ศาลอาญาไม่ให้ประกัน

จอดปาดหน้าก่อนจับรถเครื่องเสียง 3 คัน ไร้หมายจับ หลัง #ม็อบ3กันยา – อีก 2 เยาวชน ถูกจับฝ่าเคอร์ฟิวที่ดินแดง 1 ใน 2 ถูกกระสุนยางยังอยู่ รพ.

X